วันจันทร์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2565

คุณพ่อกรไกรกับพระคุณเจ้าคายน์

 

คุณพ่อกรไกรกับพระคุณเจ้าคายน์


คุณพ่อเบเนดิกต์ กรไกร พิลาจันทร์ เข้าบ้านเณรแม่พระฟาติมาท่าแร่ สกลนคร เมื่อโตแล้ว โดยเข้าเรียนต่อชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ปี 1976 (2519) เลขที่บ้านเณรคือ 942 ซึ่งเป็นห้วงเวลาที่คุณพ่อลอเรนซ์ คายน์ แสนพลอ่อน เป็นอธิการ และมีคุณพ่อลูกา สุพล ยงบรรทม เป็นผู้ช่วยอธิการและเหรัญญิก ด้วยบุคลิกลักษณะที่เป็นคนซื่อ มีน้ำใจ สุภาพถ่อมตน พูดน้อย และยิ้มแย้มแจ่มใส ทำให้สามเณรกรไกร พิลาจันทร์ เป็นที่รักของทุกคน ผู้ใหญ่เมตตาและไว้วางใจ

เมื่อถึงเวลาปิดภาคเรียน บรรดาสามเณรแต่ละคนต่างแยกย้ายกันกลับบ้าน ยกเว้นสามเณรกรไกร พิลาจันทร์ ได้สมัครใจอยู่ช่วยงานบ้านเณร พร้อมกับสามเณรอีกประมาณ 10 คนซึ่งบ้านอยู่ไกล งานหลักอย่างหนึ่งในช่วงปิดภาคเรียนคือ การตัดฟืน (ไม้แก่นหล่อน) และการขนฟืนซึ่งเป็นไม้ท่อนขนาดใหญ่จากบ้านโคกสะอาด (บ้านเลิงฮัง) มาเก็บไว้ที่บ้านเณร และคุณพ่อสุพล ยงบรรทม มักชมสามเณรกรไกร พิลาจันทร์ว่าเป็นคนขยันและแข็งแรงกว่าทุกคน



        ปี 1978 ขณะเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 สามเณรกรไกร พิลาจันทร์ ได้รับความไว้วางใจและได้รับเลือกจากบรรดาสามเณรให้เป็นหัวหน้าบ้านเณร เพื่อทำหน้าที่ประสานงานระหว่างผู้ใหญ่กับสามเณร ช่วยดูแลและอบรมสามเณรหลังอาบน้ำตอนเย็นก่อนเข้าห้องเรียน (Study) ในห้วงเวลาดังกล่าวเฮโรอีนระบาดหนักในหมู่เยาวชนท่าแร่ ผลที่ตามมาคือการลักขโมย บรรดาสามเณรได้รับผลกระทบจากปัญหานี้มาก เสื้อผ้า และข้าวของเครื่องใช้ถูกขโมยไม่เว้นแต่ละวัน

เพื่อแก้ปัญหานี้ คุณพ่ออธิการ คายน์ แสนพลอ่อน ได้ให้สามเณรกรไกร พิลาจันทร์  แบ่งเวรกันเฝ้ายามตอนกลางคืน โดยใช้กระดานดำกั้นกำบังลมเวลานอนบริเวณผนังอาคารที่ติดกับวัดด้านโรงพละ ปรากฏว่าคืนแรกที่เริ่มเฝ้าก็ได้เรื่องเลย ข้าวของหายมากกว่าเดิม แถมด้วยข้อความที่เขียนด่าคนเฝ้าบนกระดานดำอย่างแสบสันต์ เนื่องมาจากคนเฝ้านอนหลับไม่รู้นอนคู้ไม่เห็น หนึ่งในคนเฝ้าคืนนั้นก็คือหัวหน้าบ้านเณรที่ชื่อกรไกร พิลาจันทร์ นั่นเอง



        นี่คือที่มาและประสบการณ์ขณะเป็นสามเณรที่ทำให้คุณพ่อกรไกร พิลาจันทร์ มีความผูกพัน เคารพรัก และนับถือคุณพ่ออธิการ คายน์ แสนพลอ่อน เป็นอย่างมาก ซึ่งต่อมาได้เป็นพระอัครสังฆราชแห่งท่าแร่-หนองแสง และเป็นผู้บวชคุณพ่อให้เป็นพระสงฆ์ของพระเจ้า ความเคารพรักยิ่งเพิ่มมากขึ้น และพระคุณเจ้าเองได้เมตตาส่งคุณพ่อไปเรียนวิชากฎหมายพระศาสนจักร จนจบหลักสูตรปริญญาเอก นับเป็นดอกเตอร์ทางกฎหมายพระศาสนจักรคนแรกของอัครสังฆมณฑลท่าแร่-หนองแสง โดยเดินทางไปพร้อมกับคุณพ่ออันตน วีระเดช ใจเสรี ซึ่งไปเรียนวิชาเทววิทยาพระคัมภีร์

หลังจากเรียนจบกฎหมายพระศาสนจักรที่มหาวิทยาลัยอูร์บานิอานา ศูนย์กลางของพระศาสนจักรที่นครรัฐวาติกัน ประเทศอิตาลี คุณพ่อกรไกร พิลาจันทร์ ได้กลับมาใช้ความรู้ความสามารถในฐานะเจ้าอาวาส ผู้พิพากษา และประธานศาลสำนักงานวินิจฉัยคดีระหว่างสังฆมณฑลอีสาน ได้ช่วยปลดปล่อยพันธะการแต่งงานของหลายร้อยคู่ที่หย่าร้างกัน ให้สามารถเริ่มต้นชีวิตใหม่และแต่งงานใหม่ได้อย่างถูกต้อง ช่วยให้พวกเขาได้เป็นคริสตชนสมบูรณ์ และเป็นพลังสำคัญของวัดและพระศาสนจักร



         สิ่งที่คุณพ่อกรไกร พิลาจันทร์ ดีใจและภูมิใจที่สุดคือ การได้ตอบแทนพระคุณและดูแลพระคุณเจ้าคายน์ แสนพลอ่อน บิดาที่รักและเคารพยิ่ง โดยเฉพาะในห้วงเวลาที่พระคุณเจ้าอาพาธพักที่สำนักมิสซัง และเข้ารับการรักษาตามโรงพยาบาลต่าง ๆ อีกทั้ง ได้เป็นคนปิดตาในวาระสุดท้ายที่พระคุณเจ้าสู่การพักผ่อนนิรันดรในองค์พระเจ้า บัดนี้ถึงเวลาของคุณพ่อได้กลับสู่การพักผ่อนนิรันดรในองค์พระเจ้า หลังจากได้ร่วมส่วนในพระทรมานกับพระเยซูเจ้าเป็นเวลา 4 ปี และได้พบบุคคลที่รักยิ่งซึ่งรอคุณพ่ออยู่

ขอคุณพ่อเบเนดิกต์ กรไกร พิลาจันทร์ สงฆ์ข้ารับใช้ของพระเจ้า ได้รับการพักผ่อนนิรันดรในองค์พระเจ้า และเข้าร่วมในหมู่นักบุญ เทอญ

ด้วยความอาลัยรัก

คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์



วัดแม่พระแจกจ่ายพระหรรษทาน ดอนม่วย

26 กันยายน 2022

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น