พระเมตตาหาที่สุดมิได้
อาทิตย์ สัปดาห์ที่ 2 เทศกาลปัสกา ปี B ฉลองพระเมตตา |
กจ 4:32-35 1ยน 5:1-6 ยน 20:19-31 |
บทนำ
เมื่อ 30 เมษายน
2000 ณ ลานมหาวิหารนักบุญเปโตร ซึ่งเป็นอาทิตย์สัปดาห์ที่สองเทศกาลปัสกา
สมเด็จพระสันตะปาปายอห์น ปอลที่ 2 ทรงเป็นประธานพิธีบูชาขอบพระคุณแต่งตั้งบุญราศีโฟสตินา
โควัลสกา ให้เป็นนักบุญและอัครสาวกแห่งพระเมตตา และเชื้อเชิญเราให้มีความเชื่อและความหวังในพระบิดาเจ้า
ผู้ร่ำรวยด้วยพระเมตตา และช่วยเราให้รอดพ้นผ่านทางพระโลหิตอันล้ำค่าของพระบุตรของพระองค์
ในการประจักษ์มาแก่นักบุญโฟสตินา
พระเยซูเจ้าทรงมอบหมายงานสามอย่างแก่โฟสตินา ได้แก่ 1) การอธิษฐานภาวนาเพื่อวิญญาณ
และมอบความวางใจต่อพระเมตตาอันไม่อาจเข้าใจของพระเจ้า; 2) บอกให้โลกรู้ถึงพระเมตตาของพระเจ้า และ 3) ตั้งขบวนการใหม่ในพระศาสนจักรโดยเน้นไปที่ความเมตตาของพระเจ้า
ซึ่งกลายมาเป็น “กลุ่มพระเมตตา” ในปัจจุบัน
ในการแต่งตั้งนักบุญโฟสตินา
พระสันตะปาปายอห์น ปอลที่ 2 ตรัสว่า “หลังจากการกลับคืนพระชนมชีพของพระบุตรพระเจ้า
พระองค์ยังตรัสและไม่เคยหยุดพูดถึงพระบิดาเจ้า ผู้ทรงสัตย์ซื่อต่อความรักนิรันดร์ต่อมนุษย์…
การเชื่อในความรักนี้หมายถึงการเชื่อในพระเมตตา” ซึ่งภาพพระเมตตาที่พระเยซูเจ้าทรงสั่งให้โฟสตินาให้วาดขึ้น
พร้อมข้อความ “พระเยซูเจ้าข้า ลูกวางใจในพระองค์” เป็นสัญลักษณ์ของความเมตตา
การให้อภัย และความรักของพระเจ้า
1.
พระเมตตาหาที่สุดมิได้
ตอนแรกของพระวรสารวันนี้ (ข้อ 19-23) พระเยซูทรงมอบพันธกิจของพระองค์ในการประกาศข่าวดีแห่งความรัก
ความเมตตา การอภัยโทษ และความรอดของพระเจ้าแก่บรรดาอัครสาวก พระเยซูทรงใช้พระศาสนจักรเป็นหนทางในการดำเนินพันธกิจของพระองค์ต่อไปในโลก
นอกนั้นยังสอนเราด้วยว่า พระศาสนจักรต้องให้พระเยซูเป็นแหล่งพลังและอำนาจ และพระศาสนจักรจะเป็นผู้ส่งสารแท้จริงของพระคริสตเจ้าก็ต่อเมื่อ
พระศาสนจักรรักและเชื่อฟังพระองค์อย่างสมบูรณ์เท่านั้น
พระเยซูเจ้าผู้กลับคืนพระชนมชีพได้ประทานอำนาจแก่บรรดาอัครสาวก
ในการให้อภัยบาปในพระนามของพระองค์ เป็นการมีส่วนในอำนาจแห่งพระเมตตาของพระเจ้าต่อคนบาป
ในพิธีกรรมพระศาสนจักรประกาศพระเมตตาของพระเจ้าผ่านทางพระวาจาของพระเจ้า
และศีลศักดิ์สิทธิ์แห่งพระกายและโลหิตของพระคริสตเจ้า วิธีที่ชัดเจนที่สุดในการแสดงความเชื่อของเราต่อหน้าพระเยซูเจ้าผู้กลับคืนพระชนมชีพคือการให้อภัยผู้อื่น
เราไม่สามารถสร้างคริสตชุมชนที่ยั่งยืนได้หากปราศจากการให้อภัยซึ่งกันและกัน
ตอนที่สองของพระวารสาร
(ข้อ 24-29) เป็นเรื่องความไม่เชื่อของโทมัสเนื่องจากไม่ได้อยู่กับบรรดาอัครสาวกองค์อื่นเมื่อพระเยซูเจ้าปรากฎมา
สัปดาห์ต่อมาพระเยซูเจ้าปรากฏมาและตรัสกับโทมัสว่า “ท่านเชื่อเพราะได้เห็นเรา
ผู้ที่เชื่อแม้ไม่ได้เห็น ก็เป็นสุข” (ยน 20:29) โทมัสได้เอาชนะความสงสัยของตนด้วยการได้เห็นและสัมผัสพระเยซูเจ้าผู้กลับคืนพระชนมชีพ
คริสตชนยุคใหม่ที่ไม่สามารถเห็นพระเยซูด้วยตาได้อีกต่อไป จะต้องเชื่อสิ่งที่ได้ยิน
นั่นคือสิ่งที่เปาโลเตือนเรา “ความเชื่อจึงมาจากการฟัง” (รม 10:17)
2.
บทเรียนสำหรับเรา
การฉลองพระเมตตาและพระวาจาของพระเจ้าวันนี้ ได้ให้บทเรียนสำคัญสำหรับเราหลายประการ
ในการนำไปปฏิบัติในชีวิต
ประการแรก เราต้องวอนขอพระเมตตาจากพระเจ้า พระเยซูเจ้าเสด็จมาเพื่อมอบความรักและความเมตตาให้มนุษย์ เราต้องเชื่อในพระเมตตาและการให้อภัยบาปของพระองค์
พระเยซูเจ้าได้บอกกับซิสเตอร์โฟสตินาให้วอนขอพระเมตตาจากพระองค์ โดยบอกซิสเตอร์ว่า
“ไม่มีวิญญาณใดที่ร้องขอความเมตตาจากเราแล้วจะผิดหวัง” พระองค์จะพอพทัยที่สุดเมื่อเราวอนขอพระเมตตาจากพระองค์
ประการที่สอง เราต้องนำพระเมตตาของพระเจ้าไปสู่ผู้อื่น เราต้องให้พระเมตตาของพระเจ้าไหลผ่านชีวิตของเรา
ในการรักซึ่งกันและกันและมีใจเมตตาต่อผู้อื่น เหมือนที่พระเจ้าทรงรักเราและมีความเมตตาต่อเรา
นี่คือหัวใจสำคัญแห่งคำสอนของพระเยซูเจ้า เราต้องแสดงความเมตตาต่อผู้อื่น ทั้งในคำพูด กิจการ และการอธิษฐานภาวนา
ประการที่สาม เราต้องวางใจในพระเมตตาของพระเยซูเจ้า ดังข้อความที่เขียนใต้รูปพระเมตตาว่า
“พระเยซูเจ้าข้า ลูกวางใจในพระองค์” นี่คือส่วนสำคัญที่สุด ใจเราต้องมีความวางใจในพระเมตตาของพระเยซูเจ้า
เมื่อเรามีความวางใจในพระเจ้า พระองค์ย่อมสามารถทำอะไรได้ทุกอย่างในชีวิตของเรา สิ่งที่พระองค์บอกซิสเตอร์โฟสตินให้บอกทุกคนคือ “จงเข้ามาหาเราด้วยความวางใจอย่างยิ่ง”
บทสรุป
พี่น้องที่รัก การฉลองพระเมตตาเป็นโอกาสให้คริสตชนได้ตระหนักในพระเมตตาหาที่สุดมิได้ของพระเจ้า
ซึ่งเห็นได้อย่างเด่นชัดในการให้อภัยบาปเราเสมอ เราต้องเลียนแบบพระบิดาเจ้าสวรรค์ผู้ทรงความดีอย่างสมบูรณ์
แสดงออกถึงท่าทีแห่งความเมตตา การให้อภัย และสันติสุขแท้จากใจเราแก่กัน สันติสุขบังเกิดขึ้นในใจเราเมื่อเราได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งความรักที่พระเจ้าประทานแก่เรา
และใส่ใจในความต้องการของเพื่อนมนุษย์ เป็นต้น คนยากจน คนขัดสน
และคนชายขอบของสังคม
คริสตชนต้องดำเนินชีวิตเป็นเครื่องหมายแห่งพระเมตตาของพระเจ้า
ทั้งในคำพูด และการกระทำด้วยความรักที่ไม่เห็นแก่ตัว การให้อภัยอย่างไม่มีเงื่อนไข
และการรับใช้ที่อ่อนน้อมถ่อมตน โดยเริ่มจากในครอบครัว หมู่คณะ และชุมชนวัดของเรา ศิษย์พระคริสต์ต้องสานต่อพันธกิจของพระเยซูเจ้าในงานเมตตาจิต
งานแห่งความรัก และการให้อภัยไม่สิ้นสุดในชีวิตประจำวัน
ดำเนินชีวิตเป็นเครื่องมือในการสร้างสันติสุขในสังคมที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังและความแตกแยก
คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
ID LINE : dondaniele
วัดนักบุญยอแซฟ
ดอนทอย-หนองสนุก
6 เมษายน 2024
ภาพ : พิธีเปิดเสกวัดพระเมตตาแห่งพระเยซูเจ้า โนนค้อ, สกลนคร; 20 พฤษภาคม 2023
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น