ความรักเมตตาของพระเยซูเจ้า
อาทิตย์ สัปดาห์ที่ 5 เทศกาลมหาพรต ปี C |
อสย 43:16-21 ฟป 3:8-14 ยน 8:1-11 |
บทนำ
แม้คุณแม่เทเรซาแห่งกัลกัตตาจะเป็นที่รู้จักจากงานกิจเมตตา
ที่คุณแม่ได้ทุ่มเทความรักให้กับพระเยซูเจ้าผู้ซ่อนพระองค์ในคนโรคเรื้อน
ผู้ป่วยโรคเอดส์ ผู้ที่ใกล้จะตาย และคนที่แตะต้องไม่ได้ในสังคมอินดี แต่คุณแม่ยังเป็น
“ธรรมทูตแห่งแห่งความเมตตา” ที่ยิ่งใหญ่ ในการเรียกร้องให้ทุกคนรับความรักที่ให้อภัยของพระเยซูเจ้าในศีลอภัยบาป
ซึ่งเป็นศีลที่คุณแม่รับอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง
คุณแม่แนะนำคนทุกคนว่า “มีสิ่งหนึ่งที่จำเป็นสำหรับเรานั่นคือการสารภาพบาป...
แต่จริง ๆ แล้วศีลอภัยบาปเป็นศีลแห่งความรัก ศีลแห่งการให้คืนดี
เป็นที่ที่ฉันยอมให้พระเยซูเจ้าเอาทุกสิ่งที่ทำลายและแบ่งแยกออกไปจากฉัน
การสารภาพบาปเป็นการกระทำที่งดงามของความรักอันยิ่งใหญ่
เฉพาะการสารภาพบาปเท่านั้นที่เราสามารถเข้าไปในฐานะคนบาปและกลับออกมาเป็นคนบาปที่ไม่มีบาป…
เราต้องไม่สิ้นหวัง ไม่ต้องฆ่าตัวตาย ไม่ต้องท้อแท้
หากเราเข้าใจถึงความอ่อนโยนของความรักของพระเจ้า”
บทอ่านของวันนี้เตือนเรา ประการแรก ความน่ากลัวและผลที่ตามมาอันยุติธรรมของบาป
ประการที่สอง พระพรแห่งพระเมตตาหาที่สุดมิได้ของพระเจ้า และประการที่สาม
สิ่งที่เราต้องทำเพื่อจะได้รับพระเมตตานั้น พระวาจาของพระเจ้าของวันนี้เตือนเราถึงความพร้อมของพระเจ้าที่ทรงอภัยบาปและฟื้นฟูมิตรภาพกับเรามนุษย์
อีกทั้งท้าทายเราให้แสดงความรักเมตตาแบบเดียวกันนี้กับคนบาปที่อยู่รอบตัวเรา
1. ความรักเมตตาของพระเยซูเจ้า
เรื่องราวของหญิงน่าสงสารในพระวรสารที่ถูกจับได้ขณะล่วงประเวณี
บรรดาธรรมาจารย์และชาวฟาริสีได้นำนางมาเป็นเครื่องมือจับผิดพระเยซูเจ้า
โดยมุ่งหวังให้ประชาชนหมดความศรัทธาในพระองค์ แม้ว่าตามกฎหมายพวกเขาสามารถนำคนผิดมาให้รับบีตัดสินได้
เพราะพระเยซูเจ้าได้ชื่อว่าเป็นรับบีผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่ง
เพียงแต่เจตนาของพวกเขาไม่ใช่ทำเพื่อรักษากฎหมาย หรือทำให้กฎหมายศักดิ์สิทธิ์ แต่ “เพื่อทดลองพระองค์
และหวังจะหาเหตุปรักปรำพระองค์” (ยน 8:6)
ไม่ว่าพระเยซูเจ้าตัดสินอย่างใด ย่อมทำให้ประชาชนหมดความเชื่อถือในพระองค์
หากตัดสินให้ทุ่มหินนางให้ตายตามกฎของโมเสส (ลนต 20:10) แสดงว่าพระองค์โหดร้ายทารุณซึ่งตรงข้ามกับคำสอนเรื่อง “ความรักเมตตา” ที่ทรงปฏิบัติมาทั้งชีวิต หากตัดสินลงโทษนางถึงตายย่อมผิดต่อกฎหมายโรมัน
เท่ากับตั้งตนเป็นปฏิปักษ์กับรัฐบาลโรมัน ในทางตรงข้าม
หากยกโทษให้นางเท่ากับสอนประชาชนให้ละเมิดกฎของโมเสส และเห็นด้วยกับการทำผิดประเวณี
นี่คือกับดักอันร้ายกาจของพวกธรรมาจารย์และชาวฟาริสี
พระเยซูเจ้ามิได้ตัดสินตามที่พวกธรรมาจารย์และชาวฟาริสีเรียกร้อง
พระองค์ทรงให้เวลาเพื่อให้พวกเขาได้คิดถึงอดีตของพวกเขาเอง
เมื่อพวกเขายังเซ้าซี้ทูลถามอีก พระองค์ตรัสว่า “ถ้าในพวกท่าน
ผู้ใดไม่เคยทำบาปเลย ก็ให้ผู้นั้นเอาหินทุ่มนางเป็นคนแรกเถิด” (ยน 8:7)
เหตุการณ์ครั้งนี้ได้เผยแสดงให้เห็นถึงความรักเมตตา และท่าทีของพระเยซูเจ้าต่อคนบาปให้เราได้รับรู้
นั่นคือ ไม่ตัดสินผู้อื่น จงมีความรักเมตตาต่อคนบาป และไม่ทำบาปอีก
2. บทเรียนสำหรับเรา
พระวาจาของพระเจ้าวันนี้ได้ให้บทเรียนสำคัญสำหรับเราหลายประการ
ในการนำไปปฏิบัติในชีวิตประจำวัน
ประการที่แรก เราต้องมีความรักเมตตาต่อคนบาป พระเยซูเจ้าตรัสว่า “เราก็ไม่ลงโทษท่านด้วย
ไปเถิด…” (ยน 8:11) นี่คือมาตรฐานใหม่ที่ทรงมอบแก่เรา
เป็นพระดำรัสที่เปี่ยมด้วยความรักเมตตา ไม่ประณามหยามเหยียด หรือซ้ำเติมให้อับอาย แต่เข้าใจและให้อภัย
เราต้องเรียนรู้ที่จะเกลียดชังบาปแต่รักคนบาป แสดงความรักเมตตาของพระเยซูเจ้า
และทำงานร่วมกับพระจิตเจ้าผ่านทางแบบอย่างชีวิตดีงามของเรา เพื่อนำพวกเขามาสู่หนทางของพระเยซูเจ้า
ประการที่สอง เราต้องไม่ตัดสินผู้อื่น พระเยซูเจ้าตรัสว่า “อย่าตัดสินเขา
และท่านจะไม่ถูกพระเจ้าตัดสิน” (มธ 7:1) เราทุกคนล้วนเป็นคนบาปไม่ควรตัดสินใคร เพราะเรามักลำเอียงและมีอคติในการตัดสินผู้อื่น
และเราไม่รู้สถานการณ์ที่ทำให้ใครคนหนึ่งทำบาป แต่ชีวิตของเราสวนทางกับแนวทางของพระเยซูเจ้า
เราชอบสร้างบรรทัดฐานให้ผู้อื่นปฏิบัติแต่ตนเองกลับละเลย
เราชอบตัดสินและประณามผู้อื่นว่าผิด ขณะที่ความผิดของตนมองไม่เห็น
ประการที่สาม เราต้องไม่กลับไปทำบาปอีก พระเยซูเจ้าตรัสว่า “ตั้งแต่นี้ไป อย่าทำบาปอีก” (ยน 8:11)
พระองค์ทรงมองโลกในแง่ดีและเชื่อมั่นว่า มนุษย์ทุกคนมีศักยภาพเป็นนักบุญได้อาศัยความช่วยเหลือจากพระองค์
อีกทั้ง ไม่ทรงปรารถนาให้มนุษย์ท้อแท้สิ้นหวังเพราะคิดว่าตนเองเป็นคนบาป แต่ทรงประสงค์ให้เราเปลี่ยนแปลงชีวิต
มองไปข้างหน้าด้วยความหวังและความวางใจในพระองค์ เกลียดชังบาปและไม่กลับไปทำบาปอีก
บทสรุป
พี่น้องที่รัก เรามนุษย์เป็นผู้ที่ตกในความผิดบาปได้ง่าย
เราควรมีจิตใจที่ให้อภัยผู้ที่อ่อนแอกว่าเรา หรือเป็นเช่นเดียวกันกับเรา หญิงล่วงประเวณีสำนึกว่าตนเป็นคนบาป บรรดาธรรมาจารย์และชาวฟาริสีต้องการลงโทษนาง
แต่พระเยซูเจ้าทรงทำสิ่งใหม่คือการให้อภัยบาปเพื่อให้นางได้เริ่มต้นใหม่
มีชีวิตใหม่ในความรักเมตตาของพระเจ้า และทรงปรารถนาให้เราหมั่นสำรวจตนเอง
แก้ไขความผิดบกพร่องของตนเอง มากกว่าคอยจ้องจับผิดผู้อื่น
พระเยซูเจ้าทรงท้าทายเราให้สำนึกในความบาปที่ได้กระทำ
ตระหนักอยู่เสมอว่า พระเจ้าทรงรักเรา
ทรงให้อภัยเราด้วยพระทัยเมตตากรุณาหาที่สุดมิได้ แม้เราเป็นคนบาป
แต่พระหรรษทานของพระเจ้าเพียงพอ ช่วยให้เราสามารถเอาชนะความชั่วทั้งปวงได้ ศิษย์พระคริสต์ต้องมีความรักเมตตาต่อคนบาปเยี่ยงพระเยซูเจ้า
ไม่ตัดสินใคร แต่มองไปข้างหน้าด้วยความวางใจในความรักเมตตาของพระเจ้า แสวงหาการให้อภัยผ่านทางศีลอภัยบาป
เพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ในพระองค์เสมอ
คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
ID LINE : dondaniele
วัดนักบุญยอแซฟ ดอนทอย-หนองสนุก, สกลนคร
5 เมษายน 2025
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น