วันเสาร์ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2568

จงระวังและรักษาตัวให้พ้นจากความโลภ

 

จงระวังและรักษาตัวให้พ้นจากความโลภ

อาทิตย์

สัปดาห์ที่ 18 เทศกาลธรรมดา

ปี C

ปญจ 1:2; 2:21-23

คส 3:1-5, 9-11

ลก 12:13-21

บทนำ

มีเรื่องเล่าว่าเจ้าของนามั่งคั่งคนหนึ่ง ตั้งใจตอบแทนผู้เช่านาเป็นเวลานาน โดยเสนอมอบที่นาแปลงหนึ่งให้ เนื้อที่ตามจำนวนที่สามารถไถได้ตั้งแต่ 8 โมงเช้าถึง 6 โมงเย็น ผู้เช่านาดีใจมากที่จะได้มีที่นาเป็นของตัวเอง เขาเตรียมตัวออกกำลังกายทุกวัน บำรุงร่างกายด้วยอาหารเสริมสุขภาพและเครื่องดื่มชูกำลัง เพื่อเตรียมร่างกายให้พร้อมสำหรับโอกาสดีที่มีผู้หยิบยื่นให้

ผู้เช่านาเฝ้ารอวันอย่างใจจดใจจ่อ คืนก่อนถึงวันนัดหมายเขาตื่นเต้นจนนอนไม่หลับ เมื่อวันนัดหมายมาถึงเขาเริ่มไถอย่างรีบเร่งโดยไม่ยอมหยุดเลย แม้ตอนเที่ยงวันยังไม่ยอมพักทานข้าวด้วยกลัวเสียเวลา ยิ่งดวงอาทิตย์คล้อยต่ำลงใกล้หกโมงเย็นยิ่งโหมหนัก เพราะคิดว่าหลังจากนี้เขาจะได้เป็นเจ้าของที่นาหลายสิบไร่แบบฟรี ๆ โดยไม่ต้องจ่ายอะไร นอกจากแรงกายที่เขาทุ่มเทไถมาตั้งแต่เช้า

แต่แล้วสิ่งที่ผู้เช่านาไม่คาดฝันได้เกิดขึ้น ก่อนถึงเวลาหกโมงเย็น เขารู้สึกเสียวตรงหัวใจ เนื่องจากความเหน็ดเหนื่อยและสูญเสียน้ำในร่างกายในปริมาณมาก ทำให้เขาหัวใจวายเฉียบพลัน ล้มลง และสิ้นใจตาย ไม่มีโอกาสเป็นเจ้าของที่นาผืนใหญ่ตามที่มุ่งหวัง นอกจากที่ดินผืนเล็ก ๆ เพียงหนึ่งตารางวา เพื่อฝังร่างไร้วิญญาณเท่านั้น เรื่องนี้สะท้อนความจริงว่า เมื่อจบชีวิตลงเราไม่สามารถเอาอะไรไปได้เลย

1.         จงระวังและรักษาตัวให้พ้นจากความโลภ

พระวรสารวันนี้ เริ่มต้นจากสถานการณ์ที่มีชาวยิวคนหนึ่งมาขอร้องพระเยซูเจ้า ให้พูดกับพี่ชายเรื่องแบ่งมรดก เขาไม่พอใจในส่วนแบ่งที่ได้รับจึงมาหาพระเยซูเจ้า แต่ได้รับการปฏิเสธอย่างไม่ใยดี ความจริงพระเยซูเจ้าต้องการช่วยเขาให้มองไปที่ต้นตอของปัญหา หากท่านรักกันและกันเหมือนพี่น้อง และเข้าใจดีถึงคุณค่าของทรัพย์สมบัติในโลกนี้ ท่านคงไม่ทะเลาะกัน โดยทรงยกอุปมาเรื่อง เศรษฐีโง่ ขึ้นมา เพื่อชี้ให้เห็นทัศนคติที่พึงมีต่อ ทรัพย์สมบัติและสิ่งของในโลกนี้

ในหัวของเศรษฐีมีแต่ ตัวเอง ไม่มีที่ว่างสำหรับ คนอื่น พระเยซูเจ้าทรงเตือนว่า จงระวังและรักษาตัวไว้ให้พ้นจากความโลภทุกชนิด (ลก 12:15) นักบุญเปาโลได้ขยายความว่า การรักเงินทองเป็นรากเหง้าของความชั่วทั้งหมด ความโลภเงินทองทำให้บางคนหลงไปจากความเชื่อ (1 ทธ 6:10) ดังสุภาษิตโรมัน “เงินเป็นเหมือนน้ำทะเล ยิ่งดื่มมากยิ่งกระหายมาก” พระเยซูเจ้าจึงสอนว่า ถ้าผู้ใดอยากตามเรา ก็จงเลิกคิดถึงตนเอง (มธ 16:24)

พระเยซูเจ้าทรงตำหนิเศรษฐีเพราะ 1) เขาใช้ทรัพย์สมบัติด้วย ความโลภ ซึ่งเป็นรากเหง้าของความชั่วและมองไม่เห็นความต้องการของผู้อื่น เขาถูกครอบงำด้วยทรัพย์สมบัติจนไม่มีที่ว่างสำหรับพระเจ้าในจิตใจ, 2) เขาใช้ทรัพย์สมบัติโดยไม่คำนึงถึง “โลกหน้า” แผนการของเขาคือ พักผ่อน กินดื่ม และสนุกสนาน (ลก 12:19) บาปของเขามิใช่การทำชั่ว แต่เป็นการเพิกเฉยที่จะทำความดี เขามิใช่คนมั่งมีในสายพระเนตรของพระเจ้า แม้มีทรัพย์สมบัติมาก

2.         บทเรียนสำหรับเรา

พระวาจาของพระเจ้าวันนี้ได้ให้บทเรียนสำคัญสำหรับเราหลายประการ ในการนำไปปฏิบัติในชีวิต

ประการแรก เราต้องระวังและรักษาตัวให้พ้นจากความโลภ ซึ่งมีหลายรูปแบบ อาจเป็นความต้องการอำนาจ เกียรติยศชื่อเสียง และการยกย่องจากผู้อื่น บางครั้งเป็นความต้องการกินดื่ม การพนัน ยาเสพติด และความมักมากในกาม ความโลภเหล่านี้ทำให้ตัวเราถอยห่างจากพระเจ้าและการรับใช้ผู้อื่นด้วยความรัก ทำให้เรากลายเป็นทาสของวัตถุที่นำหายนะมาสู่วิญญาณของเรา กระนั้นก็ดี พระเจ้าไม่เคยทอดทิ้งเรา พระองค์ทรงอดทนและยังคงรักเราเสมอ

ประการที่สอง เราต้องแบ่งปันสิ่งที่มีกับผู้อื่น อุปมาเรื่องเศรษฐีโง่เตือนใจเราว่า สิ่งต่าง ๆ ที่มีล้วนเป็นของประทานจากพระเจ้า ซึ่งต้องใช้ให้เกิดประโยชน์มิใช่สำหรับตัวเองเท่านั้น แต่สำหรับผู้อื่นด้วย ดังนั้น เราต้องมีจิตใจกว้าง แบ่งปันพระพรต่าง ๆ กับผู้อื่น อาทิ เวลา ทรัพย์สินและความสามารถพิเศษต่าง ๆ ที่มี และใช้ให้เกิดประโยชน์เพื่อความดีส่วนรวม เป็นต้น คนยากจนขัดสน คนด้อยโอกาสและต้องการความช่วยเหลือ

ประการที่สาม เราต้องเป็นคนมั่งมีสำหรับพระเจ้า เศรษฐีโง่เฝ้ามองแต่ประโยชน์ที่ได้จากความร่ำรวยทางวัตถุ แต่ละเลยความหมายแท้จริงแห่งชีวิตคือ การอยู่กับพระเจ้า เขาสะสมทรัพย์สมบัติไว้เพื่อตนเองและใช้อย่างเห็นแก่ตัว มีผู้คนเป็นจำนวนมากคิดแบบเศรษฐีโง่ เราต้องรู้จักใช้ทรัพย์สินเงินทองอย่างพอเพียง ไม่เป็นภาระแก่ผู้อื่น แบ่งปันส่วนที่เหลือแก่ผู้ที่มีความจำเป็นและขัดสน เพื่อเป็นคนร่ำรวยในสายพระเนตรของพระเจ้า

บทสรุป

พี่น้องที่รัก ทรัพย์สินเงินทองเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการดำรงชีวิตอย่างมีศักดิ์ศรีของมนุษย์ พระเยซูเจ้าทรงเข้าใจสิ่งเหล่านี้ ในอุปมาพระองค์มิได้ตำหนิทรัพย์สินเงินทอง แต่ตำหนิ “ความโลภ” ของเศรษฐีคนนั้น เขาเป็นคนร่ำรวยแต่ไม่พอใจในสิ่งที่ตนเองมี แม้เขาเป็นคนฉลาดตามมาตรฐานของโลก แต่สำหรับพระเยซูเจ้าเขาเป็นคนโง่เพราะละเลยและลืมสิ่งสำคัญ 3 ประการ : 1) เขาลืมพระเจ้า, 2) เขาลืมคิดถึงชีวิตในโลกหน้า และ 3) เขาลืมคิดถึงเพื่อนมนุษย์ที่ยากจนและขัดสน

สำหรับคนโลภอย่างเศรษฐี “เงินอาจซื้อทุกสิ่งได้ แต่ไม่อาจซื้อความสุขได้ เงินอาจนำพาเขาไปทุกแห่งในโลก แต่ไม่อาจพาเขาไปสวรรค์” และไม่เป็นคนมั่งมีในสายพระเนตรของพระเจ้า ศิษย์พระคริสต์ต้องระวังและรักษาตัวให้พ้นจากความโลภทุกชนิด ไม่สะสมทรัพย์สมบัติของโลกนี้ แต่สะสมทรัพย์สมบัติแห่งเมืองสวรรค์ และแบ่งปันสิ่งที่มีกับผู้ขัดสนและต้องการความช่วยเหลือ เพราะ การให้ย่อมเป็นสุขมากกว่าการรับ (กจ 20:35) และทำให้เราพบสันติสุขแท้

คุณพ่อขวัญ  ถิ่นวัลย์

ID LINE : dondaniele

วัดนักบุญยอแซฟ ดอนทอย-หนองสนุก, สกลนคร

2 สิงหาคม 2025

ภาพ : พิธีบูชาขอบพระคุณ, วัดดอนทอย-หนองสนุก, สกลนคร; 2024-3-19

วันศุกร์ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2568

การเป็นพยานของยอห์นผู้ทำพิธีล้าง

 

การเป็นพยานของยอห์นผู้ทำพิธีล้าง

เสาร์

สัปดาห์ที่ 17 เทศกาลธรรมดา

ลนต 25:1, 8-17

มธ 14:1-12

บทอ่านแรก หนังสือเลวีนิติพูดถึงการฉลองปีศักดิ์สิทธิ์ซึ่งจัดขึ้นทุก 50 ปี โดยจัดขึ้นในวันที่ 10 เดือน 7 มีการเป่าเขาสัตว์และฟื้นฟูความสมดุลให้กับชุมชน ทาสชาวอิสราเอลทุกคนจะได้รับอิสรภาพ ในทางเศรษฐกิจที่ดินบรรพบุรุษทั้งหมดจะต้องถูกคืนให้กับเจ้าของเดิม ความยุติธรรมต้องได้รับการปฏิบัติและกำหนดราคาที่เป็นธรรมเท่านั้น สิ่งที่เราต้องไตร่ตรองคือ “ขอให้ความยุติธรรมเกิดขึ้นบนโลก และให้เริ่มต้นจากเรา”

พระวรสารวันนี้ นักบุญมัทธิวได้เล่าเรื่องความตายของยอห์นผู้ทำพิธีล้างเชื่อมโยงกับเรื่องของพระเยซูเจ้า ยอห์นเป็นผู้มีคุณธรรมสูงส่ง เป็นพยานถึงความความจริงและความถูกต้องชอบธรรมโดยไม่เกรงกลัวสิ่งใด ยอห์นได้ประณามกษัตริย์เฮโรดที่รับภรรยาของน้องชายมาเป็นมเหสีว่าผิดศีลธรรม (เทียบ ลนต 18:16; 20: 21) ยอห์นไม่เปลี่ยนจุดยืนเพื่อเอาใจกษัตริย์ หรือลู่ตามลมเพื่อความอยู่รอด ยอมถูกขังคุกและที่สุดได้ตายเพื่อพระเยซูเจ้า นี่คือตัวอย่างของผู้กล้ายืนยันถึงความถูกต้องชอบธรรมโดยไม่คำนึงถึงผลร้ายตามมา

เฮโรดเป็นตัวอย่างของคนอ่อนแอและขลาดกลัว ไม่ซื่อสัตย์ต่อคู่ครอง ยอมทำผิดศีลธรรมเพื่อตอบสนองความพึงพอใจและราคะตัณหาของตน อีกทั้ง ปล่อยให้นางเฮโรเดียดและบุตรสาวมีอิทธิพลเหนือตนเอง ซ้ำร้ายยังยอมรักษาคำพูดและสถานะทางสังคมด้วยการทำบาปหนักคือ การฆ่าผู้บริสุทธิ์ นางเฮโรเดียดเป็นตัวอย่างของคนอาฆาตมาตรร้าย ผูกใจเจ็บ และหาทางแก้แค้น ถือเป็นผู้อยู่เบื้องหลังคอยยุยงเฮโรดให้จับกุมและประหารยอห์น

 ชีวิตของยอห์นผู้ทำพิธีล้างมีความหมายพิเศษสำหรับคริสตชน ผ่านทางศีลล้างบาปเราได้รับการเรียกให้เป็นผู้เตรียมทางขององค์พระเจ้า และมีหน้าที่เป็นพยานถึงพระองค์ในชีวิตประจำวันของเรา โดยเฉพาะการเป็นพยานถึงความถูกต้องชอบธรรม ทั้งด้วยคำพูดและการกระทำเช่นเดียวกับยอห์น เพื่อช่วยให้คนอื่นได้เห็นและมีประสบการณ์ความรักของพระเจ้า และพระประสงค์ของพระองค์ที่ทรงปรารถนาให้ทุกคนได้รับความรอดนิรันดร

ดูคล้ายกับว่า “คนชั่วคือผู้ชนะและอยู่รอดในสังคม แต่ที่สุดแล้ว พระเจ้าทรงเป็นผู้พิพากษาและลงโทษผู้ทำผิด ซึ่งได้รับการลงโทษแล้วตั้งแต่ในโลกนี้ ดังเช่นกษัตริย์เฮโรดและนางเฮโรเดียดถูกเนรเทศ ศิษย์พระคริสต์ต้องเลียนแบบยอห์นผู้ทำพิธีล้างในการเป็นพยานถึงพระเยซูเจ้า ดำเนินชีวิตตามคำสอนของพระองค์ และกล้ายืนยันถึงความจริงและความถูกต้องชอบธรรมโดยไม่เกรงกลัวสิ่งใด

คุณพ่อขวัญ  ถิ่นวัลย์

ID LINE : dondaniele

วัดนักบุญยอแซฟ ดอนทอย-หนองสนุก, สกลนคร

สิงหาคม 2025

ที่มาภาพ : https://themiscellany.org/lesson-herod-pause-and-listen