วันเสาร์ที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2564

พระเจ้าทรงรักโลกมาก

 

พระเจ้าทรงรักโลกมาก

อาทิตย์

สัปดาห์ที่ 4 เทศกาลมหาพรต

ปี B

2 พศด 36:14-16, 19-23

อฟ 2:4-10

ยน 3:14-21

บทนำ

มีเรื่องเล่าว่ากองทัพของจักรพรรดิไซรัสแห่งเปอร์เซียได้จับตัวคากูลาร์ หัวหน้าโจรผู้ก่อความไม่สงบในอาณาจักรได้และนำตัวไปรอการประหาร ในวันตัดสินคดีความ คากูลาร์พร้อมครอบครัวถูกนำเข้ามาในห้องพิพากษาต่อหน้าจักรพรรดิ คากูลาร์เป็นคนรูปร่างสูงใหญ่ อาจหาญสมชาติบุรุษ จักรพรรดิรู้สึกประทับใจตรัสกับเขาว่า “หากข้าไว้ชีวิตเจ้า เจ้าจะทำสิ่งใด” คากูลาร์ตอบว่า “ข้าพระองค์จะกลับบ้านและยอมเป็นทาสเชื่อฟังพระองค์จนตลอดชีวิต”

จักรพรรดิไซรัสตรัสต่อไปว่า “หากข้าไว้ชีวิตภรรยาเจ้า เจ้าจะทำสิ่งใด” คากูลาร์ตอบว่า “หากพระองค์ไว้ชีวิตภรรยา ข้าพระองค์จะยอมตายเพื่อพระองค์” จักรพรรดิรู้สึกประทับใจได้ปล่อยตัวคากูลาร์และภรรยาเป็นอิสระ เมื่อกลับถึงบ้านคากูลาร์นึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างตื่นเต้น เขาถามภรรยาว่าเห็นอะไรบ้าง ภรรยาจ้องมองเขาและพูดอย่างจริงจังว่า “ฉันเห็นเพียงใบหน้าของชายคนหนึ่งพูดกับจักรพรรดิว่าเขาสามารถตายเพื่อฉันได้”

พระวรสารวันนี้เผยให้เราเห็นพระพักตร์ของบุตรพระเจ้า ที่ถูกส่งมาสิ้นพระชนม์เพื่อเรา และเผยให้เราเห็นความรักและพระเมตตาของพระเจ้าต่อเราแต่ละคน แก่นแท้ของพระวรสาร หัวใจของชีวิตฝ่ายจิตคริสตชน และพื้นฐานความหวังของมนุษย์ ปรากฏชัดเจนในพระวรสารวันนี้ “พระเจ้าทรงรักโลกอย่างมาก จึงได้ประทานพระบุตรเพียงพระองค์เดียวของพระองค์  เพื่อทุกคนที่มีความเชื่อในพระบุตรจะไม่พินาศ แต่จะมีชีวิตนิรันดร” (ยน 3:16)

1.        พระเจ้าทรงรักโลกมาก

พระวรสารนักบุญยอห์น บทที่ 3 ข้อที่ 16 เป็นตอนงดงามที่สุดในพระคัมภีร์ เรียกกันว่า “ข่าวดีแห่งพระวรสาร” (Gospel of the gospels) เพราะนี่เป็นบทสรุปของข่าวดีนำความรอดผ่านทางพระเยซูเจ้า “ความรักของพระเจ้า” เป็นคำสอนสำคัญของพระวรสารนักบุญยอห์น บอกให้เราทราบถึงการเข้ามาเกี่ยวข้องต่อความรอดของมนุษย์ของพระเจ้า ผู้ทรงเป็นองค์ความรัก ทรงรักโลกทั้งหมดและไม่มีใครถูกตัดขาดจากความรักของพระองค์ “พระเจ้าทรงรักเราแต่ละคน ประหนึ่งว่ามีเราเพียงคนเดียวเท่านั้น” (นักบุญเอากุสติน)

ข้อความตอนนี้ยังอธิบายให้เราได้ทราบถึงความรักที่เป็นสากลของพระเจ้า ความรักเป็นพลังผลักดันของพระเจ้าเพื่อความรอดของมนุษยชาติ ใครต้องการความรอดต้องเชื่อในองค์พระบุตร มีคนจำนวนไม่น้อยเชื่อว่า พระเจ้าไม่ทรงสนใจใยดีมนุษย์ ทรงปล่อยให้ทุกอย่างเกิดขึ้นและเป็นไปตามยถากรรม ทรงอยู่ห่างไกลไม่ใส่ใจความเป็นไปของมนุษย์เลย บางคนมองพระเจ้าเป็นผู้ปกครองกดขี่ เข้มงวดให้ถือตามบทบัญญัติ และคอยลงโทษมนุษย์

พระเยซูเจ้าทรงประกาศพระเจ้าในแบบตรงข้าม ไม่ใช่พระเจ้าที่คอยตัดสินใครอย่างเข้มงวด แต่เป็นผู้ใส่ใจในความเป็นไปของมนุษย์ ทรงบังเกิดเป็นมนุษย์ เปิดเผยให้เห็นถึงความรักของพระเจ้าทั้งในคำพูดและการกระทำ ด้วยการยอมสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขนเพื่อทุกคน ไม่มีใครมีความรักยิ่งใหญ่ กว่าการสละชีวิตของตนเพื่อมิตรสหาย” (ยน 15:13) ทรงกระทำเช่นนั้นเพราะทรงรักเรา ทรงอภัยบาปและนำเราให้กลับมาเป็นหนึ่งเดียวกับพระบิดาเจ้าอีกครั้ง

2.        บทเรียนสำหรับเรา

พระวาจาของพระเจ้าวันนี้ได้ให้บทเรียนสำคัญสำหรับเราหลายประการ ในการนำไปปฏิบัติในชีวิตประจำวัน

ประการแรก เราต้องรักไม้กางเขน การที่พระเยซูเจ้าทรงถูกยกขึ้นบนไม้กางเขนได้กลายเป็นศูนย์กลางของวัด เตือนใจเราให้ตระหนักถึงความรักและพระทัยเมตตาของพระเจ้า อีกทั้งราคาแห่งความรอดที่ทรงไถ่เราด้วยชีวิตของพระองค์ ดังนั้น ในบ้านคริสตชนต้องมีสัญลักษณ์แห่งความรักของพระเจ้านี้ เพื่อเตือนเราได้น้อมรับความทุกข์ยากลำบากต่าง ๆ และเป็นพลังสำหรับเราในการเอาชนะความยากลำบากที่กำลังเผชิญ

ประการที่สอง เราต้องตอบสนองความรักของพระเจ้าด้วยการรักกัน ความรักของพระเจ้าเป็นความรักไม่มีเงื่อนไข ไร้ขีดจำกัด ทรงรักทุกคนโดยไม่แบ่งแยก ทรงให้อภัยและเมตตากรุณาต่อทุกคนโดยไม่เลือกที่รักมักที่ชัง ให้เราพยายามเลียนแบบอย่างความรักของพระองค์ ในการแบ่งปันความรักของเรากับเพื่อนมนุษย์ในเทศกาลมหาพรตนี้ เป็นต้น คนเดือดร้อนและต้องการความช่วยเหลือ

ประการที่สาม เราต้องนำแสงสว่างของพระคริสตเจ้าไปสู่ผู้อื่น ใครเดินตามแสงสว่างของพระคริสตเจ้าจะไม่เดินในความมืด ให้เราได้นำแสงสว่างของพระคริสตเจ้าไปสู่ทุกคน ไม่วิพากษ์วิจารณ์ หรือตัดสินใคร แต่ช่วยทุกคนให้เดินในแสงสว่างแห่งความจริงและความถูกต้อง “แสงสว่างของท่านต้องส่องแสงต่อหน้ามนุษย์ เพื่อคนทั้งหลายจะได้เห็นกิจการดีของท่าน และสรรเสริญพระบิดาของท่านผู้สถิตในสวรรค์ (มธ 5:16)

บทสรุป

พี่น้องที่รัก พระเจ้าทรงรักโลกมาก ความรักของพระองค์เป็นความรักไร้ขีดจำกัด เต็มไปด้วยความเมตตากรุณาต่อประชากรของพระองค์ ทรงใส่พระทัยในความเป็นไปของเราแต่ละคน ด้วยการส่งพระบุตรแต่องค์เดียวของพระองค์ เพื่อรวบรวมเราให้เป็นหนึ่งเดียวและมีชีวิตใหม่ในพระองค์ อีกทั้ง ทรงส่งเราให้นำความรักของพระองค์ไปสู่โลก

ศิษย์พระคริสต์ต้องตระหนักในความรักของพระเจ้า และเลียนแบบพระเยซูเจ้าผู้เป็นแสงสว่างของโลกที่ทรงรักและยอมตายเพื่อทุกคน ด้วยการนำความรักของพระเจ้าไปสู่ผู้อื่น ไม่วิพากษ์วิจารณ์ หรือตัดสินใคร แต่รักทุกคนโดยไม่แบ่งแยก แสงสว่างแห่งความรักและการให้อภัยของพระเจ้าต้องฉายแสงในชีวิตเรา เพื่อช่วยให้ทุกคนได้เดินในแสงสว่างแห่งความจริงและความถูกต้อง ลด ละ เลิก ความประพฤติไม่ดีต่าง ๆ เป็นต้นในเทศกาลมหาพรตนี้

คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์

https://dondaniele.blogspot.com/

เทศกาลมหาพรต 40 วันแห่งการฟื้นฟูชีวิตคริสตชน, สกลนคร : สมศักดิ์การพิมพ์ กรุ๊ป, 2561, หน้า 91-94.

ภาพ : พระอัครสังฆราชอันตน วีระเดช ใจเสรี, วัดน้อยผู้เลี้ยงแกะที่ดี, สำนักมิสซังฯ สกลนคร; 2021-03-10

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น