วันอาทิตย์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2564

ความทรงจำเกี่ยวกับคุณพ่อกมล

 


ความทรงจำเกี่ยวกับคุณพ่อกมล

ความทรงจำเกี่ยวกับคุณพ่อกมล เสมอพิทักษ์ ที่ยังติดตาเวลาเป็นเด็กคือ ภาพคุณพ่อใส่เสื้อหล่อขี่มอร์เตอร์ไซด์ รวบชายเสื้อหล่อมามัดที่เอว ท่าทางทะมัดทะแมงและเท่มาก เนื่องจากเวลานั้นวัดนักบุญมารีอามักดาเลนา นาโพธิ์และวัดแม่พระเสด็จเยี่ยมนางเอลีซาเบ็ธ นาโพธิ์น้อย ไม่มีเจ้าอาวาส  คุณพ่อซึ่งขณะนั้นเป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสอาสนวิหารอัครเทวดามีคาแอล ท่าแร่ ต้องขี่มอร์เตอร์ไซด์ไปดูแลสองวัดนี้ด้วย การได้เห็นพระสงฆ์ขี่มอร์เตอร์ไซด์ คงเป็นแรงบันดาลใจอย่างหนึ่งให้เด็ก ๆ จากนาโพธิ์ตัดสินใจเข้าบ้านเณรจำนวน 12 คน หลังจากนั้น

เพื่อนร่วมรุ่นชั้นมัธยมปีที่ 4 และสามเณรปี 1981 ขณะคุณพ่อกมลเป็นอธิการ

         เมื่อเข้าบ้านเณรได้สัมผัสชีวิตคุณพ่ออย่างใกล้ชิดอีกครั้ง ในฐานะอธิการบ้านเณรฟาติมาท่าแร่และอาจารย์สอนภาษาอังกฤษ อีกทั้ง ได้มอบหมายให้ผู้เขียนเป็นผู้ขายเครื่องใช้จำเป็นแก่บรรดาสามเณร สิ่งที่คุณพ่อเน้นย้ำเป็นพิเศษกับบรรดาสามเณรคือ “สำนึกของการเป็นเจ้าของ” (Sense of Belonging)  เพื่อให้บรรดาสามเณรได้ตระหนักว่า ตนเองไม่ใช่ผู้อาศัย แต่เป็นเจ้าของ ต้องช่วยกันรับผิดชอบและเก็บรักษาเครื่องใช้ทุกอย่างให้เรียบร้อย เข้าทำนอง “หาง่าย หายรู้”

สามเณรที่ทำข้าวของเครื่องใช้ของบ้านเณรเสียหายต้องถูกหักบัญชี เพื่อชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้น ทำให้บรรดาสามเณรมีความระมัดระวังมากขึ้น หรือทำงานชดเชยในขณะที่เพื่อนเล่นออกกำลังกาย โดยให้ตักน้ำเหม็นไปรดต้นไม้บ้าง หรือปลูกต้นไม้รอบสนาม ต้นสักทองรอบสนามรุ่นกลางคือเครื่องยืนยันว่า การลงโทษที่คุณพ่อให้สามเณรที่ทำผิดปลูกเวลานั้น ได้กลายเป็นต้นไม้ใหญ่ที่มีมูลค่ามหาศาลในปัจจุบัน ถือเป็นการรักษ์โลกและสิ่งแวดล้อม สอดคล้องกับพระสมณสาส์น Laudato si' ของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส


          แม้ในห้วงเวลาป่วยหนักต้องดูแลสุขภาพ คุณพ่อยังเป็นตัวอย่างในการค้นคว้าและสืบสาวราวเรื่องเกี่ยวกับตึกหินท่าแร่ (บ้านโบราณ) และวีรกรรมของอัมโบซีโอ หนูเพ็ด (แพทย์) คำศรี ในห้วงเวลาของการเบียดเบียนศาสนาผู้รับโทษแทนคุณพ่ออินทร์ นารินรักษ์ ทำให้ถูกจับตัวไปขังที่เกาะตะลุเตาและคุกบางขวาง นนทบุรี ต่อมาได้เป็นผู้ช่วยคนสำคัญของบุญราศี นิโคลาส บุญเกิด กฤษบำรุง ในการประกาศข่าวดีในคุก ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ที่ยังไม่ถูกเปิดเผย คุณพ่อได้ขอให้ผู้เขียนช่วยเรียบเรียงและนำเผยแพร่เป็นอันซีน (Unseen) ท่าแร่ต่อไป

แง่มุมชีวิตอีกด้านหนึ่งของคุณพ่อคือ ความอดทน ขยัน และสู้ชีวิต หลายคนเรียกคุณพ่อว่า “แมวก้าวชีวิต” แม้เจ็บป่วยหนักเจียนตาย เข้าออกโรงพยาบาลเป็นว่าเล่น ต้องพักภารกิจและดูแลสุขภาพตั้งแต่อายุยังไม่ถึงหกสิบ แต่คุณพ่อมีกำลังใจและความอดทนเป็นเลิศ เป็นตัวอย่างสำหรับผู้ป่วยทั้งหลาย คุณพ่อยังคงทำหน้าที่สงฆ์ในการถวายมิสซา อธิษฐานภาวนา ส่งศีลมหาสนิทคนป่วย และบริการศีลอภัยบาปตามโอกาสต่าง ๆ อีกทั้ง ยังคงทำงานเลี้ยงปลา ปลูกต้นไม้ ขยายพันธุ์ไม้ดอกไม้ประดับ ทำให้ชีวิตมีคุณค่าและโลกสวยงามน่าอยู่

คุณพ่อมาพบสองครั้งเพื่อเล่าเรื่องตึกหินท่าแร่ช่วงเบียดเบียนศาสนา
และวีรกรรมของอัมโบรซีโอ หนูเพ็ด (แพทย์) คำศรี

       ที่สุด คุณพ่อได้มอบคืนดวงวิญญาณและทุกสิ่งแด่พระเจ้า เหลือไว้แต่ความดีงามและแบบอย่างชีวิตให้จดจำ กลับไปพักผ่อนและรับรางวัลนิรันดรกับพระเยซูเจ้า ผู้ที่คุณพ่อรัก หลังจากได้ร่วมแบกกางเขนกับพระองค์ในโลกนี้เป็นเวลานาน ขอคุณพ่อได้อธิษฐานภาวนาเพื่อทุกคนที่กำลังทนทุกข์และเดินทางอยู่ในโลกนี้ ให้มีกำลังใจและแบกกางเขนของตน เพื่อรอคอยเวลาได้กลับไปอยู่กับพระเจ้า อันเป็นเป้าหมายสุดท้าย ตลอดไป

ด้วยความอาลัยรัก

คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์

วัดแม่พระแจกจ่ายพระหรรษทาน ดอนม่วย

11 กันยายน 2021

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น