วันศุกร์ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2556

คำตอบของพระเยซูเจ้า



คำตอบของพระเยซูเจ้า
วันอาทิตย์
สัปดาห์ที่ 3 เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า
ปี A
อสย 35:1-6, 10
ยก 5:7-10
มธ 11:2-11
บทนำ
เย็นวันหนึ่ง ขณะที่กลุ่มเด็กชายกำลังเล่นบาสเกตบอลอยู่ที่ลานสาธารณะของหมู่บ้าน ปรากฏชายแอฟริกัน-อเมริกัน รูปร่างสูงใหญ่ศีรษะล้านเดินออกกำลังกายผ่านมา เขาหยุดมองดูเด็กเหล่านั้นคู่หนึ่ง จากนั้นได้ขอเล่นบาสเกตบอลกับพวกเขา เมื่อเริ่มเล่นชายแปลกหน้าคนนั้นได้แสดงทักษะการเล่นอย่างมืออาชีพ ทั้งชู๊ตสามคะแนน เล่นใต้แป้นและแสลมดั้ง หลังจากเล่นบาสเกตบอลกับเด็กๆ ประมาณสิบห้านาที เขาได้กล่าวขอบคุณและเดินจากไป
ชายแปลกหน้าคนนั้นไม่ได้บอกว่าเขาชื่ออะไร บรรดาเด็กหยุดเล่นและพูดกันว่าเขาเหมือนกับไมเคิล จอร์แดน สุดยอดนักบาสเกตบอลอาชีพผู้โด่งดังที่พวกเขาเคยเห็นทางโทรทัศน์ แต่ผู้เล่นยอดเยี่ยมจากลีกบาสเกตบอลอาชีพ (NBA) อย่างไมเคิล จอร์แดน จะมาเดินทอดน่องในชนบทห่างไกลเช่นนี้ได้อย่างไร พวกเขาต่างสงสัยว่าชายแปลกหน้าคนนั้นเป็นคนเดียวกันกับไมเคิล จอร์แดน จริงไหม
ในพระวรสารวันนี้ ยอห์น บัปติสต์ เกิดความสงสัยและถามคำถามในลักษณะเดียวกันกับพระเยซูเจ้า ชายชื่อเยซูพร้อมผู้ติดตามที่เป็นชาวประมงเป็นพระผู้ช่วยให้รอด (Messiah) ที่พวกเขารอคอยหรือเปล่า หรือจะต้องรอใครอีก ยอหน์เป็นประกาศกองค์สุดท้ายในพันธสัญญาเดิม ที่เป็นพยานถึงความจริงและความถูกต้องจนกระทั่งถูกจับกุม ในช่วงเวลานี้เองที่พระเยซูเจ้าได้เริ่มภารกิจในการประกาศข่าวดีของพระเจ้า ยอห์นซึ่งอยู่ในคุกได้ยินถึงกิจการที่พระองค์ทรงกระทำ เกิดความไม่แน่ใจจึงส่งศิษย์ไปถามว่า “ท่านคือผู้ที่จะมาหรือเราจะต้องรอคอยใครอีก”

1.         คำตอบของพระเยซูเจ้า
นักพระคัมภีร์หลายคนแปลกใจว่าทำไมยอห์นจึงส่งศิษย์ไปถามพระเยซูเจ้า มีคำอธิบายที่เป็นไปได้สองอย่าง 1) ยอห์นทราบดีว่าพระเยซูเจ้าเป็นพระคริสต์ แต่เนื่องจากเวลานั้นท่านถูกจองจำจึงอยากให้ศิษย์ได้ติดตามพระเยซูเจ้า เมื่อพวกเขาพบกับพระองค์จะได้ทราบด้วยตนเองว่าพระองค์เป็นพระผู้ช่วยให้รอดและกลายเป็นศิษย์ติดตามพระองค์ 2) ยอห์นเริ่มสงสัยในคุณสมบัติของพระเยซูเจ้า เพราะสิ่งที่พระองค์ทรงกระทำตรงข้ามกับสิ่งที่ยอห์นคาดคอย พระองค์ยังมิได้ประกอบพิธีล้างด้วยไฟและพระจิตเจ้าอย่างที่ท่านเคยทำนายไว้
พระเยซูเจ้าไม่ได้ตอบคำถามศิษย์ของยอห์นโดยตรง แต่ทรงตรัสว่า “จงไปบอกยอห์นถึงสิ่งที่ท่านได้ยินและได้เห็น” คำเทศน์สอนและการอัศจรรย์ต่างๆ ที่พระองค์ทรงกระทำเป็นเครื่องหมายถึงอาณาจักรของพระเจ้าตามที่ประกาศกในพันธสัญญาเดิมกล่าวถึง พระเยซูเจ้าได้แสดงให้เห็นถึงหนทางใหม่แห่งอาณาจักรพระเจ้า บนพื้นฐานของการสำนึกผิดและการกลับใจ ทรงทำให้คนตาบอดมองเห็น คนง่อยเดินได้ คนหูหนวกได้ยิน คนใบ้พูดได้ คนโรคเรื้อนหายจากโรค และคนตายฟื้นคืนชีพ
สิ่งเหล่านี้คือการทำให้คำทำนายของบรรดาประกาศกสำเร็จไป และเป็นเครื่องหมายว่าพระผู้ช่วยให้รอดได้เสด็จมาแล้ว อาณาจักรของพระเจ้าได้เริ่มขึ้นแล้ว การอัศจรรย์ยิ่งใหญ่ที่ทรงกระทำในวันนี้คือ การกลับใจของเราเพื่อเข้าสู่อาณาจักรของพระเจ้า พระองค์ทรงกระทำกับเราเช่นเดียวกับที่ทรงกระทำกับประชาชนสมัยนั้น แต่ในรูปแบบและวิธีการที่ต่างกัน ประการสำคัญ พระองค์จะสามารถกระทำการอัศจรรย์เหล่านี้ได้ก็ต่อเมื่อ เราได้เปิดตัวเองให้พระองค์ทรงทำงานและร่วมมือกับพระหรรษทานของพระองค์
พระเยซูเจ้าได้ให้ตัวอย่างของยอห์น บัปติสต์แก่เรา เพื่อให้กำลังใจและกระตุ้นเตือนความหวังไว้ใจในเรา ยอห์นได้เป็นเครื่องมือที่ดีของพระเจ้าในการเตรียมทางของพระองค์ และได้เป็นพยานถึงความจริงและความถูกต้องด้วยชีวิต ดังนั้น พระเยซูเจ้าจึงยกย่องยอห์นว่า “เป็นผู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด” พระเยซูเจ้าจะทรงมอบความยิ่งใหญ่แบบเดียวกันกับเรา หากเราได้ยืนหยัดมั่นคงในความเชื่อ และเป็นพยานถึงความจริงและความถูกต้องด้วยความกล้าหาญ

2.         บทเรียนสำหรับเรา
พระวาจาของพระเจ้าในวันนี้ ได้ให้บทเรียนที่สำคัญสำหรับเราหลายประการในการนำไปปฏิบัติในชีวิตประจำวัน
ประการแรก เราต้องเปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาส ในสถานการณ์แห่งความสงสัยและท้อแท้สิ้นหวัง เราต้องมองหาโอกาสที่เป็นไปได้ ด้วยการทบทวนความเชื่อของเราที่มีต่อพระเจ้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด และสานต่อพันธกิจของพระองค์ในการสร้างอาณาจักรพระเจ้าในโลกนี้ให้สมบูรณ์ ในความรัก ความเมตตากรุณา การให้อภัยและการรับใช้ซึ่งกันและกัน
ประการที่สอง เราต้องไปบอกทุกคนถึงสิ่งที่เราได้ยินและเห็น ด้วยการบอกเล่าเรื่องราวความรัก ความเมตตากรุณา การให้อภัย และการรับใช้ที่สุภาพถ่อมตนของพระคริสตเจ้า ที่บังเกิดมาในวันพระคริสตสมภพ เพื่อพระองค์จะได้บังเกิดในจิตใจของเรา ทำให้เราเข้มแข็งด้วยพระพรแห่งความรักและการให้อภัย และสรรพพร้อมที่จะแบ่งปันความชื่นชมยินดีนี้กับผู้อื่น สิ่งที่พระองค์สั่งศิษย์ของยอห์น พระองค์ทรงสั่งเราเช่นเดียวกัน
ประการที่สาม เราต้องเปิดใจกว้างให้พระเจ้าเปลี่ยนแปลงชีวิตเรา ชีวิตของเราจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างแน่นอน หากเราเพียรทนและวางใจในพระเจ้า เราต้องเตรียมจิตใจเราเพื่อต้อนรับองค์พระคริสตเจ้า ด้วยการกลับใจคืนดีกับพระเจ้า (ผ่านทางศีลอภัยบาป) และเปลี่ยนแปลงตนเองทุกวัน (จากความโน้มเอียงไม่ดีต่างๆที่เราคุ้นเคย) ตลอดเทศกาลเตรียมรับเสด็จฯนี้ 

บทสรุป
พี่น้องที่รัก พระเยซูเจ้าคือพระแมสิยาห์ที่บรรดาประกาศกกล่าวถึง ที่ได้เสด็จมาเพื่อสถาปนาอาณาจักรพระเจ้าในโลก และทรงมอบภารกิจนี้แก่เราในการทำให้อาณาจักรพระเจ้าสมบูรณ์ เราจะต้องทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด และสานต่อพันธกิจของพระองค์ในโลกนี้ให้สมบูรณ์ ทำให้สังคมและโลกที่เราอยู่เป็นโลกที่เต็มไปด้วยความรักมากกว่าความเกลียดชัง โลกแห่งการให้อภัยมากกว่าการแก้แค้นผูกพยาบาท โลกแห่งความจริงมากกว่าการโกหกหลอกลวง และโลกแห่งความเมตตากรุณามากกว่าการแบ่งแยกแตกต่าง
ที่สุด เราจะต้องเลียนแบบอย่างยอห์น บัปติสต์ ในการเป็นเครื่องมือที่ดีของพระเจ้า และเป็นพยานถึงการเสด็จมาของพระองค์ด้วยความจริงและความถูกต้องชอบธรรม เราจะต้องรื้อฟื้นชีวิตแห่งการภาวนาและการคืนดีกับพระเจ้า เพื่อเตรียมต้อนรับการเสด็จมาของพระคริสตเจ้า เราจะต้องเป็นผู้สร้างและนำข่าวดีแห่งความรัก ความเมตตากรุณา การให้อภัยและรับใช้ให้บังเกิดขึ้นในครอบครัว หมู่คณะ และสังคมของเรา เช่นนี้เอง เราจะเป็นผู้ยิ่งใหญ่ในพระอาณาจักรสวรรค์ยิ่งกว่ายอห์นเสียอีก
คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
danielkhuan@hotmail.com
โรงเรียนเซนต์ยอแซฟกุฉินารายณ์
13 ธันวาคม 2013

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น