วันพุธที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2559

ใหญ่แค่ไหนก็เล็กกว่าโลง

ใหญ่แค่ไหนก็เล็กกว่าโลง
14 มิถุนายน 2016
ปลงศพอันนา กันดา แสนสุริวงค์
รม 5:5-11
มก 13:33-37

บทนำ
พ่อเคยได้รับตารางอายุขัยของคนไทยที่ส่งต่อๆ กันมาทางไลน์  (Line) ไม่ทราบว่ามีใครเคยได้รับบ้างหรือเปล่า ในตารางบอกว่าอายุขัยโดยเฉลี่ยของคนไทยคือ 75 ปี หรือ 27,375 วัน โดยเจาะจงเน้น “วันที่เหลืออยู่” แต่ละปีของอายุขัยจะมีช่องที่แสดงถึงวันที่เหลืออยู่ เช่น อายุ 75 ปี วันที่เหลืออยู่เท่ากับ 0, อายุ 70 ปีเหลืออยู่ 1,825 วัน, อายุ 50 ปีเหลือยู่ 9,125 วัน ยิ่งอายุน้อยวันเวลายิ่งเหลือมาก ยิ่งอายุมากวันเวลายิ่งเหลือน้อย
หากดูตามตารางนี้ คนที่อายุเกิน 75 ปีถือเป็นกำไรชีวิตเป็นพระพรของพระเจ้า แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีอายุถึง 75 ปีตามเกณฑ์ หรือยืนยาวถึง 80-90 ปี ชีวิตของอันนา กันดาและหลุมศพที่สุสานศักดิ์สิทธิ์คือคำตอบ บางคนอายุไม่ถึง 50 ปีด้วยซ้ำ บางคนเป็นเด็กอายุเพียงไม่กี่ขวบ บางคนกำลังอยู่ในวัยหนุ่มสาว กำลังเรียนหนังสือหรือสร้างเนื้อสร้างตัว แต่พระเจ้าได้เรียกเขาไป เพราะวิถีของพระเจ้าไม่เหมือนวิถีของเรามนุษย์

ใหญ่แค่ไหนก็เล็กกว่าโลง
ชีวิตของเราไม่ได้วัดกันด้วยชั่วโมง วัน เดือน ปี ช่วงชีวิตของเราสมบูรณ์แบบได้ ไม่ว่าจะเป็น 10 ปี 50 ปีหรือ 60 ปี ทั้งนี้เพราะ “สำหรับองค์พระผู้เป็นเจ้าแล้ว เพียงหนึ่งวันก็เหมือนหนึ่งพันปี และหนึ่งพันปีก็เหมือนกับหนึ่งวัน” (2 ปต 3:8) นักบุญเทเรซาแห่งพระกุมารเยซู จากโลกนี้ไปในวัยเพียง 24 ปี แต่ได้กลายเป็นนักบุญผู้ศักดิ์สิทธิ์ องค์อุปถัมภ์การแพร่ธรรมในต่างแดนและนักปราชญ์ของพระศาสนจักร เพราะการทำสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ประจำวันด้วยความรักเพื่อเป็นการพลีกรรม
ชีวิตของอันนากันดา แสนสุริวงค์ ญาติพี่น้องของเราผู้นี้อายุเพียง 41 ปี ซึ่งสะท้อนความจริงที่ว่า ชีวิตในโลกนี้สั้น ไม่จีรังยั่งยืน บางคนจึงบอกว่า “ชีวิตของเรานั้นสั้นเกินกว่าจะเห็นแก่ตัว” ดังนั้น เมื่อเรามาร่วมงามศพและอยู่ต่อหน้าร่างไร้วิญญาณของผู้วายชนม์ เราต้องตระหนักว่า ต่อไปเราต้องเป็นแบบนี้ ไม่มีใครหลีกพ้น ใหญ่แค่ไหนก็เล็กกว่าโลง และเอาอะไรไปไม่ได้นอกจากคุณงามความดี ประการสำคัญ เราไม่รู้ว่าวันเวลาของเราจะมาถึงเมื่อไหร่ เราจึงต้องสร้างบุญสร้างกุศลและเตรียมพร้อมอยู่เสมอ

บทสรุป
พี่น้องที่รัก เราต้องตระหนักถึงพระพรแห่งชีวิตที่เราได้รับจากพระเจ้า ทุกครั้งที่เรามาร่วมงานศพและอยู่ต่อหน้าหลุมศพ เราต้องตระหนักว่า ต่อไปเราต้องเป็นแบบนี้ นี่เป็นกฎธรรมชาติที่ไม่มีใครหลีกพ้น นี่คือสัจธรรมแห่งชีวิต ประการสำคัญ เราไม่รู้ว่าวันเวลาของเราจะมาถึงเมื่อไหร่เอา เรารู้และจำวันเกิดของเราได้ แต่วันตายเราไม่ทราบ เราจึงต้องสร้างบุญสร้างกุศลและเตรียมพร้อมอยู่เสมอ เพราะมีแต่สิ่งนี้เท่านั้นที่เราสามารถนำติดตัวไปได้
มีคนเขาบอกว่า “วันเวลาในโลกนี้มีแค่ 3 วัน คือ เมื่อวาน ใช้ไปแล้ว วันนี้ กำลังใช้อยู่ และวันพรุ่งนี้ ไม่รู้จะได้ใช้ไหม” เราไม่รู้ว่าจะมีวันพรุ่งนี้สำหรับเราไหม โชคดีแค่ไหนที่วันนี้ตื่นมา เรายังมีลมหายใจอยู่ ฉะนั้น จงขอบคุณพระเจ้าเสมอและทำหน้าที่คริสตชนของเราในแต่ละวันให้ดีที่สุด ขอพระเยซูเจ้าผู้กลับคืนชีพ ได้นำทางชีวิตเราและอวยพรเราทุกคน
คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
danielkhuan@hotmail.com
San Tomasso Ashram, ป่าพนาวัลย์

14 มิถุนายน 2016

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น