การชุมนุมเคารพศีลมหาสนิทนานาชาติ ครั้งที่ 51
24-31 มกราคม 2016 ณ
เมืองเซบู ประเทศฟิลิปปินส์
พิธีแห่ศีลมหาสนิทที่เมืองเซบูที่มีผู้ร่วมมากที่สุด 1.5 ล้านคน
ศีลมหาสนิท การเสวนากับวัฒนธรรม
นี่คือหัวเรื่องการสอนคำสอนของพระคาร์ดินัลหลุยส์
อันโตนิโอ ตาเกล (Card. Luis Antonio Tagle) ประมุขอัครสังฆมณฑลมะนิลา ในวันที่ 28
มกราคม ค.ศ. 2016 ที่พูดถึงเหตุผลที่พระศาสนจักรต้องเสวนากับวัฒนธรรม เนื่องจากพันธกิจของพระศาสนจักรไม่สามารถประณามศัตรูของความจริงในพระศาสนจักรและนอกพระศาสนจักรได้ การเสวนาคือพันธกิจและเรียกร้องสิ่งที่เรียกว่า
“ไหวพริบทางวัฒนธรรม”
(Culture intelligence) เราต้องมีไหวพริบทางวัฒนธรรมเพื่อเห็นแก่พระวรสารและมนุษยชาติ
เนื่องจากเราต้องพบปะผู้คนในวัฒนธรรม
ไหวพริบทางวัฒนธรรม ประกอบด้วย 1)
ฉันรู้จักวัฒนธรรมของฉันและรู้ด้วยว่าวัฒนธรรมของฉันได้บ่มเพาะตัวฉันและมีผลต่อฉันอย่างไร,
2) ฉันได้ศึกษาและพยายามที่จะรู้จักวัฒนธรรมของผู้อื่นจากภายใน
และ 3) ฉันได้ตัดสินใจที่จะเรียนรู้จากวัฒนธรรมของฉันและของเขา
ท้าทายและทำให้กันและกันบริสุทธิ์ การใช้ไหวพริบทางวัฒนธรรมอย่างชาญฉลาด
ทำให้เกิดความเห็นพ้องต้องกันถึงความงดงามของวัฒนธรรมแต่ละอย่าง
การพูดของพระคาร์ดินัลอันโตนิโอ ตาเกล เรื่องศีลมหาสนิท การเสวนากับวัฒนธรรม
คาร์ดินัลตาเกลยังพูดถึงความขัดแย้งมากมายซึ่งทำลายโลกของเราวันนี้
รวมถึงการแยกจากกันและการปะทะทางวัฒนธรรม การเสวนาจึงเป็นสิ่งจำเป็น
แม้กระทั่งในบ้าน ในที่ทำงานที่เทคโนโลยีได้ทำให้เกิดการอพยพแบบดิจิตอลของผู้คน
และสร้างกำแพงระหว่างสมาชิกในครอบครัวด้วยกัน ที่เรียกว่าวัฒนธรรมแบบปัจเจก (Individual
culture) อยู่แบบตัวใครตัวมัน ยึดตัวเองเป็นศูนย์กลาง เช่น
การถ่ายรูปตนเอง (Selfie) โดยไม่ต้องอาศัยช่างถ่ายภาพ สามารถตกแต่งทำให้ตัวเองดูดีเสมอ
วัฒนธรรมแบบดิจิตอลได้หล่อหลอมคนหนุ่มสาวให้เห็นความสำคัญของภาพลักษณ์มากกว่าสิ่งอื่นใด
ขณะที่ศีลมหาสนิทเป็นวัฒนธรรมของการเรียกมารวมกัน (Convocation) เราได้รับการเรียกให้มาร่วมกินอาหารที่มีพระเยซูเจ้าเป็นเจ้าภาพ รู้จักกันอย่างใกล้ชิด
พระเยซูเจ้าได้ทำลายการแยกตัวออกไปในวัฒนธรรมแบบปัจเจก ดังนั้น
เราต้องเริ่มเสวนากับวัฒนธรรมแบบตัวใครตัวมันในบ้านของเรา ด้วยการกินอาหารร่วมกัน ร่วมโต๊ะอาหารด้วยกัน
โต๊ะอาหารจึงเป็นสิ่งพื้นฐานที่สำคัญของมื้ออาหาร เช่นเดียวกันกับที่เราสามารถยืนยันถึงการประทับอยู่อย่างแท้จริงของพระคริสตเจ้า
ผ่านทางการมาประชุมกันทางวัฒนธรรมแบบศีลมหาสนิท ซึ่งเป็นการชุมนุมกันและแบ่งปันกันในความรัก
คลื่นมหาชนในพิธีแห่ศีลมหาสนิท
หลังการภาวนาเช้าวันที่
29 มกราคม ค.ศ. 2016 พระคาร์ดินัลจอห์น
โอไนเยกัน (Card. John Onaiyekan) จากประเทศไนจีเรีย
ได้สอนคำสอนเรื่อง “ศีลมหาสนิท การเสวนากับคนจนและผู้ทุกข์ยาก (Eucharist: Dialogue with the poor and the suffering)” โดยพูดถึงความยากจนทางวัตถุซึ่งเป็นความยากจนที่ใกล้ตัวที่สุดในพระศาสนจักร
ศีลมหาสนิทแสดงถึงความดีของพระเจ้าในการมอบพระองค์เองแก่มนุษยชาติ
และความจำเป็นเพื่อการแบ่งปันระหว่างลูกของพระเจ้าโดยเริ่มจากในพระศาสนจักรก่อน ยังมีความยากจนฝ่ายวิญญาณที่แสดงออกในรูปของความเห็นแก่ตัว
ศีลมหาสนิทท้าทายเราให้มองเห็นแต่ละคนเป็นพี่น้อง
เป็นลูกของพระบิดาเจ้าสวรรค์องค์เดียวกัน และพระศาสนจักรต้องเป็นทางเลือกที่ดีกว่าเพื่อคนจน
นอกนั้น
ยังพูดถึงความทุกข์ยากลำบากซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตมนุษย์ ซึ่งมีหลายรูปแบบทั้งทางด้านร่างกาย
อารมณ์ และจิตใจ ศีลมหาสนิทได้แสดงให้เราเห็นว่าพระเยซูเจ้าถูกตรึงบนไม้กางเขน
เพื่อแบ่งปันสภาพความทุกข์ยากลำบากของมนุษย์
เราต้องพยายามทุกวิถีทางที่จะทำให้ศีลมหาสนิทเป็นประโยชน์สำหรับคนจนในสลัมหรือหมู่บ้านที่อยู่ห่างไกล
ผู้ที่อยู่ในคุกและถูกจองจำ รวมถึงผู้ที่ตกทุกข์ได้ยากควรมีโอกาสได้พิศเพ่งพระพักตร์ของพระเยซูเจ้าในศีลมหาสนิท
ในเวลา 16.00 น.
ของวันเดียวกันมีพิธีบูชาขอบพระคุณที่ศาลาว่าการของเมืองเซบู (Capitol
Site) โดยพระอัครสังฆราชดีร์มิด มาร์ติน (Diarmuid Martin) จากอัครสังฆมณฑลดับลิน ประเทศไอร์แลนด์ ท่ามกลางคริสตชนชาวเซบูที่มาร่วมเป็นจำนวนมาก
โดยย้ำเตือนผู้มาร่วมพิธีว่าพระศาสนจักรกลายเป็นปัจจุบันผ่านทางศีลมหาสนิท
ถ้าไม่มีศีลมหาสนิทก็ไม่มีพระศาสนจักร
ไม่มีพระศาสนจักรโดยปราศจากศีลมหาสนิทเพราะศีลมหาสนิทสร้างพระศาสนจักร
หลังพิธีบูชาขอบพระคุณมีพิธีอวยพรและแห่ศีลมหาสนิท
ซึ่งผู้จัดงานคาดการณ์ว่าจะมีผู้มาร่วมงานนี้ประมาณ 3
แสนคน แต่เมื่อเริ่มขบวนแห่ศีลมหาสนิทจำนวนผู้มาร่วมได้เพิ่มเป็นกว่า
1 ล้านคนหรือมากถึง 1.5 ล้านคนตามรายงานของหนังสือพิมพ์ในวันรุ่งขึ้น
อันแสดงถึงความเชื่อศรัทธาของพี่น้องชาวฟิลิปปินส์ที่มีต่อศีลมหาสนิท เป็นคลื่นมหาชนที่เคลื่อนจากหน้าศาลาว่าการเมืองไปถามถนนสู่จัตุรัสอิสรภาพ
(Plaza Independencia) ระยะทาง 3.4 กิโลเมตร
ร่วมกับผู้คนเต็มสองข้างทางโดยมีบรรดาเด็กและเยาวชนยืนถือเทียนอยู่แถวหน้า
เป็นภาพแห่งความศรัทธาที่ทุกคนต่างประทับใจและกลายเป็นสถิติการแห่ศีลมหาสนิทที่มีผู้ร่วมมากที่สุด
คุณพ่อขวัญ
ถิ่นวัลย์
สำนักมิสซังฯ
สกลนคร
3 กุมภาพันธ์ 2016
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น