วันศุกร์ที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

คุณค่าของพระอาณาจักร


คุณค่าของพระอาณาจักร
อาทิตย์
สัปดาห์ที่ 17 เทศกาลธรรมดา
ปี A
1 พกษ 3:5, 7-12
รม 8:28-30
มธ 13:44-52
บทนำ
5 กรกฎาคม 2011 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่ามีการค้นพบกรุสมบัติ ซึ่งเต็มไปด้วยทองคำ เพชร และอัญมณีจำนวนมาก ซุกซ่อนอยู่ในห้องลับใต้ดินภายในวัดศรีปัทมนาภะสวามี วัดฮินดูเก่าแก่แห่งหนึ่งสมัยศตวรรษที่ 16 ในเมืองตริวันดรัม รัฐแคราล่า ทางตอนใต้ของประเทศอินเดีย เบื้องต้นคาดว่าทรัพย์สมบัติที่ค้นพบมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 14,000 ล้านปอนด์หรือราว 687,080 ล้านบาท
ไม่ทราบว่าทรัพย์สมบัติเหล่านี้เป็นกรรมสิทธิ์ของใคร แม้พบเหรียญกษาปณ์ของ “บริษัทอินเดียตะวันออก” (East India Company) ของอังกฤษซึ่งเคยผูกขาดการค้าในดินแดนแถบนี้รวมอยู่ด้วย ผู้เชี่ยวชาญด้านโบราณคดีคาดว่าทรัพย์สมบัติที่ค้นพบ อาจเป็นของ “มหาราชา” พระองค์หนึ่งซึ่งเคยมีอำนาจเหนือดินแดนนี้ในอดีต
พระวรสารวันนี้พระเยซูเจ้าตรัสถึง “ขุมทรัพย์ที่ซ่อนอยู่ในทุ่งนา” และ “ไข่มุกเม็ดงาม” ปาเลสไตน์เป็นดินแดนซึ่งอยู่ในภาวะสงคราม การซ่อนของมีค่าไว้ใต้ดินจึงเป็นเรื่องธรรมดา กล่าวกันว่า “พื้นดินเป็นที่เก็บเงินซึ่งปลอดภัยที่สุดเพียงแห่งเดียว” อีกทั้ง “ไข่มุก” เป็นสิ่งที่คนทั่วไปหลงใหล มิใช่เพราะเป็นสิ่งมีราคาแต่เพราะสวยงาม เมื่อได้เป็นเจ้าของย่อมรู้สึกปีติยินดี กฎหมายทัลมุด (Talmud) ของยิวกล่าวถึงไข่มุกว่ามีราคายิ่งกว่าสิ่งใด
1.        คุณค่าของพระอาณาจักร
อุปมาบอกให้เราทราบถึงคุณค่าของพระอาณาจักร และความชื่นชมยินดีเมื่อใครคนหนึ่งได้ครอบครองเป็นเจ้าของ ขุมทรัพย์ที่ซ่อนอยู่ในทุ่งนาและไข่มุกเม็ดงาม มีความแตกต่างและความสอดคล้องกัน คนพบขุมทรัพย์ถือเป็นเรื่องบังเอิญ ส่วนพ่อค้าผู้พบไข่มุกต้องใช้เวลาแสวงหาตลอดชีวิต การค้นพบพระอาณาจักรพระเจ้าจึงเป็นได้ทั้งเรื่องบังเอิญ หรือต้องแสวงหาตลอดชีวิต
พระเยซูเจ้าเสด็จมาเพื่อประกาศพระอาณาจักรของพระเจ้าในโลก ซึ่งแตกต่างจากอาณาจักรของโลกนี้ พระอาณาจักรของพระเจ้าหมายถึง การปกครองของพระเจ้า การยอมรับพระเยซูเจ้าเป็นพระเจ้าและพระผู้ไถ่ การเชื่อในพระเจ้าและปฏิบัติตามพระประสงค์ของพระองค์ เป็นสิ่่งที่มีค่ามากเหมือนขุมทรัพย์และไข่มุกเม็ดงาม ซึ่งเรียกร้องการอุทิศตนทั้งครบเพื่อครอบครองเป็นเจ้าของ
พระอาณาจักรของพระเจ้ามีคุณค่าเหนือสิ่งอื่นใด เพื่อครอบครองอาณาจักรนี้ต้องละทิ้งทุกสิ่ง ชายผู้พบขุมทรัพย์ในทุ่งนาและพ่อค้าผู้พบไข่มุกเม็ดงาม รีบกลับไปขายทุกสิ่งที่มีเพื่อซื้อนาและไข่มุกเม็ดนั้น ใครแสวงหาและปรารถนาขุมทรัพย์แห่งพระอาณาจักรของพระเจ้า ย่อมพบความยินดีหาที่สุดมิได้ เป็นความสุขของการได้พบและอยู่กับพระเจ้า สิ่งมีค่าที่สุดในชีวิตคือ การรู้จักพระเจ้าและดำเนินชีวิตตามคุณค่าพระวรสาร
2.        บทเรียนสำหรับเรา
อุปมาได้ให้บทเรียนสำคัญกับเราหลายประการ หากเราต้องการพบขุมทรัพย์แห่งพระอาณาจักรของพระเจ้าและพบความยินดีอย่างหาที่สุดมิได้
ประการแรก เราต้องแสวงหาพระเยซูเจ้าให้พบ  เมื่อเราค้นพบพระเยซูเจ้าและพันธกิจของพระองค์ สิ่งอื่นทั้งหลายย่อมกลายเป็นเรื่องรอง นักบุญเปาโลเป็นตัวอย่างสำหรับเรา “ข้าพเจ้าคิดว่าการมีชีวิตอยู่ก็คือพระคริสตเจ้า และการตายก็เป็นกำไร” (ฟป 1:21) เพื่อกล่าวเช่นนั้นได้ เราต้องมีประสบการณ์ส่วนตัวและความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับพระองค์ ผู้เป็นขุมทรัพย์แท้สำหรับเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การอธิษฐานภาวนาและดำเนินชีวิตตามพระวาจา
ประการที่สอง เราต้องยอมสละทุกสิ่ง เพื่อได้สิ่งดีที่สุดเราต้องยอมสละสิ่งดีรองลงมา เช่น ความสะดวกสบาย เราต้องพร้อมเปลี่ยนแปลงและสละน้ำใจของตน เพื่อได้พบและอยู่ในพระอาณาจักรของพระเจ้าตลอดไป ตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ด้วยการแบ่งปันสิ่งที่มีกับคนขัดสนและต้องการความช่วยเหลือ พระเยซูเจ้ามิได้ตำหนิการมีทรัพย์สมบัติมาก แต่ทรงประณามการใช้ทรัพย์สมบัติอย่างเห็นแก่ตัวต่างหาก
ประการที่สาม เราต้องดำเนินชีวิตมุ่งไปยังเป้าหมายสุดท้าย เราใช้เวลาส่วนใหญ่แสวงหาขุมทรัพย์จอมปลอม เช่น เงินทอง สถานะทางสังคม หรือความพึงพอใจชั่วครู่ชั่วยาม เราต้องมุ่งแสวงหาสิ่งสูงค่ากว่าคือ พระอาณาจักรสวรรค์ ดำเนินชีวิตตามแผนการและพระประสงค์ของพระเจ้า พระอาณาจักรของพระเจ้าเป็นอาณาจักรแห่งความรักและการให้อภัย ดังนั้น เราต้องเจริญชีวิตในความรักและการให้อภัยกัน ทำให้พระอาณาจักรของพระเจ้าเป็นจริงตั้งแต่ในโลกนี้
บทสรุป
พี่น้องที่รัก อุปมาที่พระเยซูเจ้าทรงเล่าบอกให้ทราบว่า “ไม่มีสิ่งไหนมีค่าและสำคัญมากไปกว่าพระอาณาจักรของพระเจ้า” ซึ่งเป็นอาณาจักรแห่งความจริงและชีวิต อาณาจักรแห่งความศักดิ์สิทธิ์และพระหรรษทาน อาณาจักรแห่งความเมตตากรุณาและยุติธรรม อาณาจักรแห่งความรักและสันติสุข พระเยซูเจ้าทรงเชื้อเชิญเราให้สร้างพระอาณาจักรและแสวงหาการประทับอยู่ของพระองค์ ซึ่งเป็นสิ่งสูงค่าและไม่มีวันสูญเสียไป
พระอาณาจักรของพระเจ้าสามารถเห็นได้อย่างเด่นชัดในพระบุคคลของพระเยซูเจ้า ผู้เสด็จมาเพื่อ “รับใช้ผู้อื่นและมอบชีวิตของตนเป็นสินไถ่เพื่อมวลมนุษย์” (มก 10:45) ทรงท้าทายและมอบแบบอย่างนี้แก่เราบนไม้กางเขน ศิษย์พระคริสต์ต้องดำเนินชีวิตในความรักต่อกันและให้อภัยความผิดของกันและกัน แสวงหาพระเยซูเจ้าผู้เป็นขุมทรัพย์แท้ พร้อมเปลี่ยนแปลงและสละน้ำใจของตน เพื่อได้พบและอยู่ในพระอาณาจักรของพระเจ้าตลอดไป
คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
khuanthinwan@gmail.com
วัดแม่พระแจกจ่ายพระหรรษทาน ดอนม่วย, สกลนคร
24 กรกฎาคม 2020
ภาพ: คุณพ่อหลุยส์ จำเนียร สันติสุขนิรันดร์, พิธีบูชาขอบพระคุณ, กรุงโรม, อิตาลี

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น