การชำระพระวิหาร
อาทิตย์ สัปดาห์ที่ 3 เทศกาลมหาพรต ปี B |
อพย 20:1-17 1 คร 1:22-25 ยน 2:13-25 |
บทนำ
พระสงฆ์องค์หนึ่งตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพขณะเดินทางกลับบ้านพัก
โจรได้ใช้ปืนจี้และบอกให้ส่งทรัพย์สินมีค่ามาให้ คุณพ่อหันกลับมาและล้วงกระเป๋าสตางค์
ทำให้โจรเห็นชุดพระสงฆ์และพูดว่า “เป็นพระสงฆ์นี่ งั้นเชิญคุณพ่อครับ” พระสงฆ์องค์นั้นรู้สึกแปลกใจและขอบคุณในความเคารพที่ได้รับแบบคาดไม่ถึง
และตอบแทนโจรคนนั้นด้วยการยื่นบุหรี่ให้หนึ่งซอง เขาตอบคุณพ่อว่า “ไม่ละครับคุณพ่อ
ผมไม่สูบบุหรี่ในเทศกาลมหาพรต”
พระวิหารที่นครเยรูซาเล็มเป็นสัญลักษณ์ของศาสนายิว
มีเพียงแห่งเดียวและเป็นศูนย์กลางของการถวายสักการบูชาและเครื่องเผาบูชาสำหรับชาวยิว
ขณะที่ศาลาธรรมมีอยู่ทั่วไปตามชุมชนชาวยิว เป็นที่สำหรับอธิษฐานภาวนาและศึกษาธรรมบัญญัติในแต่ละสัปดาห์
ในเทศกาลปัสกาซึ่งเป็นเทศกาลสำคัญในรอบปี ชาวยิวที่อาศัยอยู่ทั่วปาเลสไตน์พากันไปแสวงบุญที่เยรูซาเล็ม
เพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลสำคัญนี้และจ่ายภาษีบำรุงพระวิหาร
ถือเป็นเรื่องปกติที่มีโต๊ะแลกเงินในบริเวณพระวิหาร
เนื่องจากเงินเหรียญโรมันใช้ในพระวิหารไม่ได้
เพราะมีรูปเทพเจ้าและจักรพรรดิซึ่งเป็นคนต่างศาสนา ต้องแลกเป็นเงินเชเคลที่ชาวยิวใช้กัน
มีพ่อค้านำสัตว์ชนิดต่าง ๆ อาทิ นกพิราบ แกะ และวัวมาขายให้ผู้แสวงบุญ เพื่อใช้เป็นเครื่องเผาบูชาในพระวิหาร
ลานด้านนอกพระวิหารจึงคลาคล่ำไปด้วยพ่อค้า ส่งเสียงอึกทึกคึกโคมเหมือนตลาดทั่วไป
1.
การชำระพระวิหาร
พระวรสารวันนี้ พระเยซูเจ้าทรงชำระพระวิหารที่กรุงเยรูซาเล็ม
และทรงทำนายถึงการทำลายและการสร้างขึ้นใหม่
ซึ่งหมายถึงการสิ้นพระชนม์และการกลับคืนพระชนมชีพของพระองค์ การประทับอยู่ของพระเจ้าในพระวิหารหมายถึงพระองค์เอง
ทรงอ้างประกาศกอิสยาห์ว่า “บ้านของเราจะได้ชื่อว่าบ้านสำหรับประชากรทั้งหลายเพื่อการอธิษฐานภาวนา”
(อสย 56:7ก) ดังนั้น พระวิหาร หรือวัดเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์
ได้รับการถวายเพื่อการนมัสการพระเจ้า
พระวิหารเป็นสถานที่ซึ่งผู้มีใจศรัทธามาพบและมีประสบการณ์เกี่ยวกับพระเจ้า
ผ่านทางการอธิษฐานภาวนาและการนมัสการพระเจ้า ต้องไม่มีเรื่องการค้าขาย หรือแสวงหาผลกำไร
ที่มาทำลาย หรือรบกวนบรรยากาศของการรำพึงภาวนาและการนมัสการพระเจ้า พระเยซูเจ้าทรงคว่ำโต๊ะแลกเงิน
เอาเชือกมาทำเป็นแส้ขับไล่พ่อค้าและสัตว์ที่พวกเขานำมาให้ออกไปจากพระวิหาร
เพื่อไม่ให้พวกเขาทำให้บ้านของพระบิดากลายเป็นซ่องโจร หรือตลาด
การชำระพระวิหารของพระเยซูเจ้า
เป็นสัญลักษณ์แห่งการชำระของพระเมสสิยาห์ การทำลายและการสร้างพระวิหารขึ้นใหม่
หมายถึงพระวิหารใหม่แห่งพระเมสสิยาห์ที่ไม่จำเป็นต้องใช้แกะ วัว หรือสัตว์เป็นเครื่องเผาบูชาอีกต่อไป
เพราะเป็นวิหารแห่งความเมตตากรุณาสำหรับมนุษย์ในการนมัสการและคืนดีกับพระเจ้า
ทุกคนสามารถเข้าสู่พระอาณาจักรสวรรค์ได้ผ่านทางพระองค์ “เราเป็นหนทาง
ความจริงและชีวิต ไม่มีใครไปเฝ้าพระบิดาได้นอกจากผ่านทางเรา” (ยน 14:6)
2.
บทเรียนสำหรับเรา
พระวาจาของพระเจ้าวันนี้ได้ให้บทเรียนสำคัญสำหรับเราหลายประการ
ในการนำไปปฏิบัติในชีวิตประจำวัน
ประการแรก
เราต้องดำเนินชีวิตตามบทบัญญัติแห่งความรัก
ในการถือตามบทบัญญัติสิบประการ เราต้องได้แรงจูงใจมาจากบัญญัติแห่งความรัก
ซึ่งเป็นพื้นฐานของธรรมบัญญัติทุกข้อ ที่พระเยซูเจ้าทรงสรุปให้เหลือเพียงสองประการ
รักพระเจ้าและรักเพื่อนมนุษย์ ความรักทั้งสองประการเป็นเหมือนเหรียญที่มีสองด้าน
ต้องไปด้วยกันเสมอ ขาดอย่างหนึ่งอย่างใดไม่ได้
ประการที่สอง เราเป็นพระวิหารของพระเจ้า นักบุญเปาโลพูดอย่างชัดเจนว่า “ท่านทั้งหลายไม่รู้หรือว่าท่านเป็นพระวิหารของพระเจ้า
และพระจิตของพระเจ้าทรงพำนักอยู่ในท่าน” (1 คร 3:16)
ดังนั้น
เราต้องไม่ทำให้พระวิหารแห่งจิตใจด่างพร้อยด้วยความไม่บริสุทธิ์และความอยุติธรรม
เราต้องชำระพระวิหารของเราให้พ้นจากความหยิ่งจองหอง ความเกลียดชัง ความอิจฉาริษยา
ความเห็นแก่ตัว และความคิดไม่ดีต่าง ๆ ผ่านทางศีลอภัยบาป
ประการที่สาม เราต้องรักวัดของเรา
วัดเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่เรามาชุมนุมกันเพื่อสรรเสริญพระเจ้า
ส่งเสริมการเจริญชีวิตตามพระวรสาร ช่วยเหลือกันให้พบพระเมตตากรุณาของพระเจ้า
นำทุกคนที่หลงผิดให้กลับมาเป็นหนึ่งเดียวกับหมู่คณะผ่านทางศีลแห่งการคืนดี
เลียนแบบพระเยซูเจ้าในความรักและการให้อภัย และบำรุงวัดตามกำลังความสามารถของแต่ละคน ทำให้วัดมีบรรยากาศชวนศรัทธาที่ทุกคนสามารถพบพระเจ้าได้ทุกเมื่อ
บทสรุป
พี่น้องที่รัก
พระเจ้าทรงท้าทายเราให้รักษาพันธสัญญากับพระเยซูเจ้า ดังเช่นชาวอิสราเอลรักษาพันธสัญญากับพระยาเวห์
ด้วยการปฏิบัติตามบทบัญญัติสิบประการ เพื่อเป็นประชากรแห่งพันธสัญญาใหม่ที่รักทุกคนตามที่ทรงมอบแบบอย่างไว้ให้
เราต้องมีส่วนทำให้วัดของเราเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เหมาะสมสำหรับการนมัสการพระเจ้า ประการสำคัญ
ต้องรักษาพระวิหารแห่งจิตใจให้สะอาด
บริสุทธิ์ ยุติธรรม ปราศจากบาป สมกับเป็นวิหารของพระจิตเจ้า
ศิษย์พระคริสต์ ต้องต้อนรับพระเยซูเจ้าเข้ามาในจิตใจและชีวิตตลอดเทศกาลมหาพรตนี้
ด้วยการกลับใจใช้โทษบาปและฟื้นฟูชีวิตของตน ใช้การอธิษฐานภาวนา การจำศีลอดอาหาร และการให้ทานเป็นแส้ขับไล่ความไม่ดีต่าง
ๆ ได้แก่ ความหยิ่งจองหอง ความเกลียดชัง ความอิจฉาริษยา และความเห็นแก่ตัวให้ออกไปจากจิตใจของเรา ด้วยการไปสารภาพบาปเพื่อรับความรักที่ให้อภัยของพระเจ้าผ่านทางศีลแห่งการคืนดี
คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
https://dondaniele.blogspot.com/
เทศกาลมหาพรต
40 วันแห่งการฟื้นฟูชีวิตคริสตชน,
สกลนคร : สมศักดิ์การพิมพ์ กรุ๊ป, 2561, หน้า 67-70.
ภาพ : การฉลองวัดพระเมตตาแห่งพระเยซูเจ้า โนนค้อ, สกลนคร; 2020-10-31
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น