วันเสาร์ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2565

การให้อภัยด้วยเมตตา

 

การให้อภัยด้วยเมตตา

อาทิตย์

สัปดาห์ที่ 31 เทศกาลธรรมดา

ปี C

ปชญ 11:22-12:1

2 ธส 1:11-2:2

ลก 19:1-10

บทนำ

พระอัครสังฆราชฟูลตัน จอห์น ชีน (Fulton John Sheen, 1895-1979) ชาวสหรัฐซึ่งมีชื่อเสียงในการทำรายการวิทยุและโทรทัศน์ เจ้าของรายการ “ชีวิตคือการอยู่อย่างมีคุณค่า” (Life is Worth Living) ได้เริ่มต้นรายการด้วยการบอกผู้ชมว่า “ชีวิตคือการอยู่อย่างมีคุณค่า หรือชีวิตคือความโง่เขลาและน่าเบื่อหน่าย?  ชีวิตจะไม่น่าเบื่อไร้ความหมายหากชีวิตนั้นมีเป้าหมาย” บทอ่านวันนี้บอกเราว่า ชีวิตคือการอยู่อย่างมีคุณค่า เมื่อเราพร้อมมีประสบการณ์การให้อภัยด้วยเมตตาของพระเจ้า

ศักเคียส เป็นหัวหน้าคนเก็บภาษีที่ด่านเมืองเยรีโค มีฐานะร่ำรวย แต่เป็นที่เกลียดชังของผู้คนทั่วไป เพราะการเก็บภาษีให้ศัตรูและเก็บส่วนที่เหลือเป็นของตนเอง ซึ่งตรงข้ามอย่างสิ้นเชิงกับชื่อของเขา “ศักเคียส” ในภาษาฮีบรูแปลว่า “บริสุทธิ์” หรือ “ผู้ชอบธรรม” แต่ลูกาต้องการแสดงให้เห็นว่า เขาได้กลายเป็นผู้ชอบธรรมสมชื่อหลังจากได้พบกับพระเยซูเจ้า

เนื่องจากมีคนมากและศักเคียสเป็นคนเตี้ยทำให้มองไม่เห็นพระเยซูเจ้า แต่เขาไม่ละความพยายาม วิ่งนำหน้าไปปีนต้นมะเดื่อเทศเพื่อเห็นพระองค์ คงเป็นเรื่องน่าอายไม่น้อยที่เศรษฐีผู้มั่งคั่งแห่งเยรีโคต้องมาปีนต้นไม้เพื่อเห็นอาจารย์ชาวยิวคนหนึ่ง ความต้องการพบพระเยซูเจ้าของเขามีมากกว่าความอาย พระเยซูเจ้าทรงมองมาที่เขา ทรงเรียกชื่อ และตรัสกับเขาให้รีบลงมา เพราะพระองค์จะไปพักที่บ้านของเขา นี่คือความยินดีล้นเหลือที่เขาไม่เคยได้รับมาก่อน

1.        การให้อภัยด้วยเมตตา

การที่พระเยซูเจ้าทรงเรียกชื่อศักเคียสและตรัสว่า พระองค์จะไปพักที่บ้านของเขา คือเหตุการณ์ที่ช็อกความรู้สึกของชาวยิว เพราะการไปพักที่บ้านของคนที่ชาวยิวถือว่าเป็นคนบาปที่สุด เป็นสิ่งที่ชาวยิวทั่วไปไม่ทำกันและรับไม่ได้ แต่พระเยซูเจ้าทรงแสดงให้เห็นความรักและพระเมตตาของพระเจ้าต่อคนบาป พระองค์มิได้เสด็จมาเพื่อตามหาคนชอบธรรม แต่เพื่อตามหาคนบาปและคนที่หลงไป พระองค์ทรงเรียกชื่อเขาเหมือนผู้เลี้ยงแกะที่ดีซึ่งจำชื่อแกะได้ทุกตัว

พระเยซูเจ้าทรงรู้ว่า ศักเคียสเป็นเหมือนคนทั่วไปที่มีความดีในตัวเอง แต่ความดีนั้นต้องการความรักและความเข้าใจ เพราะศักเคียสเคยชินกับการเป็นคนเห็นแก่ตัว เอารัดเอาเปรียบคนอื่น สร้างความร่ำรวยบนความทุกข์ของผู้อื่น และพึงพอใจในความสะดวกสบายที่ตนได้รับ แม้เขาเป็นคนร่ำรวย แต่ในส่วนลึกแห่งจิตใจเขาเป็นคนยากจน สิ่งที่เขาแสวงหามาตลอดชีวิตคือ ความรัก อย่างที่นักบุญเทเรซาแห่งกัลกัตตากล่าวไว้ “โรคที่คนส่วนใหญ่เป็นมากที่สุดในปัจจุบันคือโรคขาดความรัก”

ศักเคียสได้รับการให้อภัยด้วยเมตตาจากพระเยซูเจ้า ซึ่งเขาไม่เคยได้รับเช่นนี้มาก่อน การให้อภัยด้วยเมตตาของพระเจ้าสัมผัสใจเขา ทำให้เขาเปลี่ยนแปลงตนเองจากที่เคยเห็นแก่ตัว กลายเป็นคนรู้จักให้ แบ่งปันสิ่งที่มีกับคนอื่น และชดเชยสิ่งที่ได้โกงใครมาถึงสี่เท่า เขาได้ทำมากกว่าที่กฎหมายกำหนด นี่คือเครื่องหมายแห่งการกลับใจที่ทำให้เขาได้รับความรอด “วันนี้ ความรอดพ้นมาสู่บ้านนี้แล้ว” (ลก 19:9)

2.         บทเรียนสำหรับเรา

พระวาจาของพระเจ้าวันนี้ได้ให้บทเรียนสำคัญสำหรับเราหลายประการ ในการนำไปปฏิบัติในชีวิตประจำวัน

ประการแรก เราต้องสำนึกในความบาปผิดของตน เราแต่ละคนต่างเป็นคนบาป มากบ้างน้อยบ้างแตกต่างกันไป พระเยซูเจ้าทรงเชื้อเชิญเราให้กลับใจอย่างสิ้นเชิง พระองค์ทรงรักเราแม้เราเป็นคนไม่น่ารัก เต็มไปด้วยความโน้มเอียงในทางบาป ราคะตัณหา และอกุศลจิต ให้เราสำนึกในความบาปของตน และตอบรับการเรียกให้กลับใจของพระองค์ เพื่อเปลี่ยนแปลงชีวิตใหม่

ประการที่สอง เราต้องให้อภัยด้วยเมตตาเหมือนพระเยซูเจ้า การให้อภัยด้วยเมตตาของพระเยซูเจ้าได้สัมผัสใจของศักเคียส ทำให้เขาเปลี่ยนแปลงตนเองและชดเชยความผิดที่ได้ทำกับผู้อื่น เราต้องพร้อมยอมรับและให้อภัยความผิดของกันและกันด้วยใจกว้าง ให้โอกาสทุกคนที่ผิดพลาด มีแต่ความรักและการให้อภัยด้วยเมตตาเท่านั้น ที่ช่วยลดความแตกแยกรุนแรงและความเกลียดชังในสังคมลงได้

ประการที่สาม เราต้องมีใจกว้างและรู้จักแบ่งปัน ศักเคียสได้เปลี่ยนแปลงตนเองจากคนละโมบเป็นคนใจกว้าง จากคนเห็นแก่ตัวเป็นคนคิดถึงผู้อื่น เกิดการเปลี่ยนแปลงจากส่วนลึกแห่งจิตใจ นี่คือสิ่งที่พระเยซูเจ้าทรงเรียกร้องจากเราให้มีท่าทีแบบเดียวกับศักเคียส มีทัศนคติเชิงบวกต่อผู้อื่น รู้จักให้ และแบ่งปันสิ่งที่มีกับผู้อื่นด้วยใจกว้าง

บทสรุป

พี่น้องที่รัก พระวรสารวันนี้พระเยซูเจ้าทรงสอนเราให้ไตร่ตรองถึงสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิต ให้เรารักพระเจ้าสิ้นสุดจิตใจและรักเพื่อนมนุษย์โดยเฉพาะคนยากจน ประการสำคัญ พระเจ้าทรงประสงค์ให้เราทุกคนได้รับความรอดพ้น ให้เราปรารถนาที่จะพบพระเยซูเจ้าอย่างจริงใจเช่นเดียวกับศักเคียส และต้อนรับพระองค์เข้ามาในบ้านของเราด้วยความยินดี เป็นต้น ในศีลมหาสนิทในพิธีบูชาขอบพระคุณและในเพื่อนมนุษย์ที่เราพบ

พระเจ้าคือองค์แห่งความรักหาที่สุดมิได้ และทรงเป็นองค์แห่งความดีบริบูรณ์ผู้ทรงรักและให้อภัยเราเสมอ พระองค์ไม่ทรงทอดทิ้งเราแม้เป็นคนบาป หรือละทิ้งพระองค์ ศิษย์พระคริสต์ต้องพร้อมกลับใจและเปลี่ยนแปลงตนเองเช่นเดียวกับศักเคียส ที่เปลี่ยนแปลงวิธีดำเนินชีวิตโดยทันที อีกทั้ง ต้องรักและให้อภัยความผิดของและกันด้วยใจกว้าง เพราะนี่คือเงื่อนไขของการได้รับความรอดนิรันดร

คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์

khuanthinwan@gmail.com

วัดแม่พระแจกจ่ายพระหรรษทาน ดอนม่วย, สกลนคร

28 ตุลาคม 2022

ภาพ : การเยี่ยมอภิบาล, วัดแม่พระที่พึ่ง กุรุคุ, นครพนม; 2022-07-24

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น