วันพุธที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2566

วัดพระเมตตาแห่งพระเยซูเจ้า โนนค้อ

 

วัดพระเมตตาแห่งพระเยซูเจ้า โนนค้อ

วัดพระเมตตาแห่งพระเยซูเจ้า โนนค้อ ตั้งอยู่เลขที่ 57 หมู่ 8 ตำบลช้างมิ่ง อำเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร ห่างจากตัวอำเภอพรรณนานิคมไปทางทิศตะวันตกประมาณ 5 กิโลเมตร ห่างจากถนนนิตโย ทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 23 (สายอุดรธานี-สกลนคร) ซึ่งเป็นทางแยกเข้าหมู่บ้านประมาณ 200 เมตร ตั้งอยู่ใกล้และเคยเป็นส่วนหนึ่งของวัดแม่พระแจกจ่ายพระหรรษทาน ดอนม่วย

1.        รากเหง้าและที่มา

ชุมชนวัดโนนค้ออพยพมาจากบ้านช้างมิ่งและบ้านหนองเดิ่น ตำบลช้างมิ่ง อำเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร ในห้วงเวลาที่เกิดสงครามโลกครั้งที่สอง บรรยากาศทางการเมืองดูวุ่นวายและยากลำบาก เกิดกรณีพิพาทอินโดจีนระหว่างรัฐบาลไทยกับอินโดจีนของฝรั่งเศส นำไปสู่การเบียดเบียนศาสนา พระสงฆ์และคริสตชนหลายคนถูกจับขังคุก ภคินี ครูคำสอน และชาวบ้านสองคอนรวม 7 คนถูกฆ่าตายเพราะไม่ยอมทิ้งศาสนา ศาสนสถานถูกปิด หรือถูกใช้เป็นที่จำวัดของพระภิกษุ ศาสนภัณฑ์ และของมีค่าต่าง ๆ ถูกริบไป

ยอแซฟ คำจันทร์  ฮุงหวล กับยูเลียนา ฟอง  ฮุงหวล (ภรรยาคนที่สอง) ตระกูลฮุงหวล

        ในห้วงเวลาดังกล่าว นายคำจันทร์ ฮุงหวล หลังจากพ้นจากการถูกจับขังคุกเมืองสกลนครเพราะการเบียดเบียนศาสนา ได้หนีความวุ่นวายไปล่าสัตว์และพบผืนป่าอุดมสมบูรณ์ซึ่งอยู่ห่างออกไปจากบ้านช้างมิ่งประมาณ 3 กิโลเมตร เป็นเนินดินที่มีต้นค้อใหญ่ 3-4 ต้นเรียกว่า “โนนค้อ” จึงได้ชวนคู่เขยคือ นายทวง มณีนพ จากบ้านช้างมิ่ง (เนื่องจากนางแพง มณีนพ ภรรยาของนายทวงเป็นพี่สาวของนางฟอง  ฮุงหวล ภรรยาของนายคำจันทร์) หลบไปทำไร่ที่ผืนป่านั้น ในระยะเริ่มแรกทั้งสองได้ออกไปทำไร่ทำนา และนอนค้างช่วงฤดูทำนาเท่านั้น

 ปี 1942 (2485) นายคำจันทร์  ฮุงหวล และ นายทวง  มณีนพ ได้อพยพครอบครัวไปตั้งหลักปักฐานบนผืนป่าโนนค้อ โดย นายคำจันทร์ ฮุงหวล ตั้งบ้านเรือนทางทิศตะวันตก  ส่วน นายทวง  มณีนพ ตั้งบ้านเรือนทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ต่อมา นายจู้ นิลเขต จากบ้านหนองเดิ่น ได้อพยพครอบครัวไปตั้งหลักปักฐานทางทิศตะวันออก และกลายมาเป็นบรรพชนของชาวโนนค้อ หรือ “สามก้อนเส้าแห่งโนนค้อ”  ที่มีรากเหง้าและที่มาเดียวกัน เนื่องจาก นางน้อย  นิลเขต ภรรยาของนายจู้  นิลเขต เป็นญาติของนางแพงกับนางฟอง จากบ้านช้างมิ่งด้วย

ลูชีอา แพง  มณีนพ ภรรยาของทิบูติอุส ทวง  มณีนพ ตระกูลมณีนพ และเป็นพี่สาวของยูเลียนา ฟอง  ฮุงหวล
เอากุสติโน จู้  นิลเขต ตระกูลนิลเขต จากบ้านหนองเดิ่น
           เมื่อสถานการณ์ทางการเมืองดีขึ้น การเบียดเบียนศาสนาสิ้นสุดลง ทั้งสามได้พาครอบครัวเดินลัดป่าข้ามทุ่งไปเข้าวัดร่วมพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ที่วัดเดิมของตนเอง ทั้งที่วัดช้างมิ่งและวัดหนองเดิ่น ถือเป็นแบบอย่างทางความเชื่อที่ส่งต่อมายังบุตรหลานในปัจจุบัน ต่อมาได้มีอีกหลายครอบครัวอพยพไปอยู่ด้วย เช่น ครอบครัวนายแกะ-นางแพงใส  แสนศรี, ครอบครัวนายสิงห์-นางนูน  วงศ์สาย, ครอบครัวนายสิงห์-นางสร้อย  บรรเทา, ครอบครัวนายคำศรี-นางปัด  พลเมือง เป็นต้น

ปี 1957 (2500) คุณพ่อปีโอ ไอศวรรย์  จันทร์ลือชัย ได้ไปสร้างโรงเรียนเซนต์แมรี่ดอนม่วย และสร้างวัดน้อยขึ้นที่บ้านดอนม่วย พร้อมกับให้ชื่อว่า “วัดแม่พระแจกจ่ายพระหรรษทาน ดอนม่วย-โนนค้อ ชุมชนโนนค้อได้เป็นส่วนหนึ่งของวัดแม่พระแจกจ่ายพระหรรษทาน ดอนม่วย-โนนค้อ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ซึ่งพี่น้องชาวโนนค้อได้เป็นกำลังสำคัญในการสร้างโรงเรียนเซนต์แมรี่ ทั้งที่บ้านดอนม่วยและอำเภอพังโคน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การสร้างวัดหลังแรกที่ดอนม่วยร่วมกับคุณพ่อเอ็ดมองด์  เปอเซ ธรรมทูตคณะช่วยมิสซัง (SAM.) รวมถึงการสร้างวัดหลังปัจจุบันเมื่อปี 1985 (2528)

การซื้อที่ดินและสร้างศาลาคำสอนขึ้นที่บ้านโนนค้อ


2.       
วัดหลังแรก

ประมาณปี 1997 (2540) คุณพ่อเปาโล พิชิต  ศรีอ่อน เจ้าอาวาส ได้ซื้อที่ดินจาก นายชวา  ฮุงหวลที่บ้านโนนค้อ โดยมอบหมายให้นายนาวา  เหลือหลาย เลขาธิการสภาภิบาลวัดดอนม่วย-โนนค้อ เป็นผู้ลงนามในสัญญาซื้อขายที่ดิน จำนวนเนื้อที่ 2 งาน 10 ตารางวา เป็นเงิน 50,000.- บาท เมื่อจันทร์ที่ 8 กันยายน 1997 (2540) โดยได้รับเงินบริจาคจำนวน 50,000.- บาท จากมาสเตอร์ ประทุม  เสริมสกุล เจ้าของโรงเรียนพานิชยการพังโคนและได้บริจาคเพิ่มอีก 50,000.- บาท ซึ่งคุณพ่อเปาโล พิชิต  ศรีอ่อน ได้ใช้เงินจำนวนนี้สร้างศาลาขึ้นบนที่ดินแปลงนี้ เพื่อใช้เป็นที่เรียนคำสอนสำหรับบุตรหลานชาวโนนค้อ ไม่ต้องข้ามถนนไปเรียนที่วัดดอนม่วยอีก

พี่น้องชาวโนนค้อจัดทำผ้าป่าเพื่อเตรียมสร้างวัดหลังแรก

       ปี 2005 (2548) นายฟิลิป  ฟาวเลอร์ (Mr. Philip  Fowler) ชาวอังกฤษ ที่รู้จักกับชาวโนนค้อได้บริจาคเงินจำนวน 70,000.- บาท ซึ่งชาวบ้านโนนค้อ (กรรมการหมู่บ้าน) ได้ใช้เงินจำนวนนี้ซื้อที่ดินของ นางสมสวาท  ฮุงหวล (แซ่ฉิ่น) จำนวนเนื้อที่ 2 งาน 10 ตารางวา (แปลงซึ่งเป็นที่ตั้งหอระฆัง) เป็นจำนวนเงิน 120,000.- บาท โดยมีพี่น้องชาวโนนค้อสมทบอีก 60,000.- บาท เมื่อเสาร์ที่ 19 มีนาคม 2005 (2548) ต่อมาเดือนมกราคม ปี 2007 (2550) นายฟิลิป  ฟาวเลอร์ ได้บริจาคเงินเพิ่มอีก 70,000.- บาท ซึ่งคุณพ่อปัสกัล บัณฑิต ธรรมวงศ์ เจ้าอาวาส ได้ใช้เงินจำนวนนี้สร้างวัดหลังแรกขึ้น และได้ไปถวายพิธีบูชาขอบพระคุณทุกเช้าวันเสาร์

ในการสร้างวัดหลังแรกนี้ไม่ได้จ้างช่างแต่อย่างใด พี่น้องชาวโนนค้อได้ช่วยกัน คนที่มีไม้ได้บริจาคไม้  อาทิ นายสำรอง  มงคลล้อม และนายเมฆ  ฮุงหวล ได้บริจาคไม้หลายต้นจากที่นาของตน และทุกคนเป็นแรงงานช่วยกันปรับปรุงศาลาให้เป็นวัดชื่อ “วัดพระเมตตาแห่งพระเยซูเจ้า โนนค้อ” ตามที่มีคริสตชนจากวัดจันทบุรีถวายรูปพระเมตตาแห่งพระเยซูเจ้า และคุณพ่อเจ้าอาวาสเห็นว่าชื่อนี้เหมาะสม อีกทั้งเป็นความประสงค์ของ พระอัครสังฆราชหลุยส์ จำเนียร  สันติสุขนิรันดร์ ที่ต้องการให้มีวัดพระเมตตาขึ้นในอัครสังฆมณฑลท่าแร่-หนองแสง

ปี 2007 (2550) คุณพ่อเปโตร ทวีชัย ศรีวรกุล เจ้าอาวาส ได้สร้างกำแพงด้านหน้า สูง 2 เมตร กว้างช่องละ 2.5 เมตร จำนวน 13 ช่อง ราคาช่อง ๆ ละ 3,000.- บาท โดยได้รับการบริจาคจากครอบครัวของพี่น้องชาวโนนค้อทั้งหมด อีกทั้งได้ต่อเติมด้านหน้าวัดให้ยาวขึ้นอีกหนึ่งห้อง  พร้อมกับหน้ามุข เพื่อเป็นศูนย์รวมจิตใจในการปฏิบัติศาสนกิจของพี่น้องชาวโนนค้อ ไม่ต้องเสี่ยงอันตรายข้ามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 23 ซึ่งขยายเป็น 4 ช่องทางจราจรไปเข้าวัดที่ดอนม่วยอีก ที่สุด การสร้างวัดที่โนนค้อได้เสร็จสมบูรณ์ มีพิธีเปิดเสกเมื่อเสาร์ที่ 29 มีนาคม 2008 (2551)โดยพระอัครสังฆราชหลุยส์ จำเนียร  สันติสุขนิรันดร์

เดือนพฤษภาคม ปี 2008 (2551) คุณพ่ออันดรูว์ บัญชา  ไชยรา เจ้าอาวาส ได้แยกวัดพระเมตตาแห่งพระเยซูเจ้า โนนค้อ ออกจากวัดแม่พระแจกจ่ายพระหรรษทาน ดอนม่วย อย่างเป็นทางการ ทั้งสภาภิบาล บัญชีวัด ทะเบียนวัด และเอกสารศีลศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ อีกทั้ง ได้ร่วมแรงร่วมใจกับพี่น้องชาวโนนค้อในการสร้างประตูใหญ่และป้ายชื่อวัด โดยได้รับการบริจาคจากครอบครัวนายเติมศักดิ์-นางกุลปราณี  ไชยพุฒ เป็นจำนวนเงิน 30,000.- บาท บุตรหลานตระกูลตุพิลา เป็นจำนวนเงิน 10,000.- บาท และพี่น้องตระกูลมณีนพ เป็นจำนวนเงิน 10,000.- บาท

ปี 2012 (2555) คุณพ่อยอแซฟ สุดใจ  แสนพลอ่อน เจ้าอาวาส ได้เริ่มสร้างหอระฆัง ปี 2013 (2556) คุณพ่อเปโตร สุรพงศ์ นาแว่น เจ้าอาวาส ได้สานต่อโครงการสร้างหอระฆังจนสำเร็จ รวมถึงการหาทุนซื้อระฆัง เมื่อได้ระฆังและงานทุกอย่างสมบูรณ์ ได้มีพิธีเปิดเสกโดยพระอัครสังฆราชหลุยส์ จำเนียร สันติสุขนิรันดร์ เมื่อเสาร์ที่ 31 พฤษภาคม 2014 (2557) พร้อมกับหาทุนซื้อที่ดิน 1 ไร่ 2 งานด้านหลังวัดจากนางฉายา  ฮุงหวล เป็นจำนวนเงิน 500,000.- บาท เพื่อเตรียมสำหรับการสร้างวัดใหม่ อีกทั้งได้สร้างซุ้มพระเมตตาแห่งพระเยซูเจ้า

3.        การก่อสร้างวัดใหม่

อาทิตย์ที่ 13 พฤษภาคม 2018 (2561) คุณพ่อดาเนียล ขวัญ  ถิ่นวัลย์ เข้ารับตำแหน่งเจ้าอาวาส ได้สานต่อโครงการสร้างซุ้มพระเมตตาแห่งพระเยซูเจ้าจนสำเร็จ มีพิธีเปิดเสกเมื่ออังคารที่ 2 ตุลาคม 2018 (2561) โอกาสเปิดเดือนแม่พระแห่งสายประคำ พร้อมทั้งได้ประชุมสภาภิบาลวัดและผู้นำชุมชนโนนค้อ เพื่อหาทุนสร้างวัดใหม่และเปิดบัญชีธนาคารกรุงไทย สาขาพังโคน ในชื่อ “โครงการก่อสร้างวัดพระเมตตาแห่งพระเยซูเจ้า โนนค้อ” เมื่อจันทร์ที่ 5 พฤศจิกายน 2018 (2561)

โครงการก่อสร้างวัดพระเมตตาแห่งพระเยซูเจ้า โนนค้อ ได้รับการอนุมัติให้ก่อสร้างจาก พระอัครสังฆราชหลุยส์ จำเนียร สันติสุขนิรันดร์ เมื่อพุธที่ 7 สิงหาคม 2019 (2562) แต่ยังไม่มีงบประมาณเพียงพอ เมื่อพระอัครสังฆราชอันตน วีระเดช ใจเสรี ขึ้นดำรงตำแหน่งประมุขคนใหม่ และมีเงินในบัญชี “โครงการก่อสร้างวัดพระเมตตาแห่งพระเยซูเจ้า โนนค้อ” จำนวนหนึ่งล้านบาท คุณพ่อดาเนียล ขวัญ  ถิ่นวัลย์ ได้เสนอแบบแปลนและโครงการต่อกรรมการบริหารอัครสังฆมณฑลฯ เพื่อพิจารณาอีกครั้ง โดยได้รับการอนุมัติ เมื่อจันทร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ 2021 (2564)

พุธที่ 10 มีนาคม 2021 (2564) เวลา 13.30 น. ตัวแทนคณะที่ปรึกษา กรรมการบริหารอัครสังฆมณฑลฯ แผนกก่อสร้าง และวิศวกร ได้ลงพื้นที่เพื่อวางหมุดหมายสำหรับการก่อสร้างวัดใหม่ โดยมีสภาภิบาลวัดและพี่น้องชาวโนนค้อให้การต้อนรับ หลังวางหมุดหมายพื้นที่ก่อสร้าง ได้ประชุมกันเพื่อวางกรอบสำหรับการเริ่มต้นโครงการพร้อมกับผู้รับเหมา การทำสัญญากับผู้รับเหมา และกำหนดวางศิลาฤกษ์วัดใหม่โอกาสฉลองวัด

3.1      แบบแปลน

แบบแปลนวัดพระเมตตาแห่งพระเยซูเจ้า โนนค้อหลังใหม่ ได้รับการออกแบบโดยนาย ปรีชา ทุพแหม่ง ตามแนวคิดของ คุณพ่อดาเนียล ขวัญ ถิ่นวัลย์ เจ้าอาวาส เพื่อต้องการทำให้วัดเก่าของมิสซังลาวในอดีตอย่างวัดนักบุญยอแซฟ คำเกิ้ม, วัดพระตรีเอกานุภาพ ช้างมิ่ง และวัดนักบุญอันนา หนองแสง ได้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง ทั้งนี้เพื่อรำลึกถึงคุณูปการของสองธรรมทูตรุ่นบุกเบิกคือ  พระสังฆราชยอห์นบัปติสต์ โปรดม และ คุณพ่อฟรังซัวส์ ซาเวียร์ เกโก โอกาสครบรอบ 100 ปีมรณกรรมของธรรมทูตทั้งสองปี 2020 (2463)

แบบแปลนวัดใหม่เป็นแบบเรียบง่ายเหมือนวัดเก่าในอดีต ไม่มีโดม หรือจั่ว แต่ผนังด้านหน้ายกสูงกว่าแนวหลังคา ปรับแต่งด้วยเสาโรมันและบัวโรมัน เพื่อทำให้แลดูเด่นและสง่าสมกับเป็นวิหารของพระเจ้า บนยอดวัดมีไม้กางเขนเครื่องหมายแห่งความรักของพระเยซูเจ้า ผู้สิ้นพระชนม์บนไม้กางเขนเพื่อไถ่กู้มนุษยชาติ ใต้กางเขนลงมาเป็นพระรูปพระเมตตาแห่งพระเยซูเจ้า ซึ่งเป็นองค์เดิมจากวัดเก่าที่นำขึ้นไปประดิษฐานบนฐานบัวโรมัน เพื่อฉายแสงแห่งพระเมตตาและความรักสำหรับพี่น้องโนนค้อและผู้ผ่านไปมา

แบบวัดใหม่ได้รับการเน้นให้งามสง่ายิ่งขึ้น ด้วยการติดตั้งพระรูปพระนางมารีย์รับเกียรติเข้าสู่สวรรค์ทั้งกายและวิญญาณบนหัวเสาโรมันด้านซ้ายมือ และพระรูปนักบุญยอแซฟ ภัสดาของพระนางมารีย์ด้านขวา เพื่ออวยพรชุมชนวัดโนนค้อและผู้ผ่านไปมา ซึ่งตามประวัติศาสตร์พระศาสนจักรในประเทศไทย ธรรมทูตคณะมิสซังต่างประเทศแห่งกรุงปารีส (M.E.P.) ได้มอบถวายประเทศสยามแด่พระนางมารีย์รับเกียรติเข้าสู่สวรรค์ ดังนั้น พระนางมารีย์รับเกียรติเข้าสู่สวรรค์จึงเป็นองค์อุปถัมภ์ของของสยามประเทศและของวัดทุกวัด

ส่วนด้านซ้ายเป็นพระรูปนักบุญยอแซฟ ภัสดาของพระนางมารีย์พรหมจารี เนื่องจากปี 2021 (2564) ที่เริ่มการก่อสร้างวัดใหม่เป็นปีนักบุญยอแซฟ ซึ่งสมเด็จพระสันตปาปาฟรังซิสทรงประกาศให้เป็นปีแห่งพระภัสดาของพระนางมารีย์พรหมจารี (8 ธันวาคม 2020-8 ธันวาคม 2021) ในสมณลิขิต “ด้วยหัวใจของบิดา PATRIS CORDE โอกาสครบ 150 ปี แห่งการประกาศ “นักบุญยอแซฟ ฐานะองค์อุปถัมภ์ของพระศาสนจักรสากล”

3.2      การวางศิลาฤกษ์และเริ่มก่อสร้าง

พระอัครสังฆราชอันตน วีระเดช ใจเสรี ได้ไปเป็นประธานพิธีบูชาขอบพระคุณฉลองความเชื่อประจำปี พิธีเสก และวางศิลาฤกษ์วัดพระเมตตาแห่งพระเยซูเจ้า โนนค้อ เมื่อเสาร์ที่ 10 เมษายน 2021 (2564) เวลา 10.00 น. โดยมีคุณพ่อดาเนียล ขวัญ ถิ่นวัลย์ เจ้าอาวาส และพี่น้องชาวโนนค้อให้การต้อนรับ มีพิธีเสกข้าวและเมล็ดพันธุ์ พิธีเสกศิลาฤกษ์ สถานที่ก่อสร้าง และวางศิลาฤกษ์ จากนั้นจึงเป็นพิธีบูชาขอบพระคุณ

เนื่องจากวัดไม่มีเงินงบประมาณเพียงพอในการก่อสร้าง จึงได้ทำสัญญาก่อสร้างวัด ขนาดความยาว 30 เมตร กว้าง 12 เมตร พื้นที่ 356 ตารางเมตร แบบเหมาค่าแรง เมื่อพฤหัสบดีที่ 10 มิถุนายน 2021 (2564) ระหว่างวัดพระเมตตาแห่งพระเยซูเจ้า โนนค้อโดย คุณพ่อดาเนียล ขวัญ ถิ่นวัลย์ เจ้าอาวาส เป็นผู้ว่าจ้าง กับ นายประดิษฐ์ แสนเมือง ผู้รับจ้าง เป็นผู้รับเหมาค่าแรงจำนวน 960,000.- บาท (เก้าแสนหกหมื่นบาทถ้วน) โดยวัดเป็นผู้จัดซื้อและจัดหาวัสดุอุปกรณ์ตามแบบแปลนทั้งหมด

พุธที่ 21 กรกฎาคม 2021 (2564) หลังพิธีบูชาขอบพระคุณ คุณพ่อดาเนียล ขวัญ  ถิ่นวัลย์ เจ้าอาวาสได้ทำพิธีเสกหลุมและตั้งเสาเอกเพื่อขอพรจากพระเจ้าสำหรับการก่อสร้างวัดใหม่ มีพี่น้องชาวโนนค้อร่วมในพิธีโดยการนำของผู้อาวุโสอย่าง คุณลุงชูชาติ  วงศ์สาย, คุณลุงสุบรรณ์  ผิวชัย, คุณลุงพิญญา  ตุพิลา และคุณยายฉายา  ฮุงหวล ที่ช่วยกันเตรียมสิ่งจำเป็นตามธรรมเนียมของคนอีสานในการตั้งเสาเอก และพี่น้องชาวโนนค้อได้ช่วยกันยกเสาเอกตั้งขึ้น เป็นเครื่องหมายแห่งการก่อสร้างวัดอย่างเป็นทางการ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น