การฉลองพระเมตตา
อาทิตย์ สัปดาห์ที่ 2 เทศกาลปัสกา ปี B ฉลองพระเมตตา |
กจ 4:32-35 1ยน 5:1-6 ยน 20:19-31 |
บทนำ
ปี 1984 นิตยสารไทม์ได้ขึ้นปกชายสองคนกำลังจับมือกันอย่างเป็นกันเองที่เรือนจำแห่งหนึ่ง
ชายคนหนึ่งคือ เมเหม็ด อาลี อักกา ชายหนุ่มที่ลั่นกระสุนหมายสังหารพระสันตะปาปา
ชายอีกคนคือ นักบุญยอห์น ปอลที่ 2 พระสันตะปาปา ผู้ตกเป็นเหยื่อและเป้าหมายของการสังหาร พระองค์ได้สวมกอดและยกโทษให้ผู้พยายามสังหารพระองค์
นี่เป็นภาพลักษณ์ของพระเมตตาที่มีชีวิต ทรงสอนการให้อภัยและการคืนดีกัน
ทั้งคู่ได้สนทนากันอย่างใกล้ชิด หลังการสนทนาสิ้นสุดลง
อาลี อักกาได้ยกพระหัตถ์ของพระสันตะปาปายอห์น ปอลที่ 2 แตะที่หน้าผากของเขา เป็นเครื่องหมายของการแสดงความเคารพและพระสันตะปาปาทรงสัมผัสมือเขา
เมื่อเสด็จออกจากเรือนจำพระองค์ตรัสว่า “พ่อได้พูดกับเขาอย่างพี่น้อง พ่อได้ยกโทษและวางใจเขาอย่างสิ้นเชิง”
นี่คือแบบอย่างของพระเมตตาของพระเจ้า แบบเดียวกับที่นักบุญโฟสตินาได้เป็นพยาน
นักบุญองค์โฟสตินาได้เป็นพยานด้วยชีวิต ให้เราได้รักษาความเชื่อและความหวังในพระบิดาเจ้า
ผู้ทรงความเมตตาอย่างล้นเหลือ และทรงช่วยเราให้รอดด้วยพระโลหิตของพระบุตรของพระองค์
อีกทั้ง เชิญชวนให้อธิษฐานภาวนาเพื่อวิญญาณทั้งหลาย
ได้วางใจในพระเมตตาของพระเจ้าที่ไม่อาจเข้าใจได้ ซึ่งพระสันตะปาปายอห์น ปอลที่ 2 ได้แต่งตั้งบุญราศีโฟสตินาเป็นนักบุญเมื่อ 30
เมษายน
2000 และกำหนดให้สัปดาห์ที่ 2 เทศกาลปัสกาเป็นวันฉลองพระเมตตา
1.
การฉลองพระเมตตา
บทอ่านวันนี้เกี่ยวข้องกับพระเมตตา ความวางใจ และการให้อภัยบาป
พระเจ้าทรงแสดงความเมตตาต่อเราด้วยการส่งบุตรสุดที่รักของพระองค์ให้มาไถ่บาปเราให้รอด
ผ่านทางพระทรมาน การสิ้นพระชนม์ และการกลับคืนพระชนมชีพของพระองค์ หนังสือกิจการอัครสาวกได้ให้บทสรุปเกี่ยวกับชีวิตคริสตชนในระยะเริ่มแรก
ที่ปฏิบัติต่อกันความรัก ความเห็นอกเห็นใจ และความเมตตาของพระเจ้าตามที่พระเยซูเจ้าทรงสอน
บรรดาคริสตชนได้ดำเนินชีวิตหมู่คณะ เป็นพยานถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน
ซึ่งได้รับพลังจากการอธิษฐานภาวนาร่วมกันในพิธีบิขนมปัง และปฏิบัติตามคำสอนของบรรดาอัครสาวกที่เน้นงานเมตตากิจ
จดหมายของนักบุญยอห์น ฉบับที่
1
เน้นพันธะแห่งความรักระหว่างคริสตชนกับพระเจ้าพระบิดา
บนพื้นฐานแห่งความเชื่อในการกลับคืนพระชนมชีพของพระเยซูเจ้า
ซึ่งอาศัยความเชื่อนี้ทำให้เราเป็นบุตรบุญธรรมของพระบิดาเจ้า
พระวรสารวันนี้
ระลึกถึงการปรากฏพระองค์ของพระเยซูเจ้าแก่บรรดาสาวกในค่ำวันต้นสัปดาห์
เตือนใจเราถึงศีลแห่งการคืนดีที่ทรงประทานแก่บรรดาสาวก ซึ่งเป็นศีลศักดิ์สิทธิ์แห่งพระเมตตาของพระเจ้าในการอภัยบาป
“ท่านทั้งหลายอภัยบาปของผู้ใด บาปของผู้นั้นก็ได้รับการอภัย
ท่านทั้งหลายไม่อภัยบาปของผู้ใด บาปของผู้นั้นก็ไม่ได้รับการอภัยด้วย” (ยน 20:19-23) อีกทั้ง
ได้เน้นความสำคัญของความเชื่อในการประทับอยู่ของพระเยซูเจ้า ผู้กลับคืนพระชนม์ชีพซึ่งเป็นบ่อเกิดแห่งพระเมตตาในหมู่คริสตชน
2.
บทเรียนสำหรับเรา
การฉลองพระเมตตาและพระวาจาของพระเจ้าวันนี้ ได้ให้บทเรียนสำคัญสำหรับเราหลายประการ
ในการนำไปปฏิบัติในชีวิต
ประการแรก เราต้องเลียนแบบความเมตตาของพระเจ้า พระเมตตาของพระเจ้าปรากฎชัดในศีลศักดิ์สิทธิ์แห่งการคืนดี การหมั่นมารับศีลอภัยบาปเป็นหนทางดำเนินชีวิตในความเมตตาของพระเจ้า
พระเยซูเจ้าทรงบอกเราว่า “ท่านจงเป็นคนดีอย่างสมบูรณ์ ดังที่พระบิดาเจ้าสวรรค์ของท่าน
ทรงความดีอย่างสมบูรณ์เถิด” (มธ 5:48) เราต้องแสดงความเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์ทุกที่ ทั้งในคำพูด
กิจการ และการอธิษฐานภาวนา
ประการที่สอง เราต้องรักและรับใช้กันและกัน
การดำเนินชีวิตด้วยความเชื่อช่วยเราให้มองเห็นพระเยซูเจ้าผู้กลับคืนพระชนมชีพในทุกคน
และมีความปรารถนารับใช้กันและกันด้วยความรัก นักบุญเทเรซาแห่งกัลกัตตา
ได้ใช้แนวทางนี้ในการสอนสมาชิก “ถ้าเราอธิษฐานภาวนา เราจะเชื่อ; ถ้าเราเชื่อ เราจะรัก; ถ้าเรารัก เราจะรับใช้ ซึ่งเป็นการทำให้ความรักที่เรามีต่อพระเจ้าปรากฏเป็นจริงในกิจการ”
ประการที่สาม เราต้องปฏิบัติกิจเมตตาต่อผู้ทุกข์จน กลุ่มคริสตชนแรกในบทอ่านที่หนึ่ง
บอกให้เราทราบว่า พวกเขาได้นำสิ่งที่มีมาวางเป็นกองกลาง
เพื่อให้บรรดาอัครสาวกแบ่งปันแก่ผู้ขัดสนและต้องการความช่วยเหลือ นี่เป็นเครื่องหมายแห่งพระเมตตาของพระเจ้าในภาคปฏิบัติ
ที่ทุกคนปฏิบัติต่อกันอย่างพี่น้อง ในกลุ่มคริสตชนแรกจึงไม่มีใครขัดสน และเป็นหนทางทำให้พวกเขามีสันติสุขแท้
บทสรุป
พี่น้องที่รัก การฉลองพระเมตตาเป็นโอกาสให้คริสตชนได้ตระหนักในพระเมตตาหาที่สุดมิได้ของพระเจ้า
ซึ่งเห็นได้อย่างเด่นชัดในการให้อภัยบาปเราเสมอ เราต้องเลียนแบบพระบิดาเจ้าสวรรค์ผู้ทรงความดีบริบูรณ์
แสดงออกถึงท่าทีแห่งความเมตตา การให้อภัย และสันติสุขแท้จากใจเราแก่กัน สันติสุขบังเกิดขึ้นในใจเราเมื่อเราได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งความรักที่พระเจ้าประทานแก่เรา
และใส่ใจในความต้องการของเพื่อนมนุษย์ เป็นต้น คนต่ำต้อยด้อยค่าในสังคม
คริสตชนต้องดำเนินชีวิตเป็นเครื่องหมายแห่งพระพรและพระเมตตาของพระเจ้า ทั้งในคำพูด และการกระทำเพื่อสร้างสันติสุขให้เกิดขึ้น
โดยเริ่มจากในครอบครัว หมู่คณะ และชุมชนวัดของเรา ศิษย์พระคริสต์ต้องสานต่อพันธกิจของพระเยซูเจ้าในงานเมตตาจิต
งานแห่งความรักและการให้อภัยไม่สิ้นสุดในชีวิตประจำวัน ดำเนินชีวิตเป็นเครื่องมือในการสร้างสันติสุขในสังคมที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังและความแตกแยกรุนแรง
คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
https://dondaniele.blogspot.com/
เทศกาลปัสกา การฉลองการกลับคืนพระชนมชีพของพระเยซูเจ้า, สกลนคร : สมศักดิ์การพิมพ์ กรุ๊ป, 2562, หน้า 24-27.
ภาพ : พระอัครสังฆราชอันตน วีระเดช ใจเสรี, ฉลองวัดพระเมตตาแห่งพระเยซูเจ้า โนนค้อ, สกลนคร; 2021-04-10
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น