บทเรียนจากชาวสะมาเรีย
จันทร์
สัปดาห์ที่ 27 เทศกาลธรรมดา
|
ยนา 1:1-7;
2:1, 11
ลก 10:25-37
|
คำอุปมาเรื่องชาวสะเมเรียผู้ใจดี เป็นบทสรุปคำสอนในภาคปฏิบัติของพระเยซูเจ้าที่เกี่ยวข้องกับภาคปฏิบัติมากที่สุด
ซึ่งมีแต่เฉพาะในพระวรสารนักบุญลูกาเท่านั้น และได้ตอบปัญหาของนักกฎหมาย “แล้วใครเล่าเป็นเพื่อนมนุษย์ของข้าพเจ้า” (ลก 10:29) คำตอบคือ “ใครก็ได้ที่ต้องการความช่วยเหลือ” และได้ให้แนวปฏิบัติสำหรับเราคริสตชนหลายประการ
ในการนำไปปฏิบัติในชีวิตประจำวันในปัจจุบัน
ประการแรก เรามีหน้าที่ต้องช่วยเหลือผู้อื่น แม้ว่าชายที่ถูกโจรปล้นประสบความเดือดร้อนเพราะความผิดพลาดของเขา
เราเห็นชัดว่าเขาเป็นคนประมาท เดินทางคนเดียวโดยลำพังในเส้นทางที่รู้ดีอยู่แล้วว่าอันตราย
ทำให้ถูกทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส สะท้อนภาพความจริงแห่งชีวิตของเราแต่ละคนที่เป็นคนบาป
ผิดพลาดเป็นประจำ
บางครั้งความผิดพลาดนั้นหนัก “เกือบสิ้นชีวิต”
ในสภาพเช่นนี้เราต้องการความช่วยเหลือจากใครสักคน
ประการที่สอง การช่วยเหลือคนที่เดือดร้อนเป็นหลักปฏิบัติสำคัญอันดับแรก
เราเห็นสมณะมีใจจดจ่อกับการปฏิบัติหน้าที่ตามจารีตพิธีในพระวิหาร
ถือปฏิบัติตามกฎเกณฑ์อย่างเคร่งครัดเรื่องการเป็นมลทิน
จนลืมความต้องการของเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน
ศาสนาสำหรับเขาเป็นแต่เพียงการถือปฏิบัติตามจารีตพิธีอย่างครบถ้วนไม่มีที่ติ
แต่ขาดมิติของชีวิตในความสัมพันธ์กับเพื่อนพี่น้อง
ประการที่สาม
เราต้องช่วยเหลือคนเดือนร้อนแม้ต้องเสี่ยง ชาวเลวีไม่ยอมเสี่ยง
เพราะเกรงว่าตนเองจะติดร่างแหไปด้วย
หากหมอไม่ยอมช่วยคนไข้เพราะกลัวติดโรคก็ไม่มีการรักษาเกิดขึ้น แต่หมอทั้งหลายยอมเสี่ยง
เหตุผลหนึ่งที่เราไม่กล้าเสี่ยงเพราะไม่อยากเดือดร้อน คิดคำนวณดูแล้วไม่คุ้ม ทำให้เสียเวลา
เสียงาน เสียอารมณ์ ที่สำคัญคือเสียเงิน
แต่พระเยซูเจ้าสอนว่า “อย่าชั่งน้ำหนัก อย่าคำนวณ
แต่จงยอมแพ้ต่อความรัก”
ประการสุดท้าย บทเรียนจากชาวสะมาเรียที่ชาวยิวมองว่าเป็นคนบาป เขาได้กระทำในสิ่งที่คนเคร่งศาสนา ชื่อเสียงดี
มีเกียรติภูมิไม่ทำกัน เขาเป็นคนช่วยเหลือชายบาดเจ็บเกือบสิ้นชีวิต เขากระทำในสิ่งที่ให้ชีวิต เข้าไปหา ปลอบโยน พันแผลให้
ช่วยพยุงขึ้นหลังสัตว์ เป็นธุระจัดการเรื่องที่พัก และจัดหาคนดูแล เขาเป็นคนต่างถิ่นที่เดินทางตามลำพัง
ไม่มีทรัพย์สินมาก แต่ “ตาของเขาช่างสังเกตและหัวใจของเขาเต้นในจังหวะเดียวกันกับหัวใจของพระเจ้า”
ศิษย์พระคริสต์ต้องกล้าก้าวเดินในเส้นทางแห่งกระแสเรียกที่ตนได้เลือก
ด้วยดวงตาและหูที่เปิดกว้าง โดยมีเข็มทิศแห่งความเมตตาเป็นเครื่องนำทาง
ยอมให้หัวใจของเราเต้นในจังหวะเดียวกันกับหัวใจของพระเจ้า เพื่อเตัดสินได้ว่ามีสิ่งไหนที่เราสามารถทำได้ ในการทำให้คนที่ “เกือบสิ้นชีวิต” ที่เราพบมีชีวิตอยู่ต่อไป ที่สุด
ขอให้คำสั่งของพระเยซูเจ้าที่ว่า “ท่านจงไปและทำเช่นเดียวกันเถิด” (ลก 10:37)
ปลุกเร้าหัวใจเราให้ทำเช่นเดียวกัน
คุณพ่อขวัญ
ถิ่นวัลย์
khuanthinwan@gmail.com
San Tomasso Ashram, วัดแม่พระแห่งภูเขาการ์แมล
ป่าพนาวัลย์
8 ตุลาคม 2017
ที่มาภาพ: https://providencemag.com/wp-content/uploads/849463109_orig.jpg
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น