วันศุกร์ที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2558

ความยินดีแห่งการให้



ความยินดีแห่งการให้
วันอาทิตย์
สัปดาห์ที่ 3 เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า
ปี C
ศฟย 3:14-18
ฟป 4:4-7
ลก 3:10-18
บทนำ
มีเรื่องเล่าว่าชายหนุ่มคนหนึ่งเดินซัดเซพเนจรอย่างไร้จุดหมาย ได้พบน้ำพุที่ใสบริสุทธิ์โดยบังเอิญ เมื่อลองดื่มก็พบว่าเป็นน้ำดื่มที่รสชาติอร่อยถึงใจ จึงตักน้ำใส่ถุงหนังเพื่อนำกลับไปฝากหัวหน้าเผ่าผู้เป็นอาจารย์ หลังจากเดินทางรอนแรมหลายวันเขาได้มาถึงหมู่บ้านและมอบน้ำนั้นให้หัวหน้าเผ่า หัวหน้าเผ่ายกถุงน้ำขึ้นดื่ม ยิ้มอย่างสุขใจและขอบคุณศิษย์รักสำหรับน้ำที่บริสุทธิ์ชื่นใจนั้น ชายหนุ่มจึงเดินกลับบ้านอย่างมีความสุข
เมื่อชายหนุ่มกลับไปแล้ว หัวหน้าเผ่าได้ให้ศิษย์คนอื่นชิมน้ำนั้น เขารีบบ้วนทิ้งทันทีและบอกว่าน้ำเสียแล้ว ถุงหนังเก่าที่ใช้ใส่ได้ทำให้น้ำเน่าเสีย กินไม่ได้ พวกศิษย์รู้สึกแปลกใจจึงถามอาจารย์ว่า “น้ำเน่าเสียอย่างนี้ ทำไมอาจารย์แสร้งทำเป็นว่าชอบละ” อาจารย์ตอบว่า “เธอชิมเพียงแค่น้ำในถุงหนัง แต่ฉันชิมมันอย่างของประทาน น้ำในถุงหนังอาจเสียแล้ว แต่ผู้นำมาให้ด้วยความรัก ความใจกว้างและความปรารถนาดี” นี่คือบทเรียนอันล้ำค่าที่บรรดาศิษย์ได้รับ พวกเขาต้องไม่มองที่ราคาค่างวดของสิ่งที่ได้รับ แต่มองให้ลึกไปถึงใจของผู้ให้
ในสัปดาห์ที่ 3 ของเทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า พระวาจาของพระเจ้าได้เชื้อเชิญเราให้เตรียมตัวต้องรับการเสด็จมาของพระผู้ไถ่และมีความชื่นชมยินดีในการให้ บทอ่านวันนี้บอกเราว่าความชื่นชมยินดีหรือความสุขแบบคริสตชน อยู่ที่ “การแบ่งปันสิ่งที่เรามีกับผู้อื่น” มหาตะมะ คานธี กล่าวว่า “หากผมเอาบางสิ่งที่ไม่จำเป็นไว้สำหรับตนเองและเก็บรักษามันไว้ เท่ากับผมขโมยมันจากคนอื่น... คุณและผมไม่มีสิทธิ์เหนือสิ่งที่เรามี จนกว่าคนสามล้านคน(ในอินเดีย) มีเสื้อผาใส่และมีอาหารกินที่ดีพอ”

1.           ความยินดีแห่งการให้
ยอห์น บัปติสต์ ได้นำสารการเป็นทุกข์กลับใจที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงความประพฤติ ผ่านทางการฟังเสียงเรียกของพระเจ้าเพื่อความยุติธรรมในสังคม นี่คือข่าวดีที่นักบุญลูกาเน้นในพระวรสารวันนี้ เพื่อชี้ให้เห็นว่าการเสด็จมาของพระผู้ไถ่จะสถาปนาการปกครองใหม่แห่งการให้อภัย การแบ่งปัน และการไถ่ให้รอด การเป็นทุกข์กลับใจที่ยอห์นประกาศ เรียกร้องการเปลี่ยนแปลงความประพฤติ มิใช่การเสียใจในสิ่งที่ได้กระทำในอดีต
ยอห์นต้องการให้ผู้คนแบ่งปันสิ่งที่มีแก่กันและกัน บนหลักของความยุติธรรมทางสังคม ที่พระเจ้าไม่พึงประสงค์ให้ใครพึงพอใจในสิ่งที่ตนเองมี ขณะที่มีคนเป็นจำนวนมากอยู่ในสภาพที่ขัดสน ยอห์นจึงบอกผู้คนให้แบ่งปันสิ่งที่ตนเองมี เช่น เสื้อผ้า อาหารแก่คนที่จำเป็นและกำลังหิว หากพวกเขาเสียใจในบาปและต้องการเปลี่ยนแปลงชีวิตอย่างแท้จริง พวกเขาต้องเป็นพี่น้องกับทุกคนและตระหนักว่า มีสิ่งไหนบ้างที่จะแบ่งปันกับคนอื่นในโอกาสคริสต์มาสนี้
ยอห์นไม่ต้องการให้ผู้คนละทิ้งงานหน้าที่เพื่อความรอดสำหรับตนเอง แต่ต้องทำงานหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด ยอห์นเรียกร้องประชาชนให้มีความซื่อสัตย์ต่องานหน้าที่ของตน ไม่โลภ ไม่เห็นแก่ตัว ไม่ใช้อำนาจและตำแหน่งหน้าที่ในทางที่ผิด อาทิ คนเก็บภาษีต้องเก็บภาษีด้วยความเที่ยงธรรม ทหารต้องมีวินัย ไม่ขู่กรรโชกหรือเรียกเก็บเงิน ทั้งนี้เพราะงานหน้าที่แต่ละอย่างคือการรับใช้พระเจ้า ดังคำกล่าวของนักบุญฟรังซิส เดอ ซาล ที่ว่า “จงผลิบานในที่ที่เขาเพาะปลูก” เราได้รับการคาดหวังให้เกิดผลหรือเป็นเชื้อแป้งในที่ที่เราอยู่

2.           บทเรียนสำหรับเรา
พระวรสารวันนี้ได้ให้บทเรียนสำหรับเราคริสตชน ในการเตรียมฉลองการเสด็จมาของพระเยซูเจ้าในหนทางที่ถูกต้องหลายประการ
ประการแรก จงเปลี่ยนแปลงความประพฤติ ยอห์นได้ท้าทายความพยายามของเราในการเปลี่ยนแปลงชีวิตใหม่ในการเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า ลด ละ เลิกความประพฤติและค่านิยมที่ไม่ดีต่างๆ อาทิ การพนัน ยาเสพติด ความอิจฉาริษยาและการทะเลาะเบาะแว้ง ถือปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งความรักต่อพระเจ้าและเพื่อนพี่น้อง ทำงานหน้าที่แต่ละวันให้ดีที่สุด ไม่โลภ ไม่เห็นแก่ตัว ไม่ใช้อำนาจและตำแหน่งหน้าที่ในทางที่ผิด
ประการที่สอง จงแบ่งปันสิ่งที่เรามีกับผู้ที่ต้องการ ยอห์นได้ชี้ให้เห็นว่าเครื่องหมายของการเป็นทุกข์เสียใจในบาป และการเปลี่ยนแปลงชีวิตใหม่ที่แท้จริงคือ การแบ่งปันสิ่งที่เรามีกับผู้ที่เดือดร้อนและต้องการความช่วยเหลือ เพราะทุกคนคือพี่น้องของเรา ที่สุด เราต้องแบ่งปันความรักของเรากับผู้อื่นด้วยการรับใช้ที่สุภาพถ่อมตน โดยปราศจาความเห็นแก่ตัว “จงทำสิ่งเล็กน้อยด้วยความรักที่ยิ่งใหญ่”  (บุญราศีคุณแม่เทเรซาแห่งกัลกัตตา)
ประการที่สาม จงเลียนแบบยอห์น บัปติสต์ ผู้เตรียมทางของพระคริสตเจ้า เราแต่ละคนต่างเป็นผู้เตรียมทางของพระคริสตเจ้า ในการนำพระคริสตเจ้าไปสู่ผู้อื่นที่อยู่ในความดูแลของเรา บิดามารดาต้องปลูกฝังค่านิยมพระวรสาร และจิตตารมย์ของการเป็นคริสตชนที่แท้จริงให้กับบุตรหลาน เราแต่ละคนจะต้องเป็นเครื่องมือที่ดีของพระเจ้า ในการนำผู้คนให้รู้และตระหนักว่าพระคริสตเจ้าเป็นพระเจ้า พระผู้ไถ่และพี่ชายของเขา

บทสรุป
พี่น้องที่รัก ความโน้มเอียงในหมู่คริสตชนปัจจุบันมักจะเน้นแง่มุมด้านความเชื่อ มากกว่าผลเสียของความประพฤติด้านศีลธรรม ยอห์น บัปติสต์ได้เรียกร้องให้เราเปลี่ยนแปลงความประพฤติของเราเป็นลำดับแรก ด้วยการเป็นทุกข์กลับใจ เปลี่ยนแปลงชีวิตใหม่จากค่านิยมและความประพฤติที่ไม่ดีต่างๆ ละทิ้งความเห็นแก่ตัวและแบ่งปันสิ่งที่เรามีกับเพื่อนพี่น้องด้วยความยินดี เพื่อรับเสด็จพระคริสตเจ้าให้มาประทับในชีวิตของเรา

ในปีศักดิ์สิทธิ์แห่งพระเมตตา สมเด็จพระสันตะปาปาได้ประกาศและเชิญชวนเราให้เป็นผู้เมตตากรุณาดั่งพระบิดาเจ้าสวรรค์ (ลก 6:36) ผู้ทรงเรียกร้องมิให้เราตัดสินหรือกล่าวโทษผู้ใด แต่ให้อภัยและแบ่งปันด้วยความรักโดยไม่หวังสิ่งใดตอบแทน เราต้องฟังสารของยอห์น บัปติสต์ ด้วยการเป็นเครื่องมือที่ดีของพระเจ้า ในการทำงานหน้าที่ของเราในแต่ละวันให้ดีที่สุด ตามบทบาทและฐานะของเราแต่ละคนโดยปราศจากความเห็นแก่ตัว ใช้อำนาจและตำแหน่งหน้าที่ในทางที่ถูกต้อง
คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
khuanthinwan@gmail.com
San Tomasso Ashram, วัดป่าพนาวัลย์
11 ธันวาคม 2015

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น