วันศุกร์ที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2559

ครั้งหนึ่งที่บาหลี (1)

ครั้งหนึ่งที่บาหลี
“บาหลี (Bali)  ได้ชื่อว่าเป็นเกาะสวรรค์ของนักท่องเที่ยวที่ผู้คนทั่วโลกรู้จักและอยากมาเยือนสักครั้ง เพื่อชื่นชมความสวยงามทางธรรมชาติที่ผสมผสานความเชื่อทางศาสนา วัฒนธรรม ประเพณี และวิถีชีวิตของผู้คนได้อย่างลงตัว กลายเป็นมนต์เสน่ห์ที่ทำให้ทุกคนที่มาเยือนหลงใหล จนได้รับการขนานนามว่าเป็น “อัญมณีแห่งทะเลใต้”
อะไรที่ทำให้บาหลีกลายเป็นเป้าหมายของการเดินทาง ที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกนิยมปักหมุดในแผนที่การเดินทางเสมอมา นี่คือความมุ่งหมายของบทความนี้ เพื่อนำเสนอเรื่องราวความเป็นมาและความงดงามของสถานที่สำคัญต่างๆ ของบาหลีที่ได้ไปเห็นด้วยตาตนเอง ในห้วงเวลาที่ได้มีโอกาสอยู่ที่บาหลีระหว่างวันที่ 26-30 กรกฎาคม 2016 ซึ่งเป็นครั้งหนึ่งของชีวิตที่บาหลี

1.    บาหลี อัญมณีแห่งทะเลใต้
บาหลี เริ่มเป็นที่รู้จักแก่สายตาชาวโลกราวต้นศตวรรษที่ 20 เมื่อนักเดินทางจากยุโรปมาเกาะบาหลี ได้เห็นถึงความงดงามทางธรรมชาติและวัฒนธรรมอันตื่นตา ทำให้เกิดแรงบันดาลใจสร้างสรรค์ผลงานทั้งจิตรกรรมและข้อเขียนส่งกลับไปเผยแพร่ ทำให้ทั่วโลกได้รับรู้และผู้คนใฝ่ฝันอยากมาเยือนเกาะสวรรค์แห่งนี้ ในแต่ละปีจึงมีนักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลกหลั่งไหลสู่บาหลีมากกว่า 1 ล้านคน
บาหลี เป็นเกาะหนึ่งในบรรดาเกาะน้อยใหญ่จำนวน 17,508 เกาะของประเทศอินโดนีเซีย ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของเกาะชวาที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติ มีภูเขาไฟที่คุกรุ่น ผืนป่า สัตว์ป่านานาชนิด และหาดทรายสีขาวทอดยาวริมทะเล แต่สิ่งที่ทำให้บาหลีดำรงอยู่ได้จากอดีตถึงปัจจุบันคือ ความเชื่อศรัทธาในเทพเจ้าตามหลักศาสนาฮินดูที่ได้รับอิทธิพลจากอินเดีย ผสานเข้ากับความเชื่อในพลังจักรวาลและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่หลอมรวมอยู่ในวิถีชีวิต วัฒนธรรมและประเพณีของคนบาหลี

บาหลีปัจจุบันเป็นหนึ่งใน 33 จังหวัดของอินโดนีเซีย มีเมือง “เดนปาซาร์” (Denpasar) เป็นเมืองหลวงและศูนย์กลางสำคัญด้านการปกครองและเศรษฐกิจ มีพื้นที่ทั้งหมด 5,634.40 ตารางกิโลเมตร มีประชาการ 4,225,000 คน (ค.ศ. 2014) ภาษาที่ใช้คือภาษาอินโดนีเซียและภาษาบาหลี ประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาฮินดูผสมผสานกับความเชื่อดั้งเดิม ที่เชื่อในธรรมชาติว่ามีพลังและจิตวิญญาณ ทุกสรรพสิ่งล้วนมีวิญญาณอยู่ ทำให้ศาสนาฮินดูที่บาหลีต่างจากที่อินเดียมาก
สาเหตุที่บาหลีมีคนนับถือศาสนาฮินดูอยู่มาก ต่างจากพื้นที่อื่นของอินโดนีเซียที่นับถือศาสนาอิสลาม เนื่องจากเมื่อพวกมุสลิมมีอำนาจเหนือเกาะชวาราวศตวรรษที่ 15 ชาวฮินดูชั้นสูงได้อพยพข้ามมายังบาหลี พร้อมกับนำศิลปวัตถุ ช่างศิลป์และนาฏศิลป์ประจำราชสำนักมาด้วย ตามมาด้วยการอพยพครั้งใหญ่ของชาวฮินดูจากเกาะชวา ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวงต่อคนบาหลี ทั้งทางด้านสังคมและวัฒนธรรม

2.    สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ
นอกเหนือจากวิถีชีวิตที่เรียบง่ายและความเชื่อในศาสนา ที่คนบาหลีสืบทอดและรักษาไว้ไม่เสื่อมคลายจนกลายเป็นมนต์เสน่ห์แล้ว บาหลียังคงมีความงดงามของธรรมชาติที่ดึงดูดใจผู้คนจากทั่วโลกให้มาเยือน ที่น่าชมคือบาหลีมีกฎหมายห้ามปลูกสร้างอาคารสูงที่แปลกปลอมจากธรรมชาติ อาคารที่จะสร้างต้องมีความสูงไม่เกินยอดมะพร้าวคือ 15 เมตร เราจึงไม่พบอาคาร โรงแรมหรือตึกระฟ้าเหมือนเมืองท่องเที่ยวทั่วไป
วันนี้จึงใคร่ขอนำสถานที่สำคัญของบาหลีที่ได้ไปเห็นมา ตั้งแต่วันแรกที่เดินทางมาถึงจนถึงวันสุดท้ายที่บาหลี
 วัดอูลูวาตู (Ulu Watu)



วัดอูลูวาตู เป็นสถานที่แรกที่ได้ไปชม ถือเป็นวัดสำคัญหนึ่งในเก้าแห่งที่คนบาหลีให้ความเคารพบูชาอย่างสูง สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 11 เพื่อเป็นศาสนสถานริมทะเล ตัววัดตั้งอยู่สุดปลายหน้าผาหินสูงชันกว่า 200 เมตร บรรยากาศรอบวัดรายล้อมด้วยสวนป่าร่มรื่นและมีฝูงลิงอาศัยอยู่ ซึ่งมักคุเทศก์ผู้นำทางได้เตือนให้ระวังทรัพย์สิน และของใช้อื่นๆ ที่อาจถูกลิงฉกฉวยเอาไปขณะเดินเที่ยวชมทัศนียภาพภายในบริเวณวัดได้
วัดอูลูวาตูแบ่งเป็นสามชั้น ได้แก่ บริเวณชั้นนอก ตรงประตูทางเข้าวัดแกะสลักหินเป็นรูปครุฑสวยงามวิจิตร ด้านบนประตูสลักรูปหน้ายักษ์ดุดัน เมื่อเดินเข้าสู่ลานวัดชั้นที่ 2 เป็นที่ตั้งของพระพิฆเนศขนาดใหญ่ และส่วนชั้นบนสุดเป็นสถานที่หวงห้าม เข้าได้เฉพาะชาวบาหลีที่มาสวดมนต์ จากระเบียงวัดด้านขวามือมีทางเดินลงไปเชื่อมกับจุดชมวิวอีกมุมหนึ่งที่ทอดยาวไปกับหน้าผาสูง มองเห็นวัดและคลื่นขนาดใหญ่ซัดกระแทกโขดหิน
สวนวิษณุ (GWK Cultural Park)



จากนั้นได้เดินทางไปที่สวนวิษณุ (Garuda Wisnu Kencana Cultural Park) ที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นสวนวัฒนธรรมของบาหลี บนเนื้อที่กว่า 6 แสนตารางเมตร นับเป็นโครงการขนาดใหญ่ของทางการอินโดนีเซียที่ตั้งใจจะสร้างเป็นแลนด์มาร์คสำคัญของที่นี่ โดยตัดภูเขาทั้งลูกให้เป็นลานขนาดใหญ่ ตรงปลายลานมีบันไดขึ้นไปยังรูปพญาครุฑ (Garuda)  พาหนะของพระวิษณุ เหนือขึ้นไปด้านซ้ายมือเห็นรูปปั้นพระวิษณุ เทพเจ้าสำคัญทางศาสนาฮินดู มีลักษณะเป็นรูปปั้นขนาดครึ่งท่อนความสูง 23 เมตร
จากด้านหลังรูปปั้นพระวิษณุมองไปจะเห็นการก่อสร้างพระวิษณุทรงครุฑ บนตึกที่มีความสูง 11 ชั้น ส่วนปีกของครุฑจะกว้างถึง 64 เมตร เมื่อแล้วเสร็จจะมีขนาดใหญ่กว่าเทพีเสรีภาพที่สหรัฐอเมริกา และจะกลายเป็นประติมากรรมที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก อีกทั้งจะเป็นสิ่งปลูกสร้างขนาดใหญ่ที่อยู่เหนือกฎหมายของบาหลีที่ห้ามก่อสร้างเกิน 15 เมตร ซึ่งมองดูแล้วขัดแย้งกับธรรมชาติที่สวยงามของบาหลีไม่น้อย
หาดจิมบารัน (Jimbaran)



สถานีสุดท้ายของการเดินทางวันแรกคือหาดจิมบารัน ซึ่งเป็นชายหาดที่เลื่องชื่อด้านความสวยงามไร้ที่ติ มีลักษณะเป็นเวิ้งหาดรูปพระจันทร์เสี้ยว เม็ดทรายขาวละเอียด เงียบสงบมีวามเป็นส่วนตัว จึงกลายเป็นที่ตั้งของรีสอร์ตและโรงแรมหรูระดับห้าดาวตลอดโค้งหาดทราย อีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของร้านอาหารทะเลที่มีให้เลือกหลากหลาย
ที่หาดจิมบารันนี้เอง นอกจากได้รับประทานอาหารเย็นแบบบาหลีแล้ว ยังได้ชื่นชมพระอาทิตย์ตกดินเป็นครั้งแรกที่บาหลี ซึ่งมีนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากที่มาชมพระอาทิตย์ตกดินเช่นกัน ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวชาวจีนซึ่งถือเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่ที่มาแรงและแซงหน้านักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลีย ที่เคยครองตำแหน่งมาอย่างยาวนานในเรื่องจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเที่ยวบาหลีเป็นที่เรียบร้อยตั้งแต่ ค.ศ. 2015
Don Daniele เรื่อง/ภาพ
khuanthinwan@gmail.com
Bali, Indonesia

July 26, 2016

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น