วันพฤหัสบดีที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

IEC2016, Cebu (จบ)


การชุมนุมเคารพศีลมหาสนิทนานาชาติ ครั้งที่ 51

 24-31 มกราคม 2016 ณ เมืองเซบู ประเทศฟิลิปปินส์

คุณศรินทร เมธีวัชรานนท์กำลังพูดถึงการเป็นพยานชีวิตของตนในงาน IEC2016 

แม่พระ กุญแจสู่ความศรัทธาต่อศีลมหาสนิท

คงเหมือนกับงานต่างๆ หรือเอกสารที่ออกโดยพระศาสนจักร ในวันสุดท้ายวันที่ 30 มกราคม ค.ศ. 2016 จึงเจาะจงฝากความวางใจไว้กับแม่พระ ในฐานะผู้ร่วมทางของเราสู่ทางแห่งศีลมหาสนิท ตามที่พระคาร์ดินัลทิโมธี โดลัน (Card. Timothy Dolan) กล่าวในการสอนคำสอนวันสุดท้ายเรื่อง “ศีลมหาสนิทและแม่พระ (The Eucharist and Mary)” โดยพูดถึงศีลมหาสนิทใน 3 มิติคือ ยัญบูชา (Sacrifice) อาหาร (Meal) และการประทับอยู่จริง (Real Presence) ซึ่งแม่พระเกี่ยวข้องและอยู่ในเหตุการณ์สำคัญในชีวิตของพระเยซูเจ้า ทั้งที่เบ็ธเลเฮม คานา และกัลวารีโอ

 พระคาร์ดินัลโดลัน จากสหรัฐกำลังพูดเรื่องศีลมหาสนิทและแม่พระ วันที่ 30 มกราคม 2016


ในมิติของยัญบูชา ขณะที่พระเยซูเจ้าทรงทรมานอย่างแสนสาหัสบนกางเขน แม่พระยืนอยู่ที่เชิงกางเขน หากเราต้องการใกล้ชิดกับพระเยซูเจ้าบนกางเขนในพิธีบูชาขอบพระคุณ เราต้องใกล้ชิดแม่พระเพราะพระนางอยู่ตรงนั้น ในมิติของอาหาร แม่พระให้กำเนิดพระเยซูเจ้าที่เบธเลเฮมซึ่งหมายถึง “บ้านขนมปัง” ที่สื่อถึงปังทรงชีวิต จากหมู่บ้านคานาที่พระเยซูเจ้าทรงเปลี่ยนน้ำให้กลายเป็นเหล้าองุ่นตามที่แม่พระร้องขอ สู่การเลี้ยงอาหารค่ำมื้อสุดท้ายที่ทรงเปลี่ยนปังและเหล้าองุ่นให้กลายเป็นพระกายและพระโลหิตของพระองค์ แม่พระคือผู้มีบทบาทในการนำพระหรรษทานแห่งศีลมหาสนิท

ประมุขอัครสังฆมณฑลนิวยอร์กที่ได้รับยกย่องจากนิตยสารไทม์ให้เป็นหนึ่งใน 100 บุคคลที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลกในปี ค.ศ. 2012 ยังกล่าวด้วยว่าการประทับอยู่จริงของพระเยซูเจ้าในศีลมหาสนิท เริ่มจากการที่แม่พระตอบรับต่อพระประสงค์ของพระเจ้า “ขอให้เป็นไปกับข้าพเจ้าตามวาจาของท่านเถิด (Fiat)” พระวจนาถต์จึงรับเอากายและประทับท่ามกลางเรา (Emmanuel) ทำให้พระเยซูเจ้ามีธรรมชาติมนุษย์ แม่พระจึงเป็นบุคคลแรกที่ทำให้พระพรอันยิ่งใหญ่ของพระเจ้ามาสู่มนุษย์ในศีลมหาสนิท

 คุณศรินทร เมธีวัชรานนท์ จากประเทศไทยกำลังพูดเรื่องการเป็นพยานชีวิตของตน


ปรากฏการณ์ศรินทร ความรักที่ไร้ขอบเขตของพระเจ้า

ต่อมาเป็นเรื่องราวการเป็นพยานชีวิตของคุณศรินทร เมธีวัชรานนท์ คนไทยที่ได้รับเลือกให้พูดในงานชุมนุมศีลมหาสนิทครั้งนี้ กล่าวกันว่าคุณศรินทรเป็นเหมือนกับแม่พระอีกคนหนึ่งที่ทำให้งานจบลงอย่างสวยงาม และทำให้ความรักที่ไร้ขอบเขตของพระเจ้าปรากฏชัดและสัมผัสได้ เธอได้เล่าถึงเรื่องราวชีวิตในฐานะนักธุรกิจหญิงเก่งที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย ได้เป็นกรรมการผู้จัดการบริษัทขณะอายุเพียง 25 ปี สามารถบริหารงานจนกลายเป็นบริษัทชั้นนำในเวลาไม่นาน แต่แล้วชีวิตอันสวยงามต้องประสบปัญหา เธอถูกกล่าวร้ายว่าฉ้อโกงและถูกฟ้องร้อง ทำให้ต้องหลบไปอยู่ต่างประเทศ ใช้ชีวิตอย่างยากลำบากจนคิดฆ่าตัวตาย แต่ด้วยความศรัทธาในพระเจ้าทำให้เธอล้มเลิกความคิดนั้น กลับมาต่อสู้พิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเองจนได้รับการถอนฟ้อง  และให้อภัยทุกคนที่มีส่วนในการกล่าวร้ายโดยไม่ฟ้องกลับ

คุณศรินทรเกิดในครอบครัวชาวพุทธทีศรัทธา แต่ได้รับการเยียวยาในความเชื่อคาทอลิก และทุกวันนี้ได้รับการหล่อเลี้ยงด้วยศีลมหาสนิท เธอจึงกลายเป็นต้นแบบของคนที่ดำเนินชีวิตศีลมหาสนิทในกิจการ ที่บรรดาพระสังฆราชและพระคาร์ดินัลกล่าวถึงตลอดการชุมนุมศีลมหาสนิทนี้ เธอได้อุทิศตนทั้งครบในการรับใช้พระเจ้า บอกเล่าเรื่องราวของตนเองเพื่อนำผู้อื่นให้มารู้จักพระเจ้า เป็นต้นในสังคมไทยที่คนส่วนใหญ่นับถือพุทธศาสนา พยายามดำเนินชีวิตในแต่ละวันให้ดีที่สุดเพื่อให้คนอื่นได้เห็นพระคริสตเจ้าในตัวเธอ อีกทั้ง ได้ประกาศข่าวดีตามที่ต่างๆ แก่ทุกคนทุกครั้งที่มีโอกาส และเดินทางไปทั่วโลกเพื่อเป็นพยานถึงความรักและพระเมตตาของพระเจ้า

 หลังกล่าวจบ พระอัครสังฆราชปัลมาแห่งเซบูมาแสดงความยินดี


คุณศรินทรได้เขียนหนังสือ “ภูเขาที่เคลื่อนได้” เพื่อแบ่งปันชีวิตจริงที่ยิ่งกว่านิยาย จากหนังสือเล่มนี้ทำให้เธอถูกสัมภาษณ์และได้ไปแบ่งปันความเชื่อในพระเจ้าผ่านรายการโทรทัศน์ ปัจจุบันเธอได้อุทิศตนรับใช้พระเจ้าและผู้อื่นด้วยการตั้งสายด่วน เพื่อให้คำปรึกษาและให้กำลังใจคนที่กำลังท้อแท้ในชีวิต ไปบรรยายตามที่ต่างๆ เพื่อแบ่งปันประสบการณ์และนำความหวังไปสู่ผู้อื่น ตลอดครึ่งชั่วโมงของการพูด ดูเหมือนเวลาผ่านไปเร็วมากในความรู้สึกของผู้เข้าร่วมการประชุมกว่า 15,000 คน ทุกคนปรบมือเป็นระยะเมื่อเธอพูดประโยคที่กินใจ บางคนน้ำตาซึมด้วยความตื้นตันและประทับใจ

เมื่อเธอจบการการแบ่งปันด้วยพระวาจาที่ว่า “แต่ข้าพเจ้าไม่คิดว่าชีวิตของข้าพเจ้ามีค่าสำหรับข้าพเจ้า เท่ากับการที่ข้าพเจ้าได้วิ่งถึงปลายทาง และทำให้ภารกิจที่ข้าพเจ้าได้รับมอบหมายจากพระเยซูองค์พระผู้เป็นเจ้าสำเร็จไป คือการเป็นพยานประกาศข่าวดีแห่งพระหรรษทานของพระเจ้า” (กจ 20:24) ทุกคนในที่ประชุมได้ยืนขึ้นปรบมืออย่างยาวนาน พระอัครสังฆราชโอเซ่ ปัลมา แห่งเซบูซึ่งเป็นประธานจัดงานได้มาขอบคุณและแสดงความยินดีกับเธอทันทีที่ก้าวลงจากเวที รวมถึงพระคาร์ดินัลเกรียงศักดิ์ โกวิทวานิชที่รอขอบคุณเธอสำหรับการเป็นพยานชีวิตในครั้งนี้ ช่วงพักรับประทานอาหารเที่ยงผู้เข้าร่วมประชุมจำนวนมากได้มาแสดงความยินดีและขอถ่ายรูปกับเธอ แม้จะผ่านไปนานกว่าชั่วโมงแต่ผู้คนยังมาขอถ่ายรูป จนผู้ที่ทำหน้าที่ดูแลเธอได้กล่าวขอโทษผู้ที่กำลังรอถ่ายรูป เพื่อให้เธอได้ไปพักรับประทานอาหาร

 คุณศรินทรได้รับเสียงปรบมือและการแสดงความยินดีอย่างล้นหลาม



           นี่คือ “ปรากฏการณ์ศรินทร เมธีวัชรานนท์” ที่เกิดขึ้น ณ โถงขนาดใหญ่ที่ใช้จัดงานชุมนุมเคารพศีลมหาสนิทนานาชาติ ครั้งที่ 51 ที่เมืองเซบู ประเทศฟิลิปปินส์ เป็นปรากฏการณ์แห่งความรักที่ไร้ขอบเขตของพระเจ้า ที่เธอได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่ายิ่งใหญ่และสามารถไปถึงทุกมุมโลก ความรักและพระหรรษทานของพระเจ้าทำให้เธอสามารถให้อภัยศัตรูได้ ทำให้จิตใจที่บอบช้ำของเธอได้รับการรักษาและพบความสุขที่ยิ่งใหญ่ และปรากฏการณ์นี้ยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในวันรุ่งขึ้น มีผู้คนมาขอถ่ายรูปกับเธอในทุกที่ที่เธอไป จนถึงวันที่เดินทางกลับที่สนามบินยังมีนักข่าวมาขอสัมภาษณ์ เธอได้ค้นพบพันธกิจของพระเจ้าที่ต้องการให้เธอกระทำ และนี่เป็นสิ่งที่พระเจ้าทรงต้องการให้ทุกคนได้กระทำ เช่นเดียวกัน

ในตอนเย็นของวันเดียวกันที่ศูนย์กีฬาเมืองเซบู มีพิธีบูชาขอบพระคุณและพิธีรับศีลมหาสนิทครั้งแรกของเด็กนักเรียนทั้งชายและหญิงจากโรงเรียนต่างๆ ทั่วเซบู รวม 5,000 คน ในจำนวนนี้เป็นเด็กเร่ร่อนข้างถนนจากทั่วฟิลิปปินส์จำนวน 500 คน โดยมีพระคาร์ดินัลกิตติคุณ ริคาร์โด เจ วิดัล (Card. Ricardo J. Vidal) วัน 84 ปีเป็นประธานในพิธี เนื่องจากในการจัดการชุมนุมเคารพศีลมหาสนิทครั้งแรกที่ฟิลิปปินส์ในปี ค.ศ. 1937 พระคาร์ดินัลวิดัลในวัย 6 ขวบ ได้รับศีลมหาสนิทครั้งแรกในโอกาสดังกล่าวที่จัดขึ้นที่กรุงมนิลาและกลายเป็นแรงบันดาลใจครั้งสำคัญในชีวิต ดังนั้นในวันนี้จึงเข้าใจดีถึงความรู้สึกของบรรดาเด็กๆ หลังพิธีบูชาขอบพระคุณมีการแสดงทางศิลปะและวัฒนธรรมของฟิลิปปินส์อย่างยิ่งใหญ่

 พระคาร์ดินัลวิดัล เป็นประธานมิสซาโปรดศีลมหาสนิทครั้งแรกให้กับเด็ก 5,000 คน


บทสรุป

คำประกาศของการชุมนุมเคารพศีลมหาสนิทนานาชาติ ครั้งที่ 51 ได้ย้ำเตือนผู้เข้าร่วมงานทุกคนให้มีประสบการณ์ที่สวยงามเช่นเดียวกับศิษย์สองคนที่เอมาอุส “เราแน่ใจว่าพระจิตเจ้าได้ส่งเราไปประกาศเรื่องราวของพระเยซูเจ้า การชุมนุมครั้งนี้เป็นเหมือนกับการชุมนุมกันของบรรดาศิษย์ในระยะเริ่มแรก เมื่อพวกเขาได้แบ่งปันเรื่องที่แต่ละคนได้พบพระเยซูเจ้าผู้กลับคืนชีพในพระคัมภีร์และการร่วมพิธีบิปังด้วยความยินดี” เราแต่ละคนต่างได้รับมอบพันธกิจต่อคนยากจนที่จะต้องรักและช่วยเหลือพวกเขา ตัวอย่างของพระเยซูสอนเราว่าเราต้องเป็นปังที่ถูกบิสำหรับคนจนและคนต่ำต้อย ซึ่งเป็นพี่น้องชายหญิงของเราที่ไม่มีอะไรในชีวิต พวกเขาคือที่พิเศษที่เราสามารถพบพระเยซูเจ้าได้เสมอนอกศีลมหาสนิท

หลังจบการชุมนุมเคารพศีลมหาสนิทนานาชาติ ครั้งที่ 51 ซึ่งเราได้รับการกระตุ้นและเติมพลังใหม่จากศีลมหาสนิท เราถูกส่งไปในโลกให้เป็นเป็นปังที่ถูกบิสำหรับโลกที่แตกแยก ด้วยการเป็นพยานแห่งความหวัง คำว่า “HOPE” ได้ให้ภาพที่ชัดเจนเกี่ยวกับพันธกิจของเรา

 การแสดงทางศิลปะและวัฒนธรรมหลังมิสซาโปรดศีลมหาสนิทครั้งแรก


H: Humility and humble hearts เราต้องเป็นพยานด้วยหัวใจที่สุภาพและถ่อมตนถึงองค์พระคริสตเจ้าในชีวิตประจำวัน

O: Openness of hearts and minds เราต้องเปิดตัวและหัวใจในการช่วยเหลือคนจน พร้อมที่จะตอบสนองต่อเสียงร้องของคนจน เสียงร้องของโลก และเสียงร้องของพระเยซูเจ้า

P: Prayer to the presence of Jesus in the Eucharist เราต้องภาวนาและเฝ้าพระเยซูเจ้าในศีลมหาสนิท เพราะการภาวนาเป็นเหมือนปอดของการประกาศพระวรสาร

E: Empower by the celebrating of the Eucharist เราต้องได้รับพลังจากการเฉลิมฉลองศีลมหาสนิทในพิธีบูชาขอบพระคุณ และนำพระองค์กลับออกไปในชีวิตประจำวัน เพราะศีลมหาสนิทเป็นแหล่งพลังและเป้าหมายของชีวิตและพันธกิจของพระศาสนจักร

“ขอพระนางมารีย์พรหมจารี มารดาของพระวจนาตถ์ที่ทรงรับเอากาย และองค์พระเจ้าแห่งศีลมหาสนิท ได้ร่วมทางกับเราผู้เป็นศิษย์ธรรมทูต เพื่อพระนางจะได้แบ่งปันพระคริสตเจ้าในตัวเรา ทรงเป็นความหวังเพื่อให้เราได้รับความรุ่งเรือง อาแมน”

 วันเดินทางกลับวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2016 ยังมีนักข่าวมาขอสัมภาษณ์และถ่ายรูป


คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์


San Tomasso Ashram, วัดป่าพนาวัลย์

4 กุมภาพันธ์ 2016าา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น