บทบัญญัติใหม่แห่งความรัก
อาทิตย์ สัปดาห์ที่ 5 เทศกาลปัสกา ปี C |
กจ 14:20ข-27 วว 21:1-5ก ยน 13:31-33ก, 34-35 |
บทนำ
วันหนึ่ง ขณะที่นักบุญเทเรซาแห่งกัลกัตตากำลังดูแลคนยากจนที่สุดบนถนนในเมืองกัลกัตตา
คุณแม่เทเรซาพบชายคนหนึ่งนอนอยู่ในท่อระบายน้ำใกล้จะตาย ร่างกายสกปรก เป็นแผลเน่าเหม็น
และมีแมลงวันตอม คุณแม่เข้าไปโอบกอดเขาและเริ่มทำความสะอาด หยิบหนอนออกจากร่างของเขา
คนเดินผ่านไปมารู้สึกขยะแขยงและอุทานกับคุณแม่ว่า “ฉันจะไม่ทำอย่างนั้นแม้ได้เงินล้าน”
คุณแม่ตอบทันทีว่า “ฉันก็จะไม่ทำเหมือนกัน”
เงินทองไม่ใช่แรงผลักดันสำหรับนักบุญเทเรซาแห่งกัลกัตตา แต่เป็นความรักตามบทบัญญัติใหม่ของพระเยซูเจ้าต่างหาก
“เราต้องเติบโตในความรัก... ทำสิ่งธรรมดาด้วยความรักพิเศษ
เช่น การดูแลคนป่วย คนไร้บ้าน คนโดดเดี่ยว และคนที่ไม่มีใครต้องการ การซักล้าง และทำความสะอาดให้พวกเขา”
คุณแม่เทเรซากล่าว โรคที่ร้ายแรงที่สุดในปัจจุบันไม่ใช่วัณโรค โรคเรื้อน หรือโรคเอดส์
แต่คือการไม่เป็นที่ต้องการและไม่ได้รับความรัก และคุณแม่ได้พยายามรักษาโรคนี้จากทุกสิ่งที่ทำและทุกคำที่พูด
พระวรสารวันนี้เป็นเหตุการณ์เกิดขึ้นหลังการเลี้ยงอาหารค่ำมื้อสุดท้าย
ซึ่งพระเยซูเจ้าทรงล้างเท้าอัครสาวกและยูดาสผู้ทรยศออกจากห้องไปแล้ว เป็นพระดำรัสอำลาที่พระเยซูเจ้าตรัสกับบรรดาอัครสาวกที่เหลืออยู่แบบใจถึงใจ
เกี่ยวกับพระสิริรุ่งโรจน์และบทบัญญัติใหม่ของพระองค์ นี่คือความปรารถนาสุดท้ายของพระองค์ที่ตรัสกับบรรดาอัครสาวกหลังจากทรงรู้ว่า
เวลาของพระองค์ใกล้เข้ามาแล้ว หนทางที่พระองค์ได้เลือกเพื่อรับพระสิริรุ่งโรจน์คือ
หนทางแห่งไม้กางเขน
1.
บทบัญญัติใหม่แห่งความรัก
เกียรติรุ่งโรจน์ที่กล่าวถึงในบทอ่านวันนี้หมายถึง พระสิริรุ่งโรจน์ที่พระเยซูเจ้าจะได้รับเมื่อพระองค์ถูกยกขึ้นบนไม้กางเขน
(ยน 3:14;
12:32) นักบุญยอห์นเน้นว่า การสิ้นพระชนม์ของพระเยซูเจ้าเป็นจุดเริ่มต้นแห่งชัยชนะของพระองค์
การตรึงบนไม้กางเขนเป็นก้าวแรกในการเสด็จสู่สวรรค์ไปหาพระบิดาเจ้าของพระองค์
ในเวลาเดียวกัน เป็นการถวายเกียรติแด่พระบิดาเจ้า เพราะพระเยซูเจ้าทรงยอมรับความตายด้วยความรักโดยสมัครใจ
ทรงนอบน้อมเชื่อฟังพระประสงค์ของพระบิดาเจ้าอย่างสูงสุด
เพื่อบรรลุถึง ฟ้าใหม่และแผ่นดินใหม่
(วว 21:1-2) ตามที่นักบุญยอห์นพูดถึงในหนังสือวิวรณ์ เราต้องปฏิบัติตาม “บทบัญญัติใหม่” ที่พระเยซูเจ้าทรงเปิดเผยให้ทราบ
“เราให้บทบัญญัติใหม่แก่ท่านทั้งหลาย ให้ท่านรักกัน
เรารักท่านทั้งหลายอย่างไร ท่านก็จงรักกันอย่างนั้นเถิด” (ยน 13:34)
พระองค์ได้แสดงให้เห็นว่า เราต้องรักกันอย่างไร เราต้องรักเช่นเดียวกับที่พระเยซูเจ้าทรงรักเรา
นั่นคือ ความรักที่ไม่มีเงื่อนไข
ความรักที่ไม่เห็นแก่ตัว ความรักที่ให้อภัยเสมอ
และ ความรักที่สละได้แม้กระทั่งชีวิต
พระเยซูทรงย้ำบทบัญญัติใหม่ให้รักกันสามครั้ง เพื่อแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของบทบัญญัติใหม่ที่พระองค์ตรัสถึง
โดยทรงอธิบายว่า บทบัญญัตินี้คือบทบัญญัติใหม่ และจะนำไปใช้อย่างไร “ให้ท่านทั้งหลายรักกัน เรารักท่านทั้งหลายอย่างไร
ท่านก็จงรักกันอย่างนั้นเถิด” (ยน 13:34) และสุดท้ายทรงบอกเราว่า ความรักแบบนี้เป็นคุณสมบัติที่บ่งบอกถึงการเป็นศิษย์แท้จริงของพระองค์
“ถ้าท่านมีความรักต่อกัน ทุกคนจะรู้ว่าท่านเป็นศิษย์ของเรา”
(ยน 13:35)
2.
บทเรียนสำหรับเรา
พระวาจาของพระเจ้าวันนี้ได้ให้บทเรียนสำคัญสำหรับเราหลายประการ
ในการนำไปปฏิบัติในชีวิตประจำวัน
ประการแรก เราต้องรู้จักรักตัวเองเพื่อสามารถรักผู้อื่นได้ บทบัญญัติในพันธสัญญาเดิมบอกเราว่า “จงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง” (ลวต 19:18)
เราไม่สามารถรักคนอื่นได้หากเราไม่รู้จักรักตนเอง
เราอยู่ในโลกที่ปฏิเสธคุณค่าพื้นฐานของมนุษย์ เราต้องเรียนรู้การรักตัวเองอย่างถูกต้อง
รับรู้ความจริงว่า เราต่างเป็นบุตรของพระเจ้า พระองค์ประทับอยู่ในตัวเรา และร่างกายของเราเป็นวิหารของพระจิตเจ้า
ประการที่สอง เราต้องรักผู้อื่นในชีวิตประจำวัน
เราถูกเรียกร้องให้รักเช่นเดียวกับพระเยซูเจ้า เรารักผู้อื่นด้วยการรับรู้ถึงความทุกข์ยากเดือดร้อนและความต้องการของเขา
ปกป้องคุ้มครองคนอ่อนแอ ถูกเอารัดเอาเปรียบ และไร้สิทธิ์ไร้เสียงในสังคม รับใช้ซึ่งกันและกันโดยไม่แบ่งแยก
มองเห็นพระเยซูเจ้าในตัวเขา ให้อภัยกันมากกว่าประณามหรือลงโทษ ที่สุด
เราต้องรักผู้อื่นด้วยการให้เวลา แบบอย่าง แบ่งปันสิ่งที่มีและพระพรที่ได้รับกับผู้อื่น
ประการที่สาม เราต้องเป็นเครื่องหมายแห่งความรักของพระเจ้า
เครื่องหมายของคริสตชนคือความรัก “ถ้าท่านมีความรักต่อกัน ทุกคนจะรู้ว่าท่านเป็นศิษย์ของเรา” (ยน 13:35)
ชีวิตของเราต้องฉายให้เห็นความรักของพระเยซูเจ้า
ยิ่งเราเลียนแบบความรักของพระเยซูเจ้าและดำรงชีวิตละม้ายคล้ายพระองค์มากเท่าใด คนอื่นย่อมรู้ถึงความรักของพระเจ้ามากเท่านั้น
บทสรุป
พี่น้องที่รัก บทบัญญัติใหม่แห่งความรัก คือพินัยกรรมสุดท้ายที่พระเยซูเจ้าทรงมอบแก่เรา
พระองค์ตรัสพระวาจานี้ถึงสามครั้ง “ให้รักกันและกัน”
นี่คือคำสั่งของพระองค์ และประทานแบบอย่างแก่เรา “เรารักท่านทั้งหลายอย่างไร
ท่านก็จงรักกันอย่างนั้นเถิด” (ยน 13:34)
ดังนี้ นักบุญเอากุสตินได้กล่าวว่า “จงรักและทำในสิ่งที่ต้องการ” หากเรามีความสัมพันธ์ที่ดีกับพระเจ้าและกับผู้อื่น
เราก็ไม่มีอะไรต้องกังวล เพราะความรักแท้ไม่นำไปสู่การทำบาป หรือความผิด
พระเยซูเจ้าได้มอบบทบัญญัติใหม่แห่งความรัก และแบบอย่างในการปฏิบัติสำหรับเราแล้ว
ปัญหาอยู่ตรงที่ว่า เราได้นำมาปฏิบัติให้เป็นจริงในชีวิตประจำวันของเรามากน้อยแค่ไหน
ศิษย์พระคริสต์ต้องปฏิบัติตามแบบอย่างแห่งความรักของพระเยซูเจ้า
ความรักที่ไม่มีเงื่อนไข ความรักที่ไม่เห็นแก่ตัว ความรักที่ให้อภัยเสมอ และ
ความรักที่สละได้แม้กระทั่งชีวิต ดำเนินชีวิตเป็นพยานถึงความรักต่อกันในครอบครัว
หมู่คณะ และชุมวัดของเรา เพื่อคนอื่นจะได้รู้ว่า เราเป็นคริสตชนและศิษย์ของพระองค์
คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
ID LINE : dondaniele
วัดนักบุญยอแซฟ
ดอนทอย-หนองสนุก, สกลนคร
17 พฤษภาคม 2025
ภาพ : พระอัครสังฆราชอันตน วีระเดช ใจเสรี, เยี่ยมกลุ่มคริสตชนกุดจอกใหญ่, อากาศอำนวย, สกลนคร; 2025-5-14
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น