วันเสาร์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2568

เงื่อนไขของการเป็นศิษย์แท้จริง

 

เงื่อนไขของการเป็นศิษย์แท้จริง

อาทิตย์

สัปดาห์ที่ 23 เทศกาลธรรมดา

ปี C

ปชญ 9:13-18

ฟม 1:9-10, 12-17

ลก 14:25-33

บทนำ

นักบุญโทมัส มอร์ (St. Thomas More :  1477-1535) รัฐบุรุษชาวอังกฤษซึ่งเคยรับราชการในตำแหน่งมหาเสนาบดี (Lord Chancellor) ของพระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 แห่งอังกฤษ ถือเป็นนักกฎหมาย นักคิด นักเขียนที่มีชื่อเสียง ผลงานอมตะโด่งดังเป็นที่รู้จักคือ ยูโทเปีย (Utopia) ซึ่งเป็นการเขียนวิจารณ์ความเลวร้ายของสังคมในยุคนั้น และกล่าวถึงเมืองในอุดมคติ เป็นสังคมที่เป็นความปรารถนาของผู้คนในสมัยนั้น

โทมัส มอร์ ถูกจับในข้อหาการกบฏเพราะปฏิเสธไม่ยอมลงนามรับรองการแต่งงานครั้งที่สองของพระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 ว่าเป็นสิ่งถูกต้อง อีกทั้งไม่ยอมรับอำนาจสูงสุดทางศาสนาของพระองค์ว่าอยู่เหนือพระสันตะปาปา แม้ครอบครัวจะอ้อนวอนให้เห็นแก่ชีวิตของตนเองและชีวิตของพวกเขา ภรรยากับบุตรสาวพยายามอย่างสุดความสามารถในการชักชวนมอร์ให้เปลี่ยนใจดังเช่นข้าราชการคนอื่น แต่ มอร์ ยังคงปฏิเสธไม่ยอมทำสิ่งที่ตนเองรู้ว่าผิด

ที่สุด โทมัส มอร์ ถูกตัดสินประหารชีวิตด้วยการตัดศีรษะเมื่อ 6 กรกฎาคม 1535 และได้กล่าวกับฝูงชน ณ ลานประหารว่า “ข้าพเจ้าตายอย่างผู้รับใช้ที่ดีของกษัตริย์ หากแต่พระเจ้าต้องมาเป็นลำดับแรก ท่านนักบุญได้จ่ายค่าแห่งการเป็นศิษย์พระคริสต์ด้วยการรักพระเจ้ามากว่าบุตร ภรรยา พี่น้องชายหญิงและแม้กระทั่งชีวิตของตน บทอ่านวันนี้ท้าทายเราให้อุทิศตนเพื่อพระเจ้า พระองค์ต้องยิ่งใหญ่และสำคัญเป็นลำดับแรกในชีวิตของเรา

1.       เงื่อนไขของการเป็นศิษย์แท้จริง

พระวรสารวันนี้ พระเยซูเจ้าทรงท้าทายและให้แนวทางหลายประการในการเป็นคริสตชน ซึ่งเป็นเงื่อนไขของการเป็นศิษย์แท้จริงของพระองค์

ประการแรก การสละบุคคลอันเป็นที่รัก “ถ้าผู้ใดติดตามเราโดยไม่รักเรามากกว่าบิดามารดา ภรรยา บุตร พี่น้องชายหญิงและแม้พระทั่งชีวิตของตนเอง ผู้นั้นเป็นศิษย์ของเราไม่ได้” (ลก 14:26) ธรรมชาติมนุษย์ต่างรักชีวิตของตน หากไม่มีชีวิตแล้วทุกสิ่งล้วนไร้ค่า ถัดมาเป็นครอบครัวและทรัพย์สมบัติ พระเยซูเจ้าไม่ได้เรียกร้องให้เราเกลียดชีวิตของตน หรือเกลียดชังบุคคลอันเป็นที่รัก อย่างบิดามารดา บุตร ภรรยา พี่น้องชายหญิง แต่ทรงเตือนใจเราว่า เราต้องรักพระเจ้ามากกว่าบุคคลเหล่านี้ พระเจ้าต้องยิ่งใหญ่และสำคัญที่สุดในชีวิตของเรา

ประการที่สอง การแบกกางเขนของตนและติดตามพระองค์ “ผู้ใดไม่แบกกางเขนของตนและติดตามเรา ผู้นั้นเป็นศิษย์ของเราไม่ได้เช่นเดียวกัน” (ลก 14:27) พระเยซูเจ้ามิได้เสด็จมาเพื่อทำให้กางเขนของมนุษย์หนักขึ้น แต่ทำให้การแบกกางเขนของเรามีความหมาย ทรงรับเอาสิ่งที่มนุษย์แบกไว้บนบ่าของพระองค์ด้วยความรัก ความยากลำบากต่าง ๆ ในชีวิตจึงมีความหมาย นี่คือท่อธารแห่งพระพรที่นำเราให้ชิดสนิทและเป็นหนึ่งเดียวกับพระองค์ ประการสำคัญ ทำให้เราร่วมส่วนในพระมหาทรมานของพระองค์ ผ่านทางกางเขนสู่ความรอดนิรันดร

ประการสุดท้าย การสละทุกสิ่งที่มี “ทุกท่านที่ไม่ยอมสละทุกสิ่งที่ตนมีอยู่ ก็เป็นศิษย์ของเราไม่ได้” (ลก 14:33) พระเยซูเจ้ามิได้หมายถึงให้เราขายทุกสิ่งที่มีแล้วใช้ชีวิตอย่างอนาถาข้างถนน แต่ทรงหมายถึงการรู้จักคิดคำนวณอย่างรอบคอบและใช้ทุกสิ่งที่มีให้เกิดประโยชน์ มิใช่สำหรับตนเองเท่านั้นแต่สำหรับผู้อื่น ด้วยการแบ่งปันสิ่งที่มีและพระพรต่าง ๆ ด้วยความเต็มใจ กับคนที่เดือดร้อนและต้องการความช่วยเหลือ เราต้องมุ่งชีวิตของเราไปที่พระเยซูเจ้าผู้ทนทุกข์และผู้ทรงกลับคืนพระชนม์ชีพ

2.       บทเรียนสำหรับเรา

พระวาจาของพระเจ้าวันนี้ได้ให้บทเรียนสำคัญสำหรับเราหลายประการ ในการนำไปปฏิบัติในชีวิตประจำวัน

ประการแรก พระเจ้าต้องยิ่งใหญ่และสำคัญที่สุดในชีวิตของเรา เป้าหมายแห่งชีวิตมนุษย์คือการเข้าอยู่ในอาณาจักรของพระเจ้า เราไม่สามารถเป็นศิษย์แท้จริงของพระองค์ได้หากเราให้ความสำคัญกับสิ่งอื่นมากกว่าพระองค์ เครื่องหมายบ่งบอกว่า พระเจ้าเป็นที่หนึ่งในชีวิตของเราคือการอธิษฐานภาวนาประจำวัน, การร่วมพิธีศีลมหาสนิททุกอาทิตย์, การอ่านและศึกษาพระคัมภีร์, การช่วยงานวัด หรือการให้เวลาและแบ่งปันพระพรที่เรามีในงานของพระองค์

ประการที่สอง เราต้องแบกกางเขนของตนทุกวัน ด้วยการทำหน้าที่ประจำวันที่ได้รับมอบหมายด้วยความรับผิดชอบ พร้อมเผชิญหน้ากับปัญหาและความยากลำบากต่าง ๆ แม้กระทั่งยอมทนทุกข์เพื่อเห็นแก่พระเจ้า ผู้แบกกางเขนของตนทุกวันแสดงถึงการเป็นผู้ติดตามพระองค์อย่างซื่อสัตย์ และพระองค์จะประทานพละกำลังและพระพรจำเป็นแก่เขาในการเอาชนะอุปสรรคทุกอย่าง

ประการสุดท้าย เราต้องรู้จักแบ่งปันสิ่งที่มีกับผู้อื่น ทุกสิ่งที่เรามีล้วนแล้วแต่เป็นพระพรของพระเจ้าทั้งนั้น ซึ่งมิใช่สำหรับตัวเราเอง พวกพ้อง หรือพี่น้องชายหญิงของเราเท่านั้น แต่เราต้องใจกว้าง คิดถึงคนอื่นและใช้ให้เกิดประโยชน์สำหรับสังคมและความดีส่วนรวม ด้วยการแบ่งปันทุกสิ่งที่มีกับคนทุกข์ยากเดือดร้อนและต้องการความช่วยเหลือ เป็นต้น คนทุกข์จนและคนชายขอบของสังคมที่อยู่ในสภาพด้อยกว่าเรา

บทสรุป

พี่น้องที่รัก พระเยซูเจ้าทรงให้แนวทางในการเป็นศิษย์ติดตามพระองค์ ด้วยการรักพระเจ้ามากกว่าสิ่งอื่นใด พระเจ้าต้องสำคัญที่สุดและเป็นที่หนึ่งในชีวิตของเรา เมื่อเราดำเนินชีวิตในความรักของพระเจ้า เราจะปฏิบัติต่อทุกคนเหมือนเป็นพี่น้องที่มีพระบิดาเจ้าองค์เดียวกัน ไม่มีทาสไม่มีไท ไม่มียิวไม่มีกรีก ทุกคนต่างเป็นพี่น้องเท่าเสมอกันต่อหน้าพระเจ้า ซึ่งเราต้องรักโดยไม่มีเงื่อนไขและให้โดยไม่หวังสิ่งใดตอบแทน

ประการสำคัญ เราต้องแบกกางเขนของตนทุกวัน รับผิดชอบต่อหน้าที่และน้อมรับความยากลำบากต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน เพื่อร่วมส่วนในพระมหาทรมานของพระเยซูเจ้า ไม่ติดใจอยู่กับข้าวของทรัพย์สมบัติในโลกนี้ แต่ใช้เพื่อนำเราไปสู่ชีวิตนิรันดร ศิษย์พระคริสต์ต้องรักพระเจ้ามากกว่าสิ่งอื่นใด แสดงออกในความรับผิดชอบต่อหน้าที่ประจำวัน รู้จักตัดสละจากทุกสิ่งที่เป็นเจ้าของ และแบ่งปันด้วยเต็มใจกับผู้เดือดร้อนและต้องการความช่วยเหลือเพื่อเห็นแก่ความรักต่อพระเจ้า

คุณพ่อขวัญ  ถิ่นวัลย์

ID LINE : dondaniele

วัดนักบุญยอแซฟ ดอนทอย-หนองสนุก, สกลนคร

6 กันยายน 2025

ภาพ : พิธีบวชพระสังฆานุกรและพระสงฆ์, วัดดอนทอย-หนองสนุก, สกลนคร; 2025-3-17

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น