วันอาทิตย์ที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2554

งานเมตตาจิต

วันจันทร์ สัปดาห์ที่ 1 เทศกาลมหาพรต
ลนต 19:1-2, 11-18
มธ 25:31-46

 งานเมตตาจิต

นับจากวันพุธรับเถ้าเรื่อยมาเราได้เข้าสู่เทศกาลมหาพรต ซึ่งเป็นช่วงเวลาพิเศษที่เตือนใจเราให้จำศีลอดอาหาร ภาวนาพลีกรรม และทำบุญให้ทาน ดังนั้น เพียงแค่การใส่เงินในถุงทานมหาพรต หรือใส่เงินในตู้ทานของวัดเพื่อคนยากจนหรืองานแพร่ธรรมจึงไม่เป็นการเพียงพอ เพราะเงินไม่สามารถทดแทนความรัก ความเห็นอกเห็นใจ และความสัมพันธ์แบบบุคคลต่อบุคคลได้ งานเมตตาจิตต่างหากที่จะช่วยเราให้สามารถสัมผัสถึงความรักที่แท้จริงของพระเจ้าได้

ในบทอ่านแรก หนังสือเลวีนิติได้แสดงให้เห็นธรรมบัญญัติในพันธสัญญาเก่า ที่บอกเราถึงสิ่งที่ควรปฏิบัติหรือไม่ควรปฏิบัติต่อพระเจ้าและต่อผู้อื่น เป็นที่น่าสังเกตว่าหนังสือเลวีนิติเน้นถึงลักษณะภายนอกที่เป็นแง่ลบของบัญญัติสิบประการ ในทางกลับกัน พระวรสารโดยนักบุญมัทธิวได้แสดงให้เห็นถึงกิจการแห่งความเมตตา ซึ่งเป็นด้านบวกของชีวิตและได้กลายเป็นบัญญัติใหม่ สำหรับผู้ที่ประสงค์จะติดตามพระเยซูเจ้า

พระวรสารวันนี้ได้พูดถึงฉากของการพิพากษาในวาระสุดท้าย ฉากของเรื่องได้แสดงให้เห็นว่า ความรอดนิรันดรไม่ได้วัดจากการดำเนินชีวิตตามบัญญัติทั้งสิบประการอย่างเคร่งครัดเท่านั้น แต่พิจารณาจากความเอาใจใส่ในงานเมตตาจิตที่เราปฏิบัติต่อพี่น้องที่ต่ำต้อยในหมู่พวกเรา พรเยซูเจ้าได้แสดงให้เห็นว่า หนทางที่เที่ยงตรงและแน่นอนที่สุดสำหรับความรอดนิรันดร ขึ้นอยู่กับการปฏิบัติกิจเมตตาต่อพี่น้องที่ต่ำต้อยเหล่านี้

พระเยซูเจ้าได้ไปไกลกว่า “ข้อห้าม” ในหลังสือเลวีนิติ พระองค์ได้ตรัสกับเราเกี่ยวกับด้านบวกของการมีส่วนร่วมในความดีของพระเจ้า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในการปฏิบัติต่อพี่น้องที่ตำต้อยหรือบุคคลที่อยู่ชายขอบทั้งหลาย ที่ถูกทอดทิ้ง ไร้สิทธิ์ ไร้เสียงในสังคม เราคริสตชนถือว่าบุคคลเหล่านี้คือพระเยซูเจ้าเองที่ประทับอยู่ท่ามกลางเราที่กำลังรอคอยความช่วยเหลือจากเรา “เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า ท่านทำสิ่งใดต่อพี่น้องผู้ต่ำต้อยที่สุดของเราคนหนึ่ง ท่านก็ทำสิ่งนั้นต่อเรา” (มธ 25:40)

เป้าหมายของชีวิตคริสตชนคือการเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์ เราจะสามารถพบ “ความศักดิ์สิทธิ์” นี้ได้ก็แต่ในความสัมพันธ์ที่เรามีต่อพระเจ้าในเพื่อนพี่น้อง หลักเกณฑ์ที่เป็นรูปธรรมที่พระเยซูเจ้าตรัสถึงคือ การให้น้ำ ให้อาหาร ให้เสื้อผ้า ให้การเยี่ยมเยียน ให้การต้อนรับ และให้ที่อยู่อาศัยแก่ผู้ที่กำลังเดือดร้อนหรือต้องการสิ่งเหล่านี้ คือเครื่องหมายแห่งความรักแท้จริงที่เราแสดงออกต่อผู้อื่น คุณแม่เทเรซากล่าวว่า “ไม่ใช่จำนวนครั้งที่เราทำ แต่ปริมาณความรักที่เราใส่ลงไปในกิจการที่ทำต่างหากที่จะได้รับการคำนวณ

ดังนั้น เพื่อจะได้มีความศักดิ์สิทธิ์เช่นเดียวกับพระเจ้า เราต้องรู้จักแบ่งปันสิ่งที่เรามีแก่ผู้อื่น และประกอบกิจเมตตากับทุกคนด้วยใจกว้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปฏิบัติต่อคนที่ต่ำต้อยด้วยความรัก มองเห็นองค์พระเยซูเจ้าในตัวบุคคลเหล่านี้ เช่นนี้เอง เราก็จะสามารถบรรลุถึงความศักดิ์สิทธิ์ และความรอดนิรันดรที่พระเจ้าทรงเตรียมไว้สำหรับเราทุกคน

คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
วัดนักบุญยอแซฟ ดอนทอย
22 กุมภาพันธ์ 2010

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น