6 สิงหาคม
ฉลองพระเยซูเจ้าทรงประจักษ์พระวรกาย
|
ดนล
7:9-10, 13-14
มธ
17:1-9
|
บทนำ
ในชีวิตของเราแต่ละคนมีช่วงเวลาที่มีค่ายิ่ง ที่นำความภาคภูมิใจมาสู่เราทุกครั้งที่นึกถึง
หากเรามองย้อนไปในชีวิตของพระเยซูเจ้า มีเหตุการณ์สำคัญมากมายในชีวิตของพระองค์
การประจักษ์พระวรกาย (Transfiguration
of the Lord) บนภูเขาที่เราฉลองวันนี้
เป็นเหตุการณ์ที่สำคัญเหตุการณ์หนึ่งที่คริสตชนระลึกถึงทุกปี
ตั้งแต่แรกเริ่มของการก่อตั้งพระศาสนจักร
ผู้เขียนพระวรสารสามท่านได้บันทึก และบรรยายการประจักษ์พระวรกายของพระเยซูเจ้าไว้อย่างละเอียด
นักบุญมัทธิว มาระโก และลูกา ต่างเชื่อมโยงการประจักษ์พระวรกายกับการประกาศของเปโตรที่ว่า
“พระองค์คือพระคริสตเจ้า พระบุตรของพระเจ้าผู้ทรงชีวิต” (มธ 16:15) และหลังจากนั้นพระองค์ได้นำเปโตร
ยากอบ และยอห์นขึ้นไปบนภูเขา
นักบุญมัทธิวและมาระโกบอกว่าเป็น “ภูเขาสูง”
เราไม่สามารถทราบได้อย่างแน่ชัดว่าเป็นภูเขาลูกไหน แต่บรรดาคริสตชนเชื่อว่าเป็น “ภูเขาทาบอร์”
ซึ่งสูง 1,500
ฟุตจากระดับน้ำทะเล ปัจจุบันได้สร้างวิหารระลึกถึงการประจักษ์พระวรกายบนนั้น
ส่วนนักบุญลูกาบอกถึงจุดประสงค์ที่พระเยซูเจ้าทรงพาสาวกทั้งสามคนขึ้นไปคือ “เพื่ออธิษฐานภาวนา”
และในขณะที่กำลังอธิษฐานภาวนานั้นพระพักตร์และฉลองพระองค์ได้เปลี่ยนไป (ลก 9:28-29)
1.
การประจักษ์พระวรกาย
พระวรสารวันนี้ ทำให้เราทราบเกี่ยวกับการประจักษ์พระวรกายของพระเยซูเจ้า
นักบุญมัทธิวบอกเราว่าพระเยซูเจ้าทรงพาศิษย์ที่ทรงรัก 3
คน ได้แก่ เปโตร ยากอบ และยอห์น ขึ้นไปบนภูเขาสูงแยกจากคนอื่นและทรงประจักษ์พระวรกาย
พระพักตร์ของพระองค์ส่องประกายเจิดเจ้าเหมือนดวงอาทิตย์และฉลองพระองค์ขาววาววับ โมเสสและประกาศกเอลิยาห์ได้ปรากฏมาสนทนากับพระองค์
ถึงพระทรมานและการสิ้นพระชนม์ที่พระองค์กำลังจะได้รับ
สำหรับพระเยซูเจ้านี่คือช่วงเวลาที่พิเศษ
เพราะพระองค์กำลังจะเดินทางไปกรุงเยรูซาเล็ม เพื่อรับทรมานและถูกตรึงตายบนไม้กางเขน
พระองค์ทรงต้องการทำให้ศิษย์ของพระองค์เกิดความมั่นใจและมีความเข้มแข็ง ทำให้พวกเขาได้ทราบถึงการเป็นบุตรพระเจ้าของพระองค์
ผ่านทางพระสุระเสียงของพระบิดาเจ้าที่ตรัสว่า “ท่านผู้นี้เป็นบุตรสุดที่รักของเรา
เราพึงพอใจยิ่งนัก จงฟังท่านเถิด” (มธ 17:5) ซึ่งเป็นพระดำรัสเดียวกันที่ตรัสขณะรับพิธีล้าง
พระพักตร์เปล่งรัศมีดุจดวงอาทิตย์และฉลองพระองค์ขาววาววับ
แสดงให้เห็นว่าพระเยซูเจ้าทรงเป็นแสงสว่างแท้ที่ส่องสว่างแก่มนุษย์ อีกทั้ง
เป็นการบอกล่วงหน้าถึงการกลับคืนพระชนม์ชีพและครองราชย์นิรันดรของพระองค์ ในฐานะพระเจ้าและกษัตริย์แห่งสากลจักรวาล
การปรากฏมาของโมเสสผู้รับมอบบทบัญญัติจากพระเจ้า และเอลิยาห์ประกาศกผู้ยิ่งใหญ่ของอิสราแอล
เป็นตัวแทนของธรรมบัญญัติและธรรมประเพณี ที่รับรองการกระทำของพระองค์
2.
บทเรียนสำหรับเรา
การฉลองพระเยซูเจ้าทรงประจักษ์พระวรกาย และพระวาจาของพระเจ้าให้บทเรียนสำคัญสำหรับเราหลายประการ
ในการนำไปปฏิบัติในชีวิต
ประการแรก จงอธิษฐานภาวนา พระเยซูเจ้าทรงพาสาวกสามคนขึ้นบนภูเขาเพื่ออธิษฐานภาวนา
ผ่านทางการภาวนาทำให้เราสามารถทราบถึงแผนการของพระเจ้าสำหรับเรา ในการภาวนาพระเจ้าได้แสดงให้เราทราบถึงความรักของพระบิดาเจ้า
บ่อเกิดแห่งความยินดีและความเข้มแข็งของเรา
อาศัยการภาวนาทำให้เราสามารถเข้าใจพระวาจาของพระเจ้าได้ดียิ่งขึ้น
รวมถึงพระประสงค์ของพระองค์สำหรับเรา
ประการที่สอง “จงฟังท่านเถิด” ให้เราทำตามพระสุระเสียงของพระบิดาเจ้าที่ตรัสกับสาวกทั้งสามบนภูเขาว่า
“จงฟังท่านเถิด” การฟังพระเยซูเจ้าคือการฟังสิ่งที่พระองค์ตรัส พระเจ้าทรงตรัสกับเราหลายวิธี
ผ่านทางพระวาจาและคำสอนของพระศาสนจักร ชีวิตของเราจะต้องมุ่งแสวงหาและปฏิบัติตามแผนการและพระประสงค์ของพระเจ้า
มิใช่น้ำใจของเรา
ประการที่สาม “จงลุกขึ้นเถิด
อย่ากลัวเลย” พระเยซูเจ้าทรงปลุกศิษย์ทั้งสามให้ตื่นจากภวังค์และเผชิญกับความเป็นจริงแห่งชีวิต
นั่นคือ การลงจากภูเขา ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งการประทับอยู่ของพระเจ้า เพื่อออกไปสู่ความเป็นจริงแห่งชีวิต
เราต้องนำพระองค์กลับไปพร้อมกับเราในชีวิตประจำวัน ให้พระองค์ทรงนำทางเราและมองเห็นถึงการประทับอยู่ของพระองค์ในเพื่อนพี่น้อง
บทสรุป
พี่น้องที่รัก การประจักษ์พระวรกายแท้จริงเกิดขึ้นเมื่อเราได้รับศีลล้างบาป
แต่เราต้องทำให้การประจักษ์พระวรกายนี้ดำเนินต่อไปในชีวิตของเรา
ในการอธิษฐานภาวนาและยอมรับว่าพระเยซูเจ้าเป็นพระคริสตเจ้าและบุตรของพระเจ้า
การเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นในตัวเรา ทำให้เรากลายเป็นบุตรของพระเจ้าและมองเห็นทุกคนเป็นพี่น้อง
การฉลองพระเยซูเจ้าทรงประจักษ์พระวรกายเป็นการฉลองแห่งความหวัง
ที่ทำให้เราสามารถยืนหยัดมั่นคงในท่ามกลางปัญหาและความยากลำบากที่กำลังเผชิญอยู่
อีกทั้ง เป็นหลักประกันว่าเราจะได้รับเกียรติรุ่งโรจน์เช่นเดียวกัน หากเราพยายามที่ดำเนินชีวิตตามแนวทางของพระองค์
บนหนทางแห่งไม้กางเขน ซึ่งเป็นหนทางแห่งความรัก การรับใช้ และการอภัย
คุณพ่อขวัญ
ถิ่นวัลย์
khuanthinwan@gmail.com
San Tomasso Ashram, วัดป่าพนาวัลย์
5 สิงหาคม 2017ภาพประกอบ: ช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม, บ้านซ่ง, นาแก นครพนม; 2017-08-05
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น