วันเสาร์ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

พันธกิจแห่งการประกาศข่าวดี

 

พันธกิจแห่งการประกาศข่าวดี

อาทิตย์

สมโภชพระเยซูเจ้าเสด็จสู่สวรรค์

ปี B

กจ 1:1-11

อฟ 1:17-23

มก 16:15-20

บทนำ

วันนี้เราสมโภชพระเยซูเจ้าเสด็จสู่สวรรค์ เพื่อระลึกถึงเหตุการณ์สี่สิบวันหลังการกลับคืนพระชนมชีพ พระเยซูเจ้าเสด็จสู่สวรรค์ต่อหน้าบรรดาศิษย์ด้วยอำนาจของพระองค์เอง ก่อนเสด็จสู่สวรรค์พระองค์ได้ตรัสกับบรรดาศิษย์และเราแต่ละคน ให้เราสานต่องานไถ่กู้มนุษยชาติของพระองค์ให้สำเร็จ ด้วยการประกาศข่าวดีของพระองค์ทั้งในคำพูดและการกระทำของเรา อีกทั้ง เป็นวันเฉลิมฉลองการได้รับพระสิริรุ่งโรจน์ของพระองค์ซึ่งเราทุกคนมีส่วน

ทุกวันอาทิตย์เราประกาศข้อความเชื่อว่า “พระองค์เสด็จสู่สวรรค์” การเสด็จสู่สวรรค์ของพระเยซูเจ้าเป็นจุดสุดยอดของแผนการของพระเจ้าสำหรับพระเยซูเจ้า เป็นการเสด็จกลับไปหาพระบิดาของพระองค์และทำให้ “พันธกิจสำเร็จ” การเสด็จสู่สวรรค์ของพระเยซูเจ้าเป็นฉากจบที่ยิ่งใหญ่ของพระวาจาและงานทั้งหมดของพระองค์ที่ทำเพื่อเราและเพื่อความรอดของเรา ถือเป็นจุดสุดยอด แต่ไม่ใช่บทสรุป

สิ่งมหัศจรรย์ประการหนึ่งคือ แม้ว่าเวลานี้พระเยซูเจ้าอยู่กับพระเจ้าในพระสิริรุ่งโรจน์ พระองค์ยังคงอยู่กับเรา ประทับอยู่ภายในเราร่วมกับพระบิดาเจ้าและพระจิตเจ้า “เราอยู่กับท่านทุกวันตลอดไปตราบจนสิ้นพิภพ” (มธ 28:20) การเสด็จขึ้นสู่สวรรค์ต่อหน้าบรรดาศิษย์ ทำให้หลายคนได้สัมผัสประสบการณ์การกลับคืนพระชนมชีพของพระเยซูเจ้าเป็นการส่วนตัว และ ณ “พระหัตถ์ขวาของพระเจ้า” พระเยซูเจ้ายังคงวิงวอนเพื่อเราทุกคน ทรงเป็นหนึ่งเดียวกับพระบิดาเจ้าและพระจิตเจ้าในพระสิริตลอดไป

1.         พันธกิจแห่งการประกาศข่าวดี

การเสด็จสู่สวรรค์ของพระเยซูเจ้ามีความแตกต่างกันในพระวรสารแต่ละฉบับ ผู้เขียนไม่ได้มีมุ่งให้รายละเอียดทางประวัติศาสตร์ แต่ต้องการให้ความสำคัญกับพระดำรัสที่ตรัสกับบรรดาศิษย์ ซึ่งเป็นเจตจำนงสุดท้ายของพระองค์ และได้รับการบันทึกแตกต่างกันแต่มีความสอดคล้องกันในประเด็นที่ว่า : 1) พระเยซูเจ้าทรงมอบพันธกิจแก่บรรดาศิษย์ ซึ่งเป็นงานผูกมัดพวกเขาจนกว่าพระองค์จะเสด็จกลับมาอีกครั้งหนึ่ง และ 2) ทรงให้ความมั่นใจว่าจะทรงช่วยเหลือพวกเขาในการทำให้พันธกิจนี้สำเร็จ

“ท่านทั้งหลายจงออกไปทั่วโลก ประกาศข่าวดีแก่มนุษย์ทั้งปวง” (มก 16:15) เป็นพันธกิจที่ชัดเจนมาก พระเยซูเจ้าทรงต้องการให้เราประกาศข่าวดีแก่มนุษย์ทุกชาติ ทุกภาษา และวัฒนธรรม เราถูกเรียกให้บอกเล่าเรื่องราวพระชนม์ชีพ พระทรมาน การสิ้นพระชนม์ และการกลับคืนพระชนมชีพของพระเยซูเจ้าด้วยชีวิตของตน ในการเจริญชีวิตตามคุณค่าพระวรสารในชีวิตประจำวัน พันธกิจนี้มิใช่เป้าหมายที่สำเร็จได้ด้วยกำลังความสามารถของมนุษย์

พระเยซูเจ้าทรงสัญญาประทานพลังแก่ผู้นำสารด้วยอำนาจของพระจิตเจ้า การประกาศข่าวดีแก่มนุษยชาติควรเริ่มต้นจากตัวเรา ด้วยการคุกเข่าลงอธิษฐานภาวนาวอนขอพระพรจากพระจิตเจ้า และสารภาพว่า งานทุกอย่างสำเร็จได้มิใช่ด้วยมือเรา แต่ด้วยพระหรรษทานจากเบื้องบน พระจิตเจ้าทรงช่วยเหลือให้พันธกิจนี้ดำเนินต่อไป ประการสำคัญ พระองค์ทรงสัญญาจะอยู่กับเราเสมอไปจนสิ้นพิภพ ในพระศาสนจักร ผ่านทางพระวาจา ศีลศักดิ์สิทธิ์ และในการอธิฐานภาวนาร่วมกัน

2.         บทเรียนสำหรับเรา

การสมโภชพระเยซูเจ้าเสด็จสู่สวรรค์และพระวาจาของพระเจ้าวันนี้ ได้ให้บทเรียนสำคัญสำหรับเราหลายประการ ในการนำไปปฏิบัติในชีวิตประจำวัน

ประการแรก เราต้องเป็นผู้ประกาศและเป็นพยานถึงข่าวดี พระเยซูเจ้าทรงมอบพันธกิจแห่งการประกาศข่าวดีแก่ผู้มีความเชื่อทุกคน มีความแตกต่างระหว่างการเทศน์สอนกับการประกาศ เราสอนด้วยคำพูด แต่เราประกาศด้วยชีวิต เราถูกส่งไปประกาศข่าวดีแห่งชีวิตและความรัก ข่าวดีแห่งความหวังและสันติสุขในการเป็นพยานด้วยชีวิตของตน เราต้องเป็นศิษย์พระคริสต์ในทุกที่ที่เราอยู่และไป เริ่มต้นจากในครอบครัวและชุมชนวัดของเรา

ประการที่สอง เราต้องสานต่อพันธกิจแห่งการประกาศข่าวดี ทรงมอบบทเรียนแห่งความเชื่อ ความหวัง ความเมตตากรุณา ความรัก และการให้อภัยแก่เรา แม้ไม่ได้เห็นการปรากฏพระองค์ในโลกอีก แต่ทรงปรากฏพระองค์ในพระวาจา เราต้องทำให้พระวาจาของพระองค์ปรากฏเป็นจริงในชีวิตของเราและชีวิตของผู้อื่น เราต้องทำเหมือนอย่างที่พระเยซูเจ้าทรงกระทำ พันธกิจแห่งการประกาศข่าวดีแก่มนุษยชาติต้องเริ่มที่ตัวเราก่อน และมีความสุภาพถ่อมตนเพื่อให้พระจิตเจ้าทรงนำทางเรา

ประการที่สาม เราต้องตระหนักถึงการประทับอยู่ของพระเยซูเจ้า พระองค์ได้ให้ความมั่นใจว่าจะอยู่กับเราตลอดไป แม้ในห้วงเวลาแห่งความทุกข์และความยากลำบากในชีวิต “เวลานี้พระเยซูเจ้าได้รับเกียรติรุ่งโรจน์ในสวรรค์ แต่ยังคงทรมานในโลก ในความเจ็บปวดและความทุกข์ระทมที่เรา พระกายทิพย์ของพระองค์ได้รับ” (น.เอากุสติน) เราต้องดำเนินชีวิตในความรักต่อกัน อธิษฐานภาวนาร่วมกัน ดำเนินชีวิตเป็นแสงสว่างให้คนอื่นเห็นความดีในตัวเรา

บทสรุป

พี่น้องที่รัก ก่อนจากบรรดาศิษย์สู่สวรรค์ พระเยซูเจ้าทรงมอบพันธกิจของพระองค์แก่พวกเขา เป็นพันธกิจแห่งการประกาศข่าวดีแก่ทุกคนในโลก นี่เป็นเจตจำนงสุดท้ายที่ทรงต้องการจากบรรดาศิษย์ของพระองค์และเราแต่ละคน เราได้รับแสงสว่างแห่งพระวรสารแล้วตั้งแต่วันรับศีลล้างบาป ดังนั้น เราต้องนำข่าวดีนี้ไปสู่ผู้อื่น ความเชื่อที่เรามีมิใช่สมบัติส่วนบุคคลที่ต้องเก็บรักษาไว้กับตนเอง แต่ต้องแบ่งปันกับผู้อื่นด้วยชีวิตของตน

พระเยซูเจ้าได้เสด็จสู่สวรรค์อย่างรุ่งโรจน์ เป็นความหวังว่า สักวันหนึ่งเราจะได้อยู่กับพระองค์ในสวรรค์เช่นเดียวกัน หากเราดำเนินชีวิตตามแบบอย่างของพระองค์ ในอีกด้านหนึ่ง สวรรค์เป็นที่ประทับของพระเจ้า ศิษย์พระคริสต์ต้องอุทิศตนเพื่อทำให้โลกกลายเป็นสวรรค์ที่พระเจ้าประทับอยู่ สวรรค์บังเกิดขึ้นแล้วตั้งแต่ในโลกนี้ในความรักต่อกัน การให้อภัยความผิดของกันและกัน การรับใช้ซึ่งกันและกัน และในความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ช่วยเหลือแบ่งปันกันตามกำลังความสามารถ

คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์

ID LINE : dondaniele

วัดนักบุญยอแซฟ ดอนทอย-หนองสนุก, สกลนคร

11 พฤษภาคม 2024

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น