วันเสาร์ที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2567

พระเจ้าทรงรักโลกอย่างมาก

 

พระเจ้าทรงรักโลกอย่างมาก

อาทิตย์

สัปดาห์ที่ 4 เทศกาลมหาพรต

ปี B

2 พศด 36:14-16, 19-23

อฟ 2: 4-10

ยน 3:14-21

บทนำ

เรามาถึงสัปดาห์ที่ 4 เทศกาลมหาพรตที่เรียกว่า อาทิตย์แห่งความชื่นชมยินดี (Lætare Sunday) อาภรณ์สีกุหลาบของประธานในพิธีอาจมาแทนที่สีม่วง และดอกไม้อาจประดับพระแท่น เป็นสัญลักษณ์ของความยินดีของพระศาสนจักร ในการเฝ้าคอยการกลับคืนพระชนม์ชีพขององค์พระเจ้าของเรา

สาระสำคัญของการอ่านวันนี้คือความรอดของมนุษย์ ซึ่งเป็นของประทานจากพระเจ้า ผู้ทรงความเมตตากรุณา ประทานแก่เราคนบาปผ่านทางพระเยซูเจ้า พระบุตรของพระองค์ บทอ่านวันนี้เน้นถึงพระทัยเมตตาและความรักของพระเจ้า และเตือนเราถึงความรักยิ่งใหญ่ ความเมตตากรุณา และพระหรรษทานที่ประทานให้เราในพระคริสตเจ้า

พระวรสารวันนี้เผยให้เราเห็นพระพักตร์ของบุตรพระเจ้า ที่ถูกส่งมาสิ้นพระชนม์เพื่อเรา และเผยให้เราเห็นความรักและพระทัยเมตตาที่มีต่อเราแต่ละคน แก่นแท้ของพระวรสาร หัวใจของชีวิตฝ่ายจิตคริสตชนและพื้นฐานความหวังของมนุษย์ ปรากฏชัดเจนในพระวรสารวันนี้ “พระเจ้าทรงรักโลกอย่างมาก จึงได้ประทานพระบุตรเพียงพระองค์เดียวของพระองค์  เพื่อทุกคนที่มีความเชื่อในพระบุตรจะไม่พินาศ แต่จะมีชีวิตนิรันดร” (ยน 3:16)

1.        พระเจ้าทรงรักโลกอย่างมาก

พระวรสารนักบุญยอห์น บทที่ 3 ข้อที่ 16 เป็นตอนที่งดงามที่สุดในพระคัมภีร์ เรียกกันว่า “ข่าวดีแห่งพระวรสาร” (Gospel of the gospels) เพราะเป็นบทสรุปของข่าวดีที่นำความรอดผ่านทางพระเยซูเจ้า “ความรักของพระเจ้า” เป็นคำสอนสำคัญของพระวรสารนักบุญยอห์น บอกให้เราทราบถึงการเข้ามาเกี่ยวข้องต่อความรอดของมนุษย์ของพระเจ้า ผู้เป็นองค์ความรัก พระเจ้าทรงรักโลกอย่างมากและไม่มีใครถูกตัดขาดจากความรักของพระองค์ ดังคำกล่าวของนักบุญเอากุสติน “พระเจ้าทรงรักเราแต่ละคน ประหนึ่งว่ามีเราเพียงคนเดียวเท่านั้น”

ข้อความตอนนี้ยังอธิบายให้เราได้ทราบถึงความรักที่เป็นสากลของพระเจ้า ความรักเป็นพลังผลักดันของพระเจ้าเพื่อความรอดของมนุษยชาติ ใครที่ต้องการความรอดต้องเชื่อในองค์พระบุตร มีคนจำนวนไม่น้อยเชื่อว่า พระเจ้าไม่ทรงสนใจใยดีมนุษย์ ทรงปล่อยให้ทุกอย่างเกิดขึ้นและเป็นไปตามยถากรรม ทรงอยู่ห่างไกลไม่ใส่ใจความเป็นไปของมนุษย์เลย บางคนมองพระเจ้าเป็นผู้ปกครองที่กดขี่ เข้มงวดให้ถือตามบทบัญญัติและคอยลงโทษมนุษย์

พระเยซูเจ้าทรงประกาศพระเจ้าในแบบตรงข้าม ไม่ใช่พระเจ้าที่คอยตัดสิน แต่เป็นผู้ที่ใส่ใจในความเป็นไปของมนุษย์ ทรงบังเกิดเป็นมนุษย์ เปิดเผยให้เห็นถึงความรักของพระเจ้าทั้งในคำพูดและการกระทำ ความรักของพระองค์แสดงให้เราได้เห็นด้วยการยอมตายบนไม้กางเขนเพื่อทุกคน ไม่มีใครมีความรักยิ่งใหญ่ กว่าการสละชีวิตของตนเพื่อมิตรสหาย” (ยน 15:13) พระองค์ทรงกระทำเช่นนั้นเพราะทรงรักเรา ทรงอภัยบาป และนำเราให้กลับมาเป็นหนึ่งเดียวกับพระบิดาเจ้าอีกครั้ง

2.        บทเรียนสำหรับเรา

พระวาจาของพระเจ้าวันนี้ได้ให้บทเรียนสำคัญสำหรับเราหลายประการ ในการนำไปปฏิบัติในชีวิตประจำวัน

ประการแรก เราต้องรักไม้กางเขน พระเยซูเจ้าถูกยกขึ้นบนไม้กางเขนเพื่อไถ่บาปเรา เตือนใจเราให้ตระหนักถึงความรักและพระทัยเมตตาของพระเจ้า ไม้กางเขนจึงเป็นศูนย์กลางของวัด ในบ้านคริสตชนต้องมีเครื่องหมายแห่งความรักของพระเจ้านี้ เพื่อเตือนเราได้น้อมรับความยากลำบากต่าง ๆ และเป็นพลังในการเอาชนะความยากลำบากที่กำลังเผชิญ ดังนั้น เราต้องรักไม้กางเขน สวมใส่กางเขน และแบกไม้กางเขนของตนในแต่ละวันด้วยความชื่นชมยินดี

ประการที่สอง เราต้องตอบสนองความรักของพระเจ้าด้วยการรักกันและกัน ความรักของพระเจ้าเป็นความรักที่ไม่มีเงื่อนไข ไร้ขีดจำกัด ทรงรักทุกคนโดยไม่แบ่งแยกและไม่เลือกที่รักมักที่ชัง และทรงให้อภัยไม่สิ้นสุด ให้เราพยายามเลียนแบบอย่างความรักของพระองค์ ในการแบ่งปันความรักของเรากับเพื่อนมนุษย์ในเทศกาลมหาพรตนี้ เป็นต้น คนเดือดร้อนและต้องการความช่วยเหลือ

ประการที่สาม เราต้องนำแสงสว่างของพระเยซูเจ้าไปสู่ผู้อื่น ช่วยทุกคนให้เดินในแสงสว่างแห่งความจริงและความถูกต้องชอบธรรมของพระเยซูเจ้า ไม่เดินในความมืดอีกต่อไป ขจัดมุมมืดออกไปจากชีวิตและชุมชนวัดของเรา ได้แก่ มุมมืดแห่งยาเสพติด การพนัน สื่อลามก การประพฤติผิดศิลธรรมอีนดีงาม “แสงสว่างของท่านต้องส่องแสงต่อหน้ามนุษย์ เพื่อคนทั้งหลายจะได้เห็นกิจการดีของท่าน และสรรเสริญพระบิดาของท่านผู้สถิตในสวรรค์ (มธ 5:16)

บทสรุป

พี่น้องที่รัก พระเจ้าทรงรักโลกอย่างมาก ความรักของพระองค์เป็นความรักที่ไร้ขีดจำกัด เต็มไปด้วยความเมตตากรุณาต่อประชากรของพระองค์ ทรงเอาพระทัยใส่ในความเป็นไปของเราแต่ละคน ด้วยการส่งพระบุตรแต่องค์เดียวของพระองค์ เพื่อรวบรวมเราให้เป็นหนึ่งเดียวและมีชีวิตใหม่ในพระองค์ อีกทั้ง ทรงส่งเราให้นำความรักของพระองค์ไปสู่โลก เป็นพยานถึงความรักของพระองค์และแบ่งปันกับทุกคนในชีวิต

แสงสว่างแห่งความรักและการให้อภัยของพระเจ้าต้องฉายแสงในชีวิตเรา เพื่อช่วยให้ทุกคนได้เดินในแสงสว่างแห่งความจริงและความถูกต้องชอบธรรม ลด ละ เลิก ความประพฤติที่ไม่ดีต่าง ๆ ศิษย์พระคริสต์ต้องตระหนักในความรักของพระเจ้า และเลียนแบบพระเยซูเจ้า ผู้เป็นแสงสว่างแท้ที่ทรงรักและยอมตายเพื่อทุกคน ด้วยการนำความรักของพระองค์ไปสู่ผู้อื่น ไม่วิพากษ์วิจารณ์หรือตัดสินใคร แต่รักทุกคนโดยไม่แบ่งแยก

คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์

ID LINE : dondaniele

วัดนักบุญยอแซฟ ดอนทอย-หนองสนุก, สกลนคร

9 มีนาคม 2024

ภาพ : กางเขนวัดนักบุญยอแซฟ ดอนทอย-หนองสนุก, สกลนคร; 2024-02-16

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น