วันเสาร์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2568

เครื่องหมายแห่งความรักและความรอดนิรันดร

 

เครื่องหมายแห่งความรักและความรอดนิรันดร

14 กันยายน

ฉลองเทิดทูนไม้กางเขน

ของพระเยซูเจ้า

กดว 21:4-9

ฟป 2:6-11

ยน 3:13-17

บทนำ

ปัจจุบันไม้กางเขนได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของคริสตชนทั่วโลกที่เราพบเห็นอยู่ทั่วไป เช่น บนยอดวัด หลุมฝังศพ หรือซุ้มประตูทางเข้าหมู่บ้านคริสตชน เมื่อเราเห็นใครทำเครื่องหมายกางเขน เช่น นักกีฬาทำเครื่องหมายกางเขนก่อนลงสนาม หรือเมื่อเริ่มการแข่งขัน เราทราบทันทีว่า เขาเป็นคริสตชน นอกนั้น ไม้กางเขนยังได้กลายเป็นเครื่องประดับที่แพร่หลายซึ่งผู้คนสวมใส่ตามแฟชั่น อาทิ สร้อยคอ ต่างหู ที่เราพบเห็นกันทั่วไปในหมู่ดารา นักแสดง นักร้อง แม้พวกเขาจะไม่ได้เป็นคริสตชนก็ตาม

วันฉลองเทิดทูนไม้กางเขนที่เราฉลองวันที่ 14 กันยายนของทุกปี เป็นการเทิดเกียรติไม้กางเขนศักดิ์สิทธิ์ที่พระเยซูเจ้าได้สิ้นพระชนม์ด้วยความรักต่อมนุษย์ เพื่อนำความรอดพ้นมาสู่โลก ไม้กางเขนของพระเยซูเจ้าจึงเป็นเครื่องหมายแห่งความรักที่พระเจ้าทรงช่วยเราให้รอด การฉลองเทิดทูนไม้กางเขนเกิดขึ้นในศตวรรษที่ 4 เริ่มจากการที่พระนางเฮเลนา (นักบุญเฮเลนา) พระมารดาของจักรพรรดิคอนสแตนตินได้ค้นพบไม้กางเขนของพระเยซูเจ้าอย่างอัศจรรย์ ขณะไปแสวงบุญที่เยรูซาเลม เมื่อ 14 กันยายน 326

ต่อมาภายหลังจักรพรรดิคอนสแตนตินได้สร้างวิหารขึ้น 2 หลัง บนเนินกัลวารีโอและ ณ สถานที่ฝังพระศพของพระเยซูเจ้า และโปรดให้มีการเฉลิมฉลองวันที่ 13 และ 14 กันยายน ส่วนการฉลองนี้เป็นที่แพร่หลายในพระศาสนจักรตะวันตกในศตวรรษที่ 7 หลังจากจักรพรรดิเฮราคลิอุสแห่งคอนสแตนติโนเปิล ได้ยึดครองกางเขนของพระเยซูเจ้าคืนจากพวกเปอร์เซีย และนำกลับกรุงเยรูซาเล็มอย่างสง่า ปัจจุบันชิ้นส่วนไม้กางเขนของพระเยซูเจ้าเก็บรักษาไว้ที่วิหารกางเขนศักดิ์สิทธิ์ที่กรุงโรม ประเทศอิตาลี

 

1.        เครื่องหมายแห่งความรักและความรอดนิรันดร

พระวรสารวันนี้พระเยซูเจ้าตรัสถึงการที่พระองค์จะถูกยกขึ้นบนไม้กางเขน เพื่อช่วยเราให้รอดพ้น โดยอ้างถึงเหตุการณ์ที่โมเสสได้ยกรูปงูขึ้นในถิ่นทุรกันดาร การถูกยกขึ้นบนไม้กางเขนของพระองค์แสดงให้ทุกคนเห็นถึงความรักยิ่งใหญ่ของพระเจ้าที่มีต่อมนุษย์ ดังที่นักบุญยอห์นบอกเราว่า “พระเจ้าทรงรักโลกอย่างมากจึงประทานพระบุตรเพียงพระองค์เดียวของพระองค์ เพื่อทุกคนที่มีความเชื่อในพระบุตรจะไม่พินาศแต่จะมีชีวิตนิรันดร” (ยน 3:16) ความรักนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข หรือคุณความดี แต่เป็นของขวัญที่พระเจ้าประทานให้อย่างอิสระแก่ทุกคนที่เลือกที่จะรับ

ในอดีตไม้กางเขนคือเครื่องประหารที่ชาวโรมันใช้ประหารนักโทษอุฉกรรจ์ ไม้กางเขนจึงเป็นสัญลักษณ์แห่งความทรมาน ความตาย ความพ่ายแพ้ และการดูหมิ่นเหยียดหยาม ที่ทุกคนหวาดกลัวและขยะแขยง พระเยซูเจ้าได้เปลี่ยนเครื่องหมายนี้ให้กลายเป็นเครื่องหมายแห่งความรักและความรอดนิรันดร ด้วยการรับทนทรมาน ถูกตรึงบนไม้กางเขน สิ้นพระชนม์ และกลับคืนพระชนม์ชีพ ไม้กางเขนจึงเป็นเครื่องหมายที่เตือนเราให้ระลึกถึงความรักยิ่งใหญ่ของพระเจ้า และความรอดนิรันดรที่พระเยซูเจ้านำมาสู่โลก ผ่านทางการมอบชีวิตของพระองค์เพื่อเราบนไม้กางเขน

ไม้กางเขนยังเตือนเราให้ระลึกถึงชัยชนะของพระเยซูเจ้าเหนือบาปและความตาย ผ่านทางการสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขนและการกลับคืนพระชนม์ชีพ พระเยซูเจ้าทรงชนะความตายและมอบชีวิตใหม่ให้แก่เรา ไม้กางเขนจึงเป็นเครื่องหมายแห่งชัยชนะและความรักที่ช่วยให้รอดของพระเจ้าสำหรับเรา นอกนั้น ไม้กางเขนยังเป็นเครื่องหมายแห่งการให้อภัย ซึ่งพระเยซูเจ้าทรงกระทำสิ่งนี้ในห้วงเวลาที่กำลังทรมานอย่างแสนสาหัสบนไม้กางเขน ด้วยการวอนขอพระบิดาให้อภัยผู้ที่ประหารพระองค์ “พระบิดาเจ้าข้า โปรดอภัยความผิดแก่เขาเถิด เพราะเขาไม่รู้ว่ากำลังทำอะไร” (ลก 23:34)

2.        บทเรียนสำหรับเรา

การฉลองเทิดทูนไม้กางเขนและพระวาจาของพระเจ้าวันนี้ ได้บทเรียนสำคัญสำหรับเราหลายประการในการนำไปปฏิบัติในชีวิต

ประการแรก  เราต้องเทิดทูนไม้กางเขน ด้วยการอธิษฐานภาวนาและทำสำคัญมหากางเขน เพื่อเตือนใจเราถึงความรักยิ่งใหญ่ที่พระเจ้าทรงมีต่อเรา และตระหนักถึงคุณค่าที่พระเยซูทรงจ่ายเพื่อความรอดนิรันดรของเราบนไม้กางเขน พระเยซูเจ้าได้ชนะบาปและความตายแล้ว มีเพียงพระองค์เท่านั้นที่สามารถช่วยเราให้ได้รับชัยชนะและเดินในหนทางที่ถูกต้อง อีกทั้ง เราต้องแบกไม้กางเขนของตนทุกวันติดตามพระเยซูเจ้าด้วยใจยินดี

ประการที่สอง เราต้องมีความสุภาพถ่อมตน ไม้กางเขนของพระเยซูเจ้าสะท้อนให้เห็นถึงความสุภาพถ่อมตนจนถึงที่สุดของพระองค์เพื่อช่วยเราให้รอด เราในฐานะศิษย์ของพระองค์ต้องมีใจสุภาพถ่อมตน ปฏิเสธตัวเอง ไม่ยึดตัวเองเป็นที่ตั้ง หรือสำคัญผิดว่า ตัวเองคือความถูกต้อง แต่ให้พระเจ้าเป็นศูนย์กลางของชีวิต มีแต่พระเจ้าเท่านั้นที่ยิ่งใหญ่และสำคัญที่สุด “พระองค์จะต้องทรงยิ่งใหญ่ขึ้นส่วนข้าพเจ้าจะต้องด้อยลง (ยน 3:30)

ประการที่สาม เราต้องดำเนินชีวิตบนหนทางแห่งไม้กางเขน ทุกครั้งที่เรามองดูไม้กางเขน หรือทำสำคัญมหากางเขน ต้องเตือนใจเราว่า เราเป็นคนบาปที่ได้รับการอภัยแล้ว และต้องเลียนแบบพระเยซูเจ้าผู้ถูกตรึงบนไม้กางเขน บนเส้นทางแห่งความรัก การรับใช้ และการให้อภัยไม่สิ้นสุด  พระเจ้ามิได้ส่งพระบุตรของพระองค์มาเพื่อพิพากษาโลก แต่เพื่อช่วยโลกให้รอด เราจึงไม่ควรบ่นว่า หรือตำหนิกันและกัน  แต่ต้องสนับสนุนส่งเสริมและให้กำลังใจซึ่งกันและกัน

บทสรุป

พี่น้องที่รัก การฉลองเทิดทูนไม้กางเขนของพระเยซูเจ้า เตือนใจเราให้ตระหนักถึงความรักยิ่งใหญ่ของพระเจ้าที่มีต่อเรา ผ่านทางไม้กางเขนของพระเยซูเจ้าเราได้รับการช่วยให้รอดพ้น ไม้กางเขนจึงเป็นเครื่องหมายแห่งความรอดนิรันดร บ่อเกิดแห่งชีวิต การให้อภัย และพระทัยเมตตาของพระเจ้า ที่เราต้องแบกด้วยความยินดี เพื่อช่วยโลกให้ตระหนักถึงความรักของพระเยซูเจ้าที่ถูกตรึงบนไม้กางเขนเพื่อความรอดนิรันดรของทุกคน

พระเยซูเจ้าได้ทรงไถ่เราด้วยไม้กางเขนศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ และทรงเปลี่ยนเครื่องหมายแห่งความตายในสมัยนั้นให้กลายเป็นเครื่องหมายแห่งความรักและความรอดนิรันดร ศิษย์พระคริสต์ต้องเทิดทูนไม้กางเขนและนำเครื่องหมายที่นำความรอดนี้ไปสู่ทุกคน เพื่อช่วยทุกคนให้ได้พบความรักยิ่งใหญ่ของพระเจ้าและความรอดนิรันดร ผ่านทางแบบอย่างชีวิตดีงามของเรา และตระหนักว่า เราเป็นคนบาปที่ได้รับการอภัยแล้ว ต้องไม่เดินในหนทางแห่งบาปอีกต่อไป

คุณพ่อขวัญ  ถิ่นวัลย์

ID LINE : dondaniele

วัดนักบุญยอแซฟ ดอนทอย-หนองสนุก, สกลนคร

13 กันยายน 2025

ภาพ : การนมัสการกางเขน, ศุกร์ศักดิ์สิทธิ์, วัดดอนทอย-หนองสนุก, สกลนคร; 2025-04-18

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น