การเรียกให้กลับใจและมาเป็นศิษย์
|
อาทิตย์ สัปดาห์ที่ 3 เทศกาลธรรมดา ปี B |
ยนา 3:1-5,10 1 คร 7:29-31 มก 1:14-20 |
บทนำ
คุณปู่คนหนึ่งได้ถามหลานชายตัวน้อยว่าได้สวดภาวนาก่อนนอนไหม
หลานชายตอบว่า “สวดทุกวันครับ” คุณปู่ถามต่อว่า “แล้วตอนเช้าละได้สวดหรือเปล่า”
หลานชายตอบว่า “ทำไมผมต้องสวดด้วยละ ผมไม่รู้สึกกลัวอะไรตอนกลางวัน”
บ่อยครั้งเราคิดถึงพระเจ้าเหมือนคนป่วยคิดถึงหมอเวลาเจ็บป่วย
เราไม่ควรไปหาพระเจ้าเฉพาะเวลาเดือดร้อน หรือต้องการความช่วยเหลือเท่านั้น
แต่ควรไปหาพระองค์เหมือนไปหาบุคคลที่เรารัก เพื่ออยู่กับพระองค์และขอบคุณพระองค์สำหรับทุกสิ่ง
มอบฝากทุกอย่างไว้ในพระหัตถ์ของพระองค์
การเรียกให้กลับใจและมาเป็นศิษย์ เป็นหัวข้อสำคัญของบทอ่านวันนี้ พระเจ้าอาจเรียกเราแต่ละคนในหลายรูปแบบแตกต่างกัน
แต่สิ่งสำคัญคือ พระเจ้าทรงเรียกเราให้กลับใจ เปลี่ยนแปลงตนเอง และสำนึกผิด
เพื่อให้เรากลายเป็นประชากรใหม่และเป็นศิษย์แท้จริงของพระองค์
1.
การเรียกให้กลับใจและมาเป็นศิษย์
พระวรสารวันนี้บอกเราว่า หลังจากยอห์นบัปติสต์ถูกจองจำ
พระเยซูเจ้าได้เสด็จไปยังแคว้นกาลิลีและเริ่มเทศนาสั่งสอน ทรงเรียกให้สำนึกผิดและเชื่อข่าวดี
“เวลากำหนดไว้มาถึงแล้ว พระอาณาจักรของพระเจ้าอยู่ใกล้แล้ว จงกลับใจ
และเชื่อข่าวดีเถิด” (มก 1:15) พระอาณาจักรของพระเจ้าได้เริ่มต้นแล้ว
และทรงเรียกทุกคนให้เชื่อข่าวดีแห่งความรัก ความเมตตา และความรอดของพระเจ้า
การเป็นศิษย์คือการตอบสนองต่อข่าวดีของพระเยซูเจ้า เราได้เห็นการเรียกอัครสาวกสองคู่แรกซึ่งเป็นชาวประมง ได้แก่ ซีโมนกับอันดรูว์น้องชาย ยากอบบุตรเศเบดีและยอห์นน้องชาย
ให้ติดตามและร่วมส่วนในพันธกิจแห่งการประกาศข่าวดี และการรักษาโรคของพระองค์ พวกเขาได้ละทิ้งทุกสิ่ง
ตอบรับการเรียกนี้โดยทันที นี่คือการเรียกให้กลับใจและมาเป็นศิษย์
นักบุญมาระโกได้แสดงให้เห็นแง่มุมสำคัญของการเป็นศิษย์คือ
การอยู่กับพระเยซูเจ้าและร่วมส่วนในพันธกิจของพระองค์ เราได้รับเชิญให้อยู่กับพระเยซูเจ้าในการเดินทางฝ่ายจิต
และร่วมส่วนในพันธกิจแห่งการประกาศข่าวดีของพระองค์ โดยเน้นให้เห็นว่า เราคนบาปสามารถตอบสนองการเรียกของพระองค์ได้ด้วยการกลับใจ
อุทิศตนทั้งครบ ละทิ้งทุกสิ่ง และเป็นศิษย์ติดตามพระองค์ ทั้งด้วยความคิด คำพูด และการกระทำ
2. บทเรียนสำหรับเรา
พระวาจาของพระเจ้าวันนี้ได้ให้บทเรียนสำคัญสำหรับเราหลายประการ
ในการนำไปปฏิบัติในชีวิต
ประการแรก เราต้องกลับใจและเปลี่ยนแปลงชีวิต พระเยซูเจ้าทรงเรียกเราให้เสียใจในบาปและเริ่มต้นชีวิตใหม่
เปิดใจต่อพระหรรษทานของพระองค์
เพื่อให้ข่าวดีของพระองค์หยั่งรากลึกในจิตใจและเกิดผลอย่างอุดมในตัวเรา
เป็นการเรียกให้เรากลับใจหันมาหาพระองค์ และเชื่อในพระองค์เป็นลำดับแรก
ประการที่สอง
เราต้องเชื่อข่าวดี พระเยซูเจ้าทรงเรียกเราให้มาเป็นศิษย์เพื่อเชื่อข่าวดีที่พระองค์ทรงนำมา
ข่าวดีแห่งความรัก ความหวัง และสันติสุข เราต้องวางใจในพระองค์ ยึดพระวาจาเป็นหลักในการดำเนินชีวิต
และเลียนแบบพระองค์ผู้มีชีวิตอยู่เพื่อผู้อื่น ในการรัก รับใช้ และมอบชีวิตเพื่อทุกคนโดยไม่แบ่งแยก
ประการที่สาม เราต้องตอบรับการเรียก
ด้วยการเดินในแสงสว่าง
เจริญเติบโตในความศักดิ์สิทธิ์ ในการอธิษฐานภาวนาและรับศีลศักดิ์สิทธิ์บ่อย ๆ
เพื่อชิดสนิทเป็นหนึ่งเดียวกับพระเยซูเจ้า ดำเนินชีวิตเป็นแสงสว่างส่องโลกและเป็นเครื่องหมายที่มองเห็นได้แห่งพระอาณาจักรของพระองค์
ในความรัก ความยุติธรรม การรับใช้ และการให้อภัยซึ่งกันและกัน
บทสรุป
พี่น้องที่รัก พระเยซูเจ้าทรงเรียกเราให้มาเป็นคริสตชน และเป็นศิษย์ติดตามพระองค์
ทำให้เราได้รับแสงสว่างและมีส่วนในพันธกิจของพระองค์ในโลก
นั่นไม่ใช่เพราะเราดีกว่าคนอื่น แต่เพราะความรักของพระเจ้ายิ่งใหญ่ ทรงรักเราและเรียกเราคนบาปให้มาเป็นศิษย์ติดตามพระองค์
เราต้องไม่ลังเลในการติดตามและเลียนแบบพระองค์
การเป็นศิษย์คือการอยู่กับพระเยซูเจ้า และร่วมส่วนในพันธกิจแห่งการประกาศข่าวดีของพระองค์ทั้งด้วยคำพูดและการกระทำ
ศิษย์พระคริสต์ต้องตอบสนองการเรียกด้วยการกลับใจเปลี่ยนแปลงตนเอง อุทิศตนทั้งครบ
ละทิ้งทุกสิ่ง และติดตามพระองค์ทุกวัน ดำเนินชีวิตเป็นศิษย์แท้จริงและเป็นเครื่องหมายที่มองเห็นได้แห่งข่าวดีของพระองค์ในชีวิตประจำวัน
คุณพ่อขวัญ
ถิ่นวัลย์
khuanthinwan@gmail.com
วัดแม่พระแจกจ่ายพระหรรษทาน ดอนม่วย, สกลนคร
22 มกราคม 2021
ภาพ : พิธีบวชพระสงฆ์ของคุณพ่อสุพล ยงบรรทม และคุณพ่อวรวิทย์ เวียรชัย, อาสนวิหารอัครเทวดามีคาแอล ท่แร่, สกลนคร; 1976-05-29
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น