การปฏิบัติตนเมื่อถูกปฏิเสธ
วันอังคาร
สัปดาห์ที่ 26 เทศกาลธรรมดา
|
ศคย 8:20-23
ลก 9:51-56
|
นักบุญลูกาแบ่งพระวรสารของท่านออกเป็น 4 ภาคสำคัญ ได้แก่ 1) ปฐมวัยของพระเยซูเจ้า,
2) พระภารกิจในแคว้นการลิลี, 3) การเดินทางสู่กรุงเยรูซาเล็ม
และ 4) พระทรมานและการเสด็จสู่สวรรค์
พระวรสารวันนี้เป็นการเริ่มต้นส่วนที่สาม ก่อนหน้านี้ลูกาได้ทำนายล่วงหน้าสองครั้ง
ถึงเหตุการณ์ที่ประชาชนจะปฏิเสธและประหารพระองค์ ด้วยเหตุผลของความอิจฉาริษยา อคติ
จิตใจคับแคบ ไม่ต้องการเปลี่ยนแปลง และไม่ต้องการกลับใจ
พระเยซูเจ้าทรงทราบดีถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้น และเหตุผลที่ต้องเดินทางสู่กรุงเยรูซาเล็ม
“พระองค์ทรงตั้งพระทัยแน่วแน่จะเสด็จไปกรุงเยรูซาเล็ม” (ลก 9:51) ลูกาถือว่าการเดินทางนี้สำคัญมาก เพราะเยรูซาเล็มเป็นศูนย์กลางของการสมโภชปัสกา
ถือเป็นการเดินทางครั้งสุดท้ายของพระองค์ จะไม่กลับไปแคว้นกาลิลีอีก
ระหว่างการเดินทางพระองค์ยังคงเทศน์สอนและกระทำกิจการดี
ทุกวันทรงส่งผู้นำสารไปล่วงหน้าเพื่อเตรียมรับเสด็จพระองค์
ชาวสะมาเรียปฏิเสธและไม่ยอมให้พระเยซูเจ้าผ่านหมู่บ้านของตน
เพราะเป็นยิวเนื่องจากกำลังเสด็จไปกรุงเยรูซาเล็ม ชาวสะมาเรียกับชาวยิวไม่คบค้าสมาคมกัน ทั้งที่เดิมเป็นชนชาติเดียวกัน หลังกษัตริย์ซาโลมอนอิสราแอลได้แยกออกเป็น อาณาจักรเหนือมีเมืองหลวงอยู่ที่สะมาเรียและอาณาจักรใต้อยู่ที่เยรูซาเล็ม
ปี 722 ก่อน ค.ศ. อาณาจักรเหนือตกเป็นเมืองขึ้นของอัสซีเรีย
ถูกกวาดต้อนไปเป็นเชลยและนำคนต่างชาติเข้ามาอยู่แทน พวกที่เหลือได้แต่งงานกับคนต่างชาติ
ชาวยิวทางใต้ถือว่าชาวสะมาเรียไม่มีเลือดยิวบริสุทธิ์
ต่อมาปี 587 อาณาจักรใต้ถูกกวาดต้อนไปเป็นเชลยที่บาบิโลน แต่ยังคงรักษาความเป็นชาติและศาสนาของตนอยู่ เมื่อเปอร์เซียรบชนะบาบิโลนได้ปลดปล่อยชาวยิวให้กลับไปสร้างเมืองและพระวิหารที่ถูกทำลายขึ้นใหม่
ชาวสะมาเรียได้เสนอตัวช่วยเหลือแต่ถูกปฏิเสธอย่างดูแคลน ตั้งแต่นั้นมาชาวยิวและชาวสะมาเรียได้กลายเป็นศัตรูที่มีความขมขื่นต่อกัน
ความเป็นศัตรูระหว่างชาวยิวกับชาวสะมาเรียสะท้อนผ่านยากอบและยอห์น
ที่ทูนขอไฟจากฟ้ามาเผาผลาญชาวสะมาเรีย สิ่งที่เลวร้ายยิ่งกว่าคือเราคิดว่าพระเจ้าทรงเป็นเช่นเดียวกัน
พระเยซูเจ้าทรงตำหนิศิษย์ทั้งสอง ทรงปฏิเสธทัศนคติแห่งความขุ่นเคืองและการแก้แค้น
พระองค์ไม่ทรงนิยมความรุนแรง ทรงมีพระทัยเมตตากรุณา ทรงอดทนต่อคนบาป ความล้มเหลว
และการปฏิเสธเพราะทรงรักทุกคนโดยไม่แบ่งแยก
ชาวสะมาเรียมีความหยิ่งจองหอง อคติ และแค้นเคืองทำให้ไม่ยอมคืนดี
ปฏิเสธ และไม่ต้อนรับพระเยซูเจ้าและบรรดาศิษย์ ศิษย์พระคริสต์ต้องมีความรัก
ความเมตตา และอดทนต่อความไม่เข้าใจ ความล้มเหลว และการปฏิเสธของผู้อื่น
ลดละความหยิ่งจองหอง อคติ และความแค้นเคือง ซึ่งทำให้เราถอยห่างจากความรักของพระเจ้า
พร้อมที่จะกลับใจและเปลี่ยนแปลงตนเองอยู่เสมอ อีกทั้ง
ต้องไม่อ้างพระเจ้าเพื่อทำลายศัตรูของตน
คุณพ่อขวัญ
ถิ่นวัลย์
khuanthinwan@gmail.com
San Tomasso Ashram, วัดแม่พระแห่งภูเขาการ์แมล
ป่าพนาวัลย์
2 ตุลาคม 2017
ภาพประกอบ: ชาวป่าพนาวัลย์, วัดถ้ำผาแด่น สกลนคร; 2017-04-22
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น