วันเสาร์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568

การเตรียมรับการเสด็จมาของพระคริสตเจ้า

 

การเตรียมรับการเสด็จมาของพระคริสตเจ้า

อาทิตย์

สัปดาห์ที่ 1 เทศกาลเตรียมรับเสด็จฯ

ปี A

อสย 2:1-5

รม 13:11-14

มธ 24:37-44

บทนำ

จอห์น เอฟ เคนเนดี้ (John F. Kennedy) ได้เล่าเรื่องที่มีความหมายมากเรื่องหนึ่ง ในการปราศรัยรณรงค์หาเสียงเป็นประธานาธิบดีในปี ค.ศ. 1960 เป็นเรื่องเกี่ยวกับผู้พันดาเวนพอร์ท (Colonel Davenport) โฆษกสมาชิกสภารัฐคอนเนกติกัทซึ่งเกิดขึ้นระหว่างการประชุมสภาในปี ค.ศ. 1789 ขณะที่กำลังประชุมกันอยู่นั้น ได้เกิดท้องฟ้ามืดมัวแบบไม่เคยเป็นมาก่อน สมาชิกสภาบางคนมองผ่านหน้าต่างและคิดว่า นี่คือเครื่องหมายว่า วาระสุดท้ายของโลกได้มาถึงแล้ว

เหตุการณ์วันนั้น ทำให้บรรดาสมาชิกสภาร้องเอ็ดอึงลั่นห้องประชุมขอให้เลื่อนการประชุมออกไป แต่ผู้พันดาเวนพอร์ทยืนขึ้นและกล่าวว่า “ท่านสมาชิกผู้ทรงเกียรติ วันพิพากษากำลังจะมาถึงหรือไม่ ไม่มีใครทราบ หากยังมาไม่ถึงก็ไม่มีเหตุผลที่พวกเราจะเลื่อนการประชุมออกไป แต่ถ้ามาถึงแล้ว ข้าพเจ้าขอเลือกที่จะตายในหน้าที่ ดังนั้น ข้าพเจ้าขอให้จุดเทียนเพื่อจะได้ประชุมต่อ” ได้มีการนำเทียนมาจุดและเริ่มการประชุมต่อไป

เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า เป็นการเตรียมฉลองการบังเกิดมาของพระคริสตเจ้า และเป็นการเตรียมต้อนรับการเสด็จมาครั้งที่สองของพระองค์ เราอยู่ระหว่างการเสด็จมาครั้งแรกที่เบธเลแฮม กับการเสด็จมาครั้งที่สองในวาระสุดท้ายเพื่อทรงพิพากษาทุกคน เทศกาลเตรียมรับเสด็จฯ จึงเป็นช่วงเวลาที่เราจะได้ไตร่ตรองถึงการเสด็จมาของพระคริสตเจ้า ด้วยการเชิญเสด็จพระองค์เข้ามาในจิตใจของเรา และตระหนักถึงการประทับอยู่ของพระองค์ในตัวเราและเพื่อนมนุษย์เสมอ

1.        การเตรียมรับการเสด็จมาของพระคริสตเจ้า

พระวรสารวันนี้พูดถึงการเสด็จมาของพระเยซูเจ้าในวาระสุดท้ายของโลก เราจะเตรียมตัวรับสถานการณ์นี้อย่างไร ในโลกปัจจุบันมีคนสองกลุ่มที่มีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการเสด็จมาของพระเยซูเจ้า กลุ่มหนึ่งเตรียมตัวด้วยความวิตกทุกข์ร้อนหวาดระแวง ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งไม่สนใจว่าอะไรจะเกิดขึ้น พระวรสารบอกอะไรเราเกี่ยวกับวาระสุดท้ายของโลก และเราจะต้องเตรียมตัวเผชิญกับเหตุการณ์นี้อย่างไร

พระเยซูเจ้าทรงใช้ภาพพจน์สองอย่างเพื่ออธิบายถึงการเสด็จมาครั้งที่สองของพระองค์ ซึ่งไม่มีใครทราบว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ เวลาใด อย่างแรกคือน้ำวินาศที่กวาดผู้คนที่กำลังกินดื่มสนุกสนานในสมัยของโนอาห์จนหมดสิ้น อีกภาพพจน์หนึ่งคือขโมยที่มาในเวลากลางคืนที่เจ้าของบ้านไม่ได้เฝ้าระวัง การเสด็จมาครั้งที่สองและวาระสุดท้ายของโลกอย่างที่พระเยซูเจ้าบอกเราในพระวรสาร จะเกิดขึ้นโดยทันทีแบบไม่มีใครคาดฝัน ไม่มีการบอกกล่าวให้ทราบล่วงหน้า ดังนั้นเราจึงต้องตื่นเฝ้าและเตรียมตัวให้พร้อมอยู่เสมอ

ชีวิตคริสตชนเป็นชีวิตที่ต้องตื่นเฝ้าอยู่เสมอ ด้วยการทำหน้าที่ของตนที่ได้รับมอบหมายให้ดีที่สุด ที่พร้อมจะตายในหน้าที่ประจำวันที่กำลังทำอยู่ ไม่ตื่นตระหนกไปกับปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น การตื่นเฝ้ายังหมายถึงการเรียนรู้เครื่องหมายแห่งกาลเวลา เพื่อจะได้เข้าใจถึงความหมายที่พระเจ้าทรงต้องการบอกให้เราทราบ และรับผิดชอบต่อหน้าที่ประจำวันจนถึงที่สุด ดังนั้น การตื่นเฝ้าจึงเป็นการเจริญชีวิตแห่งการรับใช้พระเจ้าด้วยความวางใจ ด้วยการปฏิบัติตามบทบัญญัติและดำรงตนในฐานะพระหรรษทาน เหมือนผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์ที่ปฏิบัติตามคำสั่งของนาย

2.        บทเรียนสำหรับเรา

พระวาจาของพระเจ้าวันนี้ได้ให้บทเรียนสำคัญสำหรับเราคริสตชนหลายประการ ในการนำไปปฏิบัติในชีวิตประจำวัน

ประการแรก เราต้องเตรียมรับการเสด็จมาของพระคริสตเจ้า โดยยอมให้พระองค์บังเกิดใหม่ในชีวิตของเราทุกวัน เทศกาลเตรียมรับเสด็จฯ เป็นช่วงเวลาที่เราจะเตรียมตัวต้อนรับพระองค์ด้วยการกลับใจใช้โทษบาป และฟื้นฟูชีวิตของเราด้วยการอธิษฐานภาวนา การกลับใจและแบ่งปันพระพรของเรากับผู้อื่น ดังคำกล่าวของอันเจลุส ซิเลเซียส นักพรตชาวเยอรมันที่ว่า “พระคริสตเจ้าอาจบังเกิดในเบธเลเฮมเป็นพันครั้ง แต่ทั้งหมดไร้ประโยชน์หากพระองค์มิได้บังเกิดในใจเรา”

ประการที่สอง เราต้องตื่นเฝ้าและเตรียมพร้อมอยู่เสมอ มีแต่พระเจ้าเท่านั้นที่ทราบถึงวาระสุดท้ายของโลกและการเสด็จมาอีกครั้งหนึ่งของพระเยซูเจ้า ชีวิตของเราต้องตื่นเฝ้าและเตรียมพร้อมอยู่เสมอ นี่คือหน้าที่ที่เราต้องทำ เทศกาลเตรียมรับเสด็จฯ จึงท้าทายเราด้วยคำถามที่สำคัญสามข้อ : 1) เราจะทำอะไรขณะนี้, 2) เราควรจะทำอะไรเวลานี้ และ 3) เราจะเริ่มทำอะไรบ้างตอนนี้ นักบุญเทเรซาแห่งกัลกัตตากล่าวว่า “สิ่งที่ท่านทำในครอบครัวของท่าน เพื่อลูก เพื่อสามี เพื่อภรรยา จงทำเพื่อพระเยซูเจ้า”

ประการที่สาม เราต้องเตรียมต้อนรับพระคริสตเจ้าอยู่เสมอ พระองค์เสด็จมาหาเราทุกวันในพิธีบูชาขอบพระคุณและในเพื่อนมนุษย์ที่เราพบในแต่ละวัน เป็นต้นในคนยากจนและคนต้องการความช่วยเหลือ คริสตชนต้องเตรียมรับเสด็จ ด้วยการเปิดใจเราต้อนรับพระองค์ กลับใจเปลี่ยนแปลงตนเอง และสร้างความสัมพันธ์อันดีกับเพื่อนมนุษย์ เวลาใดก็ตามที่เราทำหน้าที่ของเราเพื่อพระองค์ พระองค์จะเสด็จมาหาเรา และเวลาใดก็ตามที่เราอธิษฐานภาวนาร่วมกันในนามของพระองค์ พระองค์จะประทับอยู่ท่ามกลางเรา

บทสรุป

พี่น้องที่รัก บ่อยครั้งเทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า กลายเป็นช่วงเวลาแห่งการจับจ่ายซื้อของขวัญเพื่อมอบแก่กัน ของขวัญคริสต์มาสที่แท้จริงมีเพียงอย่างเดียวคือ องค์พระเยซูเจ้า ผู้ทรงเป็นของประทานจากพระบิดาเจ้าที่ทรงมอบแก่เรา เทศกาลเตรียมรับเสด็จฯ จึงเป็นช่วงเวลาของรื้อฟื้นและสร้างความสัมพันธ์อันลึกซึ้งกับพระเจ้า เป็นช่วงเวลาแห่งความเพียรทนในการอธิษฐานภาวนาด้วยความเชื่อวางใจ และเปิดใจเราต้อนรับพระองค์ในเพื่อนมนุษย์ เป็นต้นในคนยากจนและต้องการความช่วยเหลือ

พระเยซูเจ้าทรงเป็นแสงสว่างของโลก ดังนั้น เทศกาลเตรียมรับเสด็จฯ จึงเป็นช่วงเวลาของการเดินออกจากความมืดเพื่อเดินในแสวงสว่างของพระองค์ ซึ่งพระศาสนจักรกระตุ้นเตือนเราให้เริ่มต้นปีพิธีกรรมด้วยการเปลี่ยนแปลงตนเองเป็นเหมือนพระองค์ ศิษย์พระคริสต์ต้องเปลี่ยนแปลงตนเองและคิดถึงวาระสุดท้ายแห่งชีวิตของตน มุ่งหน้าไปหาพระเจ้าผู้กำลังเสด็จมาด้วยการทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด ทำให้พระองค์ปรากฏเป็นจริงในชีวิตประจำวัน ด้วยการถอดแบบความรักของพระองค์ต่อเพื่อนมนุษย์ ในครอบครัว หมู่คณะ และชุมชนวัดของเรา

คุณพ่อขวัญ  ถิ่นวัลย์

ID LINE : dondaniele

วัดนักบุญยอแซฟ ดอนทอย-หนองสนุก, สกลนคร

29 พฤศจิกายน 2025

ภาพ : เด็กคำสอนเตรียมดาวประดับ, วัดดอนทอย-หนองสนุก, สกลนคร; 2025-11-29

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น