วันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

กษัตริย์แห่งสากลจักรวาล



กษัตริย์แห่งสากลจักรวาล
วันอาทิตย์
สมโภชพระเยซูเจ้า กษัตริย์แห่งสากลจักรวาล
ปี C
2ซมอ 5:1-3
คส 1:12-20
ลก 23:35-43
บทนำ
 มีเรื่องเล่าว่า ทหารอเมริกันคนหนึ่งขณะกำลังนั่งรถโดยสารประจำทางในประเทศสวีเดน ได้บอกกับชายที่นั่งถัดจากเขาว่า “สหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่เป็นประชาธิปไตยมากที่สุดในโลก เนื่องจากที่อเมริกาประชาชนทั่วไปสามารถไปพบประธานาธิบดีที่ทำเนียบขาวได้ และสามารถพูดจาถกเถียงกับประธานาธิบดีได้ทุกเรื่อง” ชายที่นั่งติดกันกับเขาพูดขึ้นบ้างว่า “นั่นถือเป็นเรื่องธรรมดามาก ในประเทศสวีเดนกษัตริย์และประชาชนเดินทางไปไหนมาไหนด้วยรถประจำทางคันเดียวกัน”  
เมื่อทหารอเมริกันคนนั้นลงจากรถโดยสาร คนขับรถได้บอกให้เขาทราบว่า ชายที่นั่งติดกับเขาและพูดกับเขาคือ กษัตริย์กุสตาฟ อด๊อฟ ที่ 6 (Gustaf VI Adolf: 1882-1973) แห่งสวีเดน ปัจจุบันระบอบกษัตริย์ในยุโรปได้ลดบทบาทลงเป็นแต่เพียงสัญลักษณ์ ไม่ได้มีอำนาจปกครองแบบเบ็ดเสร็จเหมือนเช่นอดีต นับเป็นความโชคดีของประเทศไทย ที่สถาบันกษัตริย์ยังคงเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนในชาติ ทำให้เราคริสตชนไทยเข้าใจความเป็นกษัตริย์ของพระเยซูเจ้าได้ดียิ่งขึ้น
แม้ว่าพระคัมภีร์จะกล่าวถึงความเป็นกษัตริย์ของพระเยซูเจ้าอย่างชัดแจ้ง เช่น การสืบเชื้อสายจากกษัตริย์ดาวิด การที่โหราจารย์จากทิศตะวันออกเดินทางมานมัสการกษัตริย์ชาวยิวที่เพิ่งประสูติ หรือคำตอบที่พระองค์ให้กับปีลาโตเมื่อถูกถามว่า “ท่านเป็นกษัตริย์หรือ” แต่ต้องรอถึงปี ค.ศ. 1925 พระศาสนจักรจึงได้กำหนดให้มีวันฉลองการเป็นกษัตริย์ของพระเยซูเจ้า โดยพระสันตะปาปา ปีอุสที่ 11 ทั้งนี้เพื่อเป็นคำตอบสำหรับประชาชนที่อยู่ภายใต้ปกครองของบรรดากษัตริย์ในต้นศตวรรษที่ 20 

1.         กษัตริย์แห่งสากลจักรวาล
การเป็นกษัตริย์ของพระเยซูเจ้าแตกต่างจากบรรดากษัตริย์ทั้งหลาย พระองค์ไม่มีข้าทาสบริวาร ไม่มีวังที่ประทับ ไม่มีคทาที่แสดงถึงการเป็นกษัตริย์ ในทางกลับกัน พระองค์มีมงกุฎหนามสวมพระเศียร ร่างกายเปลือยเปล่า พระพักตร์ชุ่มไปด้วยเลือด พระองค์ถูกทิ้งให้อยู่โดยลำพัง ขณะที่คนที่เคยติดตามพระองค์ต่างหนีเอาตัวรอด พระองค์ถูกสบประมาทและเยาะเย้ยจากผู้นำชาวยิวและทหาร
ความเป็นกษัตริย์ของพระเยซูเจ้า ได้เผยแสดงให้เห็นอย่างเด่นชัดเวลาที่พระองค์ถูกตรึงบนไม้กางเขน นี่คือ ฉากสำคัญที่นักบุญลูกาได้แสดงถึงความเป็นกษัตริย์ของพระองค์ในพระวรสารวันนี้ บนไม้กางเขนเหนือศีรษะพระองค์มีข้อความเขียนเป็นภาษากรีก ลาตินและฮีบรูว่า “ผู้นี้คือกษัตริย์ของชาวยิว” พระองค์ทรงครองราชย์ ณ เชิงเขากัลวารีโอ โดยมีผู้ร้ายสองคนเป็นพยาน (ตามกฎของโมเสส) ผู้ร้ายคนหนึ่งได้พูดจาดูหมิ่นพระองค์ แต่อีกคนหนึ่งคัดค้าน “สำหรับเราก็ยุติธรรมแล้ว... แต่ท่านผู้นี้ไม่ได้ทำผิดเลย”
พระเยซูเจ้าทรงปกครองจากไม้กางเขน ขณะที่พระองค์กำลังสิ้นพระชนม์บนกางเขน พระองค์ทรงอภัยบาปผู้ร้ายคนหนึ่งที่ถูกตรึงพร้อมกับพระองค์ ทรงสัญญาจะประทานความรอดให้เขา “วันนี้ ท่านจะอยู่กับเราในสวรรค์” อีกทั้งยังทรงวอนขอพระบิดาให้อภัยคนที่ประหารพระองค์ “พระบิดาเจ้าข้า โปรดอภัยความผิดแก่เขาเถิด เพราะเขาไม่รู้ว่ากำลังทำอะไรลงไป” (ลก 23:33) อาณาจักรของพระองค์จึงเป็นอาณาจักรแห่งความรัก การรับใช้ และการให้อภัย อำนาจปกครองที่พระองค์มีคือ ความรักที่พร้อมจะให้อภัยเสมอ (Forgiving love)

2 บทเรียนสำหรับเรา
พระวาจาของพระเจ้าในวันนี้ได้ให้บทเรียนที่สำคัญสำหรับเราหลายประการ ในการนำไปปฏิบัติในชีวิตประจำวัน
ประการแรก เราต้องดำเนินชีวิตตามหลักคำสอนของพระคริสตเจ้า กษัตริย์ผู้ไม่จดจำความผิดหรือแก้แค้นใคร แต่ให้อภัยเสมอ ดังคำกล่าวของอเล็กซานเดอร์ โป๊ป (Alexander Pope: 1688-1744) นักประพันธ์ชาวอังกฤษที่ว่า “ผิดพลาดคือมนุษย์ อภัยไม่สิ้นสุดคือพระเจ้า” เราต้องปฏิบัติตามพระประสงค์ของพระองค์ ในการแบ่งปันความรักที่ให้อภัยนี้กับเพื่อนพี่น้องที่อยู่รอบข้าง อีกทั้ง ตระหนักถึงการประทับอยู่ของพระองค์ในบุคคลต่างๆ ที่เราพบเห็น
ประการที่สอง เราต้องต่อสู้กับศัตรูของอาณาจักรพระคริสตเจ้า อาทิ ความเกลียดชัง การแตกแยก ความรุนแรง และการก่อการร้าย ซึ่งส่งผลกระทบต่อโลกและอาณาจักรของพระคริสตเจ้าในโลกนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สิ่งยั่วยุจากรายการโทรทัศน์ ภาพยนตร์ ดนตรีและสื่อลามก ที่ทำลายครอบครัว สังคมและศีลธรรมอันดีงาม เช่น การทำแท้ง การกระทำชำเราเด็ก เราต้องต่อสู้กับศัตรูเหล่านี้ผ่านทางการภาวนาและการรับใช้ด้วยความรักที่ถ่อมตน
ประการที่สาม เราต้องสำนึกผิดและกลับใจ เช่นเดียวกับผู้ร้ายคนหนึ่งที่ถูกตรึงกางเขนพร้อมกับพระเยซูเจ้า “สำหรับเราก็ยุติธรรมแล้ว... แต่ท่านผู้นี้ไม่ได้ทำผิดเลย” และพระเยซูเจ้าทรงให้คำมั่นสัญญากับเขาว่า “วันนี้ท่านจะอยู่กับเราในสวรรค์” ทำให้เขามีส่วนในตำแหน่งกษัตริย์และเข้าอยู่ในอาณาจักรของพระองค์ ซึ่งเป็นอาณาจักรแห่งความรัก การรับใช้และการให้อภัย

บทสรุป
พี่น้องที่รัก กษัตริย์ในบริบทของชาวยิว ต้องเป็นทั้งผู้เลี้ยงแกะและผู้ปกครอง และพระเยซูเจ้าได้ทรงสืบทอดเจตนารมณ์นี้ ทรงยืนยันความเป็นกษัตริย์ของพระองค์บนไม้กางเขน ทรงเป็นกษัตริย์ที่รักโดยไม่มีเงื่อนไข รักแม้กระทั่งศัตรู ทรงเป็นกษัตริย์ที่รับใช้และมอบชีวิตเพื่อคนอื่น มิใช่ให้คนอื่นรับใช้ และทรงเป็นกษัตริย์ที่ให้อภัยเสมอ ให้อภัยแม้คนที่ประหารพระองค์ อาณาจักรของพระองค์จึงเป็นอาณาจักรแห่งความรัก การรับใช้ และการให้อภัย
พระเยซูเจ้าทรงเป็นกษัตริย์ของเราทุกคน ที่จะเสด็จมาอย่างรุ่งโรจน์ในวาระสุดท้าย ทุกครั้งและทุกแห่งที่เราทำตามพระประสงค์ของพระองค์ ในการรัก รับใช้ และให้อภัยซึ่งกันและกัน อาณาจักรของพระองค์อยู่ที่นั่น และที่ไหนที่พระเจ้าทรงปกครอง ที่นั่นจะมีแต่ความยุติธรรม สันติภาพ และความสุ ดังนั้น ขอให้เราได้ดำเนินชีวิตเป็นพลเมืองที่ดีในอาณาจักรของพระองค์ ในความรัก การรับใช้ และการให้อภัยซึ่งกันและกันด้วยใจกว้าง เป็นต้น ในครอบครัว ที่ทำงาน หมู่คณะและในหมู่บ้านของเรา
คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
danielkhuan@hotmail.com
โรงเรียนเซนต์ยอแซฟกุฉินารายณ์
22 พฤศจิกายน 2013

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น