วันเสาร์ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2568

การอธิฐานภาวนาโดยไม่ท้อถอย

 

การอธิฐานภาวนาโดยไม่ท้อถอย

อาทิตย์

สัปดาห์ที่ 29 เทศกาลธรรมดา

ปี C

อพย 17:8-13

2 ทธ 3:14; 4:2

ลก 18:1-8

บทนำ

วินสตัน เชอร์ชิลล์ (Winston Churchill) ต้องใช้เวลา 3 ปีในการเรียนเกรด 8 ในโรงเรียน เนื่องจากสอบไม่ผ่านวิชาภาษาอังกฤษ หลายปีต่อมาเขาได้รับเชิญให้ไปแสดงปาถกถาที่มหาวิทยาลัยอ๊อกฟอร์ด ในฐานะผู้ประสบผลสำเร็จทางการศึกษา สุนทรพจน์ของเขาในวันนั้นประกอบด้วยคำ 3 คำ ไม่ท้อถอย (Never give up) และนี่คือสารจากอุปมาเรื่องหญิงม่ายยากจนกับผู้พิพากษาอยุติธรรมในพระวรสารวันนี้

โอกาสวันแพร่ธรรมสากล สมเด็จพระสันตะปาปา เลโอที่ 14 ได้ประทานสารวันแพร่ธรรมในหัวเรื่อง “ธรรมทูตแห่งความหวังท่ามกลางประชาชนทุกหมู่เหล่า” เพื่อให้กำลังใจคริสตชนให้เป็นผู้ส่งสารและเป็นผู้สร้างความหวังในปีศักดิ์สิทธิ์ 2025 พระองค์ทรงร้องขอให้คริสตชนลุกโชนด้วยความกระตือรือร้นอันศักดิ์สิทธิ์เพื่อเปิดยุคใหม่แห่งการประกาศข่าวดี นำความหวังมาสู่โลกที่ถูกบดบังด้วยเงามืด และเป็นชุมชนแห่งความหวังโดยปล่อยให้พระจิตเจ้าทรงชี้นำการกระทำของพวกเขา

1.         การอธิฐานภาวนาโดยไม่ท้อถอย

พระเยซูเจ้าตรัสอุปมาเรื่องหญิงม่ายกับผู้พิพากษาอยุติธรรม เพื่อสอนว่า จำเป็นต้องอธิษฐานภาวนาอยู่เสมอโดยไม่ท้อถอย (ลก 18:1) พระเยซูเจ้าทรงนำเสนอเรื่องหญิงม่ายคนหนึ่ง ซึ่งต้องการให้คดีความของตนได้รับการพิจารณาจากผู้พิพากษา นางไปหาผู้พิพากษาครั้งแล้วครั้งเล่าแต่ได้รับการปฏิเสธทุกครั้ง ความเพียรพยายามของเธอทำให้ผู้พิพากษารู้สึกรำคาญ ยอมพิจารณาตัดสินคดีความให้ในที่สุด (เพื่อนางจะไม่มารบกวนให้รำคาญใจอีก)

สังคมชาวยิวโบราณถือว่า หญิงม่ายเป็นคนอ่อนแอที่สุด เป็นตัวแทนของคนยากจนไม่มีที่พึ่งและปกป้องตัวเองไม่ได้  พระเจ้าทรงเอาพระทัยใส่พวกนางเป็นพิเศษโดยตรัสว่า ท่านจะต้องไม่ข่มเหงหญิงม่ายหรือลูกกำพร้า... เราจะฟังเสียงร้องขอของเขาอย่างแน่นอน (อพย 22:22-23) หญิงม่ายที่ปรากฏในอุปมาถูกคนกลั่นแกล้งต่าง ๆ นานา จึงต้องมาร้องขอความยุติธรรมจากผู้พิพากษา

อุปมาเรื่องนี้ได้ชี้ให้เห็นความแตกต่างอย่างสุดขั้วระหว่างพระเจ้ากับผู้พิพากษาอธรรม :

ประการแรก ผู้พิพากษาเป็นคนโลภ รับสินบน บิดเบือนความจริง และหากินบนความทุกข์ของคนอื่น ส่วนพระเจ้าทรงเปี่ยมด้วยความรักและความเมตตากรุณาอย่างหาที่สุดมิได้ ทรงปฏิบัติต่อทุกคนอย่างยุติธรรมและเท่าเสมอกัน

ประการที่สอง ผู้พิพากษาไม่รู้จักหญิงม่ายยากจนคนนี้มาก่อน จึงไม่มีความผูกพันกัน ส่วนพระเจ้ารู้จักเราตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา ก่อนที่จะเกิดมาด้วยซ้ำ (เทียบ ยรม 1:4) พระองค์ไม่ทรงทอดทิ้งเราผู้เป็นบุตรของพระองค์ เมื่อผู้พิพากษาอธรรมยังยอมให้ความยุติธรรมแก่หญิงม่าย แล้วพระเจ้าผู้เป็นองค์ความดีบริบูรณ์ จะประทานยิ่งกว่านั้นสักเท่าใด (ดู ลก 11:5-8)

2.         บทเรียนสำหรับเรา

พระวาจาของพระเจ้าวันนี้ได้ให้บทเรียนสำคัญสำหรับเราหลายประการ ในการนำไปปฏิบัติในชีวิตประจำวัน

ประการแรก เราต้องอธิฐานภาวนาโดยไม่ท้อถอย การอธิฐานภาวนาเป็นเครื่องพิสูจน์ผู้อุทิศตนเพื่อพระเจ้า และเป็นอาวุธทรงพลานุภาพช่วยเราให้สามารถเอาชนะอุปสรรคทุกอย่าง เราควรมีความเข้าใจถูกต้องเกี่ยวกับการอธิฐานภาวนา ดังนี้ 1)            พระเจ้าทรงทราบทุกอย่างว่าอะไรดีที่สุดสำหรับเรา บ่อยครั้งเราร้องขอสิ่งที่ไม่ดีสำหรับชีวิต เช่น เด็กขอเล่นไฟ ของมีคม หรือสิ่งที่เป็นอันตราย, 2)            พระเจ้าทรงเห็นกาลเวลาทั้งหมด  พระเจ้าไม่ทรงตอบคำขอของเราเพราะพระองค์มีสิ่งดีกว่ารอเราอยู่ และ 3)            การอธิฐานภาวนาต้องมาจากน้ำใสใจจริง ความเพียรพยายามของหญิงม่ายในอุปมาพิสูจน์ให้เห็นถึงความจริงใจของเธอ

ประการที่สอง เราต้องทำส่วนของเราให้ดีที่สุด พระเจ้าไม่ช่วยคนที่ไม่ช่วยตนเอง เช่น หากเราต้องการผ่านการสอบ คำอธิฐานภาวนาอย่างเดียวไม่พอ เราต้องเตรียมตัวสอบอย่างดีด้วย หรือหากเราต้องการหายจากโรคภัยไข้เจ็บ ต้องร่วมมือกับหมอ กินยาและปฏิบัติตนตามคำสั่งหมอย่างเคร่งครัด

ประการที่สาม เราต้องขอบคุณและแสวงหาพระประสงค์ของพระเจ้า คำอธิฐานภาวนาที่ดีที่สุดยาวเพียงสองพยางค์คือคำว่า ขอบคุณ มิใช่การพูดจายืดยาวหรือการขอสิ่งต่าง ๆ จากพระเจ้า แต่เป็นการขอบคุณและแสวงหาพระประสงค์ของพระเจ้า เราต้องอธิฐานภาวนาอย่างพระเยซูเจ้าในสวนเกทเสมนี ขอให้เป็นไปตามพระประสงค์ของพระองค์เถิด (มธ 26:42)

บทสรุป

พี่น้องที่รัก พระเยซูเจ้าทรงสอนเราว่า จำเป็นต้องอธิฐานภาวนาอยู่เสมอโดยไม่ท้อถอย ไม่ว่าในเรื่องใดมนุษย์สามารถบรรลุเป้าหมายได้ด้วยความเพียรพยายามเท่านั้น ดังคำกล่าวที่ว่า ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น อีกทั้งยังให้บทเรียนสำคัญสำหรับเราว่า เราสามารถเข้าถึงพระบิดาเจ้า ผู้พร้อมประทานสิ่งดีงามแก่เราเกินกว่าที่เราวอนขอเสียอีก

การอธิฐานภาวนาเป็นการยกจิตใจขึ้นหาพระเจ้า ดำรงตนในความรักต่อพระองค์ และเป็นหนึ่งเดียวกับพระองค์อย่างใกล้ชิด การอธิฐานภาวนามีความหมายและปรากฏเป็นจริง เมื่อเราได้พยายามออกแรงทำส่วนของเราให้ดีที่สุด ศิษย์พระคริสต์ต้องตระหนักในพันธกิจแห่งการประกาศข่าวดี และสนับสนุนการแพร่ธรรมของพระศาสนจักร ด้วยการอธิฐานภาวนาอยู่เสมอโดยไม่ท้อถอย เพื่อแสวงหาและทำตามพระประสงค์ของพระเจ้า “การอธิษฐานภาวนาคือน้ำมันทำให้ตะเกียงแห่งความเชื่อของเราลุกโชนอยู่เสมอ” (นักบุญเทเรซาแห่งกัลกัตตา)

คุณพ่อขวัญ  ถิ่นวัลย์

ID LINE : dondaniele

วัดนักบุญยอแซฟ ดอนทอย-หนองสนุก, สกลนคร

18 ตุลาคม 2025

ภาพ : มารดาของผู้สมัครบวช, ซีมอน ชาญณรงค์ ผันพลี, สัการสถานสองคอน; 2025-10-18

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น