วันเสาร์ที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2555

การเสด็จเข้ากรุงเยรูซาเล็ม


การเสด็จเข้ากรุงเยรูซาเล็ม

อาทิตย์มหาทรมาน
แห่ใบลาน
ปี B
อสย 50: 4-7
ฟป 2: 6-11
มก 11: 1-10; 14: 1-15:47

บทนำ

มีเรื่องเล่าว่าระหว่างต้นศตวรรษที่แล้ว พระสังฆราชแห่งปารีสได้เล่าเรื่องหนุ่มคนหนึ่งที่ชอบมายืนอยู่หน้าอาสนวิหาร (Notre Dame) แห่งกรุงปารีส ตระโกนด่าแช่งและเยาะเย้ยคนที่มาเข้าวัด หลายคนได้เพิกเฉยไม่สนใจเขา วันหนึ่งคุณพ่อเจ้าอาวาสเห็นว่าเขาทำเกินไป จึงออกไปพบเขาเพื่อว่ากล่าวตักเตือน ซึ่งเขายังคงดื้อดึงไม่ยอมฟัง

ที่สุด คุณพ่อเจ้าอาวาสได้ท้าทายเขาว่า หากเขาแน่จริงกล้าเข้าไปในวัด จ้องมองพระรูปพระเยซูเจ้าและพูดกับพระองค์ว่า พระเยซูเจ้าสิ้นพระชนม์บนกางเขนเพื่อผม และผมไม่รู้สึกรู้สาอะไรแม้แต่น้อยไหม” เด็กหนุ่มคนนั้นรับคำท้า เขาเข้าไปในวัด ยืนต่อหน้าพระรูปพระเยซูเจ้าและพูดว่า พระเยซูเจ้าสิ้นพระชนม์บนกางเขนเพื่อผม และผมไม่รู้สึกรู้สาอะไรแม้แต่น้อย” คุณพ่อเจ้าอาวาสพูดว่า “ดีมากลูก ลองพูดย้ำคำนี้อีกครั้งซิ”

 หนุ่มคนนั้นพูดอีกครั้งว่า พระเยซูเจ้าสิ้นพระชนม์บนกางเขนเพื่อผม และผมไม่รู้สึกรู้สาอะไรแม้แต่น้อย” คุณพ่อพูดต่อไปว่า “เธอทำได้ ไหนลองพูดอีกครั้งหนึ่งซิ” เด็กหนุ่มคนนั้นจ้องมองพระรูปพระเยซูเจ้าและพยายามจะพูดประโยคเดิมอีกครั้งแต่พูดไม่ได้ เขาได้แต่ยืนนิ่ง จ้องมองรูปปั้นนั้น และพระสังฆราชได้กล่าวในตอนท้ายว่า “เด็กหนุ่มที่พูดจาสามหาวลบหลู่พระเจ้าในวันนั้นคือพ่อนี่เอง พ่อคิดว่าตนเองไม่ต้องการพระเจ้า แต่ในความเป็นจริงพ่อไม่อาจปฏิเสธพระองค์ได้”

วันนี้เป็นวันอาทิตย์ใบลานหรืออาทิตย์มหาทรมาน นั่นหมายความว่าเรากำลังเข้าสู่สัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เราจะมองดูกางเขนของพระเยซูเจ้าครั้งแล้วครั้งเล่า ในพิธีกรรมของสัปดาห์นี้เน้นความสำคัญที่ความรอดของเรา ขอให้ตลอดสัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์นี้ได้นำเราให้ตระหนักว่า พระคริสตเจ้าได้สิ้นพระชนม์บนกางเขนเพื่อเราแต่ละคน และยังคงทนทรมานเพื่อเราต่อไปขณะที่พระองค์ทรงประทับอยู่กับเรา เพื่อนำเราให้ตระหนักถึงการกลับคืนชีพแห่งปัสกาที่กำลังจะมาถึง

1.           การเสด็จเข้ากรุงเยรูซาเล็ม

พิธีกรรมในวันนี้ได้แสดงภาพแห่งชัยชนะเพื่อเตรียมเราสำหรับพระมหาทรมาน การสิ้นพระชนม์และการกลับคืนชีพของพระเยซูเจ้า ซึ่งเปิดเผยให้เราได้ทราบถึงความรักที่ล้นเหลือของพระเจ้าสำหรับเราแต่ละคน ดังนั้น พิธีกรรมในวันนี้จึงประกอบด้วยความชื่นชมยินดีและโศกนาฏกรรม เราเริ่มต้นด้วยชัยชนะของพระคริสตเจ้าผู้เป็นกษัตริย์ ด้วยการเสกใบลานและแห่ใบลานด้วยความชื่นชมยินดี และเราได้ฟังเรื่องราวพระมหาทรมาน พระเยซูเจ้าที่เพิ่งได้รับการต้อนรับเยี่ยงกษัตริย์ทรงถูกเฆี่ยนตี สบประมาท สวมมงกุฎหนามและถูกตรึงบนกางเขน

ในการเสด็จเข้ากรุงเยรูซาเล็มที่เราระลึกถึงในพิธีกรรมวันนี้ เราพบความจริงว่า พระเยซูเจ้าเสด็จเข้ากรุงเยรูซาเล็มในฐานะกษัตริย์ พระแมสิยาห์และลูกแกะของพระเจ้า

ในฐานะกษัตริย์: การประทับบนหลังลาที่มีผ้าปูหลัง และบรรดาประชาชนต้อนรับพระองค์ด้วยกิ่งปาล์มและกิ่งไม้ คือการเสด็จเข้ากรุงเยรูซาเล็มในฐานะกษัตริย์ของพระเยซูเจ้า (1 มคบ 13:51) เพราะลาเป็นสัญลักษณ์แห่งสันติภาพและความสุภาพ ปกติกษัตริย์จะทรงม้านำทหารสู้ศึกสงคราม แต่เมื่อได้รับชัยชนะ นำความสงบสุขสู่บ้านเมืองจะประทับบนหลังลาเข้าเมืองอย่างผู้มีชัย แต่พระองค์มิใช่กษัตริย์ที่มาปลดปล่อยพวกเขาจากการกดขี่ทางการเมือง ทรงเป็นองค์สันติราชา

ในฐานะพระแมสิยาห์: ตามประเพณีโบราณสัตว์ที่จะใช้ในพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์จะต้องไม่ใช่สัตว์ที่ไม่มีตำหนิ (กดว 19:2; ฉธบ 21:3; 1 ซมอ 6:7) พระเยซูเจ้าทรงสั่งให้สาวกไปนำลาที่ไม่เคยใช้งานมาก่อน และลาตามคำกล่าวของประกาศกเศคาริยาห์เป็นสัตว์แห่งพระแมสิยาห์ (ศคย 9:9) ดังนั้น เมื่อพระเยซูเจ้าประทับบนหลังลาเข้าสู่กรุงเยรูซาเล็ม จึงเป็นสัญลักษณ์เพื่อบอกประชาชนว่า พระองค์ทรงเป็นพระแมสิยาห์

ในฐานะลูกแกะพระเจ้า: พระเยซูเจ้าเสด็จเข้ากรุงเยรูซาเล็มในเทศกาลปัสกา ทรงเป็นลูกแกะปัสกาที่ถูกประหารบนเขากัลวารีโอ ดังทียอห์นบัปติสต์ชี้บอกศิษย์ว่า “นี่คือลูกแกะของพระเจ้า ผู้ทรงลบล้างบาปของโลก” (ยน 1:29) พระองค์ทรงมอบชีวิตของพระองค์เหมือนดังลูกแกะ ที่ถูกประหารอย่างอยุติธรรมและไร้ความผิดเพื่อเห็นแก่เราผู้เป็นคนบาป การสิ้นพระชนม์และพระโลหิตของพระองค์ที่หลั่งออกเพื่อบาปของเรา ช่วยเราให้เราพ้นจากความผิดต่อหน้าพระเจ้า

พระมหาทรมานที่เราได้ยินในวันนี้บอกเราว่า พระเยซูเจ้าทรงเจ็บปวดทางด้านร่างกาย อันเนื่องมาจากการทรมานอย่างทารุณไร้มนุษยธรรม ทรงเจ็บปวดด้านจิตวิทยา อันเนื่องมาจากการถูกศิษย์ทรยศ และทรงเจ็บปวดด้านจิตใจ อันเนื่องมาจากการถูกทอดทิ้ง บรรดาสาวกได้ทิ้งพระองค์หนีไป แม้กระทั่งจากพระบิดา “ข้าแต่พระเจ้า ข้าแต่พระเจ้า ทำไมพระองค์จึงทรงทอดทิ้งข้าพเจ้าเล่า” (มก 15:34) คงไม่มีความทุกข์ใดยิ่งใหญ่ไปกว่าการที่ใครคนหนึ่งรู้สึกว่า ตนเองถูกทอดทิ้งจากบุคคลอันเป็นที่รัก

2.           บทเรียนสำหรับเรา

พระมหาทรมานของพระเยซูเจ้า คือที่มาแห่งความรอดพ้นของมนุษยชาติ อีกทั้ง ได้ให้บทเรียนที่สำคัญแก่เราคริสตชนด้วยชีวิตและแบบอย่างของพระองค์

ประการแรก พระทรมานของพระองค์คือเครื่องหมายแห่งความรักที่แท้จริงสำหรับมนุษยชาติ พระองค์ทรงรักและมอบชีวิตของพระองค์บนกางเขนเพื่อเราทุกคน ไม่มีใครมีความรักยิ่งใหญ่กว่าการสละชีวิตของตนเพื่อมิตรสหาย (ยน 15:13) ให้เราดำเนินชีวิตในความรักตามมาตรฐานเดียวกันกับพระองค์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในความรักต่อเพื่อนพี่น้อง ให้ท่านทั้งหลายรักกันเหมือนดังที่เราได้รักท่าน(ยน 15:12)

ประการที่สอง ให้เราได้ต้อนรับพระเยซูเจ้าเข้ามาในดวงใจของเรา วันนี้เราได้รับใบลานที่ได้รับการเสก ให้เราได้นำกลับไปบ้านวางไว้ในที่ที่เหมาะสม ใบลานนี้เตือนใจเราว่าพระคริสต์เจ้าทรงเป็นกษัตริย์แห่งครอบครัวและดวงใจของเรา เราต้องพร้อมที่จะมอบชีวิตของเราแด่พระเยซูเจ้าตลอดสัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์นี้ ให้เวลาสำหรับพระองค์มากขึ้นในการภาวนา การอ่านพระคัมภีร์ การแบ่งปันสิ่งที่เรามีกับผู้อื่น

ประการที่สาม ให้เราได้ติดตามและเลียนแบบพระเยซูเจ้า ผู้รับใช้ที่สุภาพของพระเจ้า เราถูกเรียกให้เป็นให้ติดตามและเลียนแบบพระเยซูเจ้า เราต้องพร้อมที่จะยอมรับทุกสถานการณ์ทั้งการต้อนรับ การต่อต้าน การทรมานและกางเขนเหมือนพระเยซูเจ้า ประการสำคัญ ในการเป็นผู้ติดตามพระเยซูเจ้า ไม่มีหนทางอื่นนอกจากหนทางแห่งไม้กางเขน ชีวิตของเราต้องช่วยให้คนอื่นได้เห็นถึงความรักอันยิ่งใหญ่ การให้อภัยที่ไม่มีเงื่อนไข และการอุทิศตนรับใช้ของพระเยซูเจ้า

บทสรุป

พี่น้องที่รัก พระวาจาวันนี้ได้เน้นให้เห็นว่า ความทุกข์ทรมานมีความหมายพิเศษสำหรับชีวิตคริสตชน พระเยซูเจ้าทรงประทับอยู่กับผู้ที่กำลังทนทุกข์เสมอ พวกเขาไม่ได้เผชิญความลำบากตามลำพัง ความรักในพระคริสตเจ้าเป็นพลังที่ทำให้เราสามารถสู้ทนความยากลำบากต่างๆ ในชีวิตได้ และถือเป็นการมีส่วนในงานไถ่กู้มนุษยชาติ ผ่านทางการทรมานและความตายพร้อมกับพระองค์เท่านั้น เราถึงจะได้รับชีวิตนิรันดร

ประการสำคัญ เมื่อเราต้องเผชิญกับความยากลำบากหรือความทุกข์ทรมานใดๆ ในชีวิต เราควรหันมาหาพระเยซูเจ้า เพื่อเราจะได้รับความบรรเทาและความช่วยเหลือ เหนือสิ่งอื่นใด ให้เราการเลียนแบบอย่างของพระองค์ในความรักและการให้อภัยไม่สิ้นสุด อีกทั้ง พระมหาทรมานของพระองค์ควรเตือนใจเราให้สำนึกในบาปที่เรากระทำ และกลับมาหาพระองค์ผ่านทางศีลอภัยบาป เพื่อเราจะได้รับการช่วยให้รอด

คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
danielkhuan@hotmail.com

วัดพระคริสตประจักษ์ นาบัว

29 มีนาคม 2012

ดู  พระมหาทรมานของพระเยซูเจ้า ปี A ได้ตามลิงค์นี้ http://dondaniele.blogspot.com/2011/04/blog-post_16.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น