จงวางใจพระเจ้าสิ้นสุดจิตใจ

 

จงวางใจพระเจ้าสิ้นสุดจิตใจ

เสาร์ สัปดาห์ที่ 11 เทศกาลธรรมดา ปีคี่

2 พศด 24:17-25 มธ 6:24-34

บทอ่านแรก นักบุญเปาโลได้เล่าประสบการณ์ของคนหนึ่งที่ถูกดึงตัวขึ้นสวรรค์ แต่สำหรับเปาโลสิ่งที่ท่านโอ้อวดคือความอ่อนแอของตนเพื่อจะได้ไม่อวดตัว โดยพูดถึง “หนามทิ่มแทงเนื้องหนัง” ท่านเคยวอนขอให้สิ่งนี้พ้นไป แต่พระเจ้าตรัสกับท่านว่า “พระหรรษทานของเราเพียงพอสำหรับท่าน เพราะพระอานุภาพแสดงออกเต็มที่เมื่อมนุษย์มีความอ่อนแอ” (2 คร 12:9) ในความอ่อนแอมีพระพรของพระเจ้าและเห็นถึงความรักของพระองค์ ทำให้เราเข้มแข็งยิ่งขึ้น

พระวรสารวันนี้  พระเยซูเจ้าทรงสอนบรรดาศิษย์มิให้กังวลเกี่ยวกับอาหาร เครื่องดื่ม และเครื่องนุ่งห่ม เราเป็นบุตรมีค่ายิ่งของพระเจ้า พระองค์ทรงรักและดูแลเอาใจใส่เรา ทรงเตือนเรามิให้วิตกทุกร้อน หรือกังวลสิ่งใด ทรงบอกเราให้ดูนกในอากาศและดอกไม้ในทุ่งนาที่พระบิดาเจ้าทรงดูแลและเลี้ยงดู ทั้งนี้ เพื่อให้เราได้วางใจพระองค์เพราะมนุษย์ประเสริฐกว่านกและดอกไม้ยิ่งนัก และทรงเอาใจใส่เราเป็นพิเศษ

พระเจ้าทรงดูแลเอาใจใส่บุตรของพระองค์ทุกคน เราไม่ควรวิตกทุกข์ร้อน แต่ควรวางใจในความรักและพระญาณเอื้ออาทรของพระองค์ คริสตชนต้องวางทุกอย่างไว้ในพระหัตถ์ของพระเจ้า ดังนั้น ความภักดีของเราต่อพระเจ้าไม่ควรแบ่งแยก ต้องวางใจพระองค์อย่างสิ้นเชิง พระเยซูเจ้าทรงยืนยันหนักแน่นว่า เราไม่สามารถเป็น “ข้าสองเจ้า บ่าวสองนายได้” (มธ 6:24) เราไม่สามารถรับใช้พระเจ้าและเงินตราในเวลาเดียวกันได้

พระเยซูเจ้าต้องการสอนบรรดาศิษย์และเราแต่ละคนว่า “อะไรคือสิ่งมีค่ายิ่งในชีวิต” เราต้องตัดสินใจเลือกระหว่างพระเจ้ากับเงินตรา ต้องไม่ถือเงินเป็นพระเจ้าซึ่งขัดแย้งกับเป้าหมายของชีวิต ทรงแนะนำมิให้กังวลเรื่องการกิน การดื่ม และการนุ่งห่ม เพราะพระบิดาเจ้าทรงทราบว่า เราต้องการสิ่งเหล่านี้ “จงแสวงหาพระอาณาจักรของพระเจ้าและความชอบธรรมของพระองค์ก่อน แล้วพระองค์จะทรงเพิ่มทุกสิ่งเหล่านี้ให้” (มธ 6:33)

พระเยซูเจ้าทรงเตือนบรรดาศิษย์และเราให้วางใจพระเจ้า ผู้เป็นองค์แห่งความรักและความดีบริบูรณ์ พระองค์ทรงทราบดีถึงความต้องการของแต่ละคน และทรงจัดหาสิ่งจำเป็นสำหรับบุตรของพระองค์ทุกคน ศิษย์พระคริสต์ต้องวางใจพระเจ้าสิ้นสุดจิตใจ ไม่เชื่อมั่นเพียงความรู้ของตน (สภษ 3:5) ตระหนักถึงการประทับอยู่และพระญาณเอื้ออาทรของพระองค์ ชีวิตของเราจะมีความหมายเมื่อเราเดินมุ่งตรงไปยังพระอาณาจักรของพระเจ้า

คุณพ่อขวัญ  ถิ่นวัลย์

ID LINE : dondaniele

วัดนักบุญยอแซฟ ดอนทอย-หนองสนุก, สกลนคร

20 มิถุนายน 2025

ภาพ : เด็กคำสอน, วัดดอนทอย-หนองสนุก, สกลนคร; 2025-6-10

ทรัพย์สมบัติในสวรรค์

 

ทรัพย์สมบัติในสวรรค์

ศุกร์ สัปดาห์ที่ 11 เทศกาลธรรมดา ปีคี่

2 คร 11:18, 21-30 มธ 6:19-23

บทอ่านแรก นักบุญเปาโลได้พูดถึงความยากลำบากต่าง ๆ ที่ท่านต้องเผชิญเพื่อเห็นแก่พระคริสตเจ้าและการประกาศข่าวดีให้ชาวโครินธ์ได้รับรู้ เช่น การถูกจองจำ, การถูกโบตี ถูกชาวยิวเฆี่ยนห้าครั้ง ๆ ละ 39 ที, ถูกชาวโรมันเฆี่ยนสามครั้ง,  ถูกขว้างหินหนึ่งครั้ง, เรืออับปางสามครั้ง ลอยคออยู่กลางทะเลหนึ่งคืนหนึ่งวัน และต้องเผชิญอันตรายหลากหลายรูปแบบ เราต้องพร้อมเผชิญกับความลำบากเพื่อเห็นแก่พระคริสตเจ้าและการประกาศข่าวดี เราต้องถามตนเองว่า “ฉันทำอะไร กำลังทำอะไร และจะทำอะไรเพื่อพระคริสเจ้า”

พระวรสารวันนี้ พระเยซูเจ้าทรงชี้ให้เห็นความแตกต่างระหว่างทรัพย์สมบัติของโลกและทรัพย์สมบัติในสวรรค์ พระองค์ทรงสอนว่า ทรัพย์สมบัติของโลกไม่จีรังยั่งยืน อาจถูกสนิมและตัวขมวนทำลาย หรือถูกขโมยได้ (ดู มธ 6:19) ขณะที่ทรัพย์สมบัติในสวรรค์คงอยู่และติดตัวเราตลอดไป แม้จากโลกนี้ไปแล้ว ทรัพย์สมบัติในสวรรค์คือหัวใจที่มีพระเจ้าเป็นศูนย์กลาง ไม่มีสิ่งใดในโลกมีอิทธิพลต่อใจเราได้

ทรัพย์สมบัติของโลกได้แก่ สิ่งที่เรายึดติด คำปลอบโยน ความเห็นของผู้อื่นเกี่ยวกับตัวเรา ความสำเร็จ ความมั่นคง ความภาคภูมิใจ สิ่งวัตถุภายนอก ฯลฯ ส่วนทรัพย์สมบัติในสวรรค์ ได้แก่ ทุกสิ่งที่พระเจ้าทรงกระทำและเปิดเผยให้เราทราบ นักบุญเปาโลเน้นว่าเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับเข้าในพระอาณาจักรของพระเจ้า ได้แก่ ความรัก ความชื่นชม ความสงบ ความเมตตา ความใจดี ความซื่อสัตย์ ความอ่อนโยน และการรู้จักควบคุมตนเอง (ดู กท 5:22-23)

พระเยซูเจ้ามิได้ปฏิเสธทรัพย์สมบัติของโลกที่จำเป็นเพื่อการดำรงชีพ แต่ต้องไม่ยึดติดและไม่ถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุด อีกทั้ง ต้องใช้เป็นเครื่องมือเพื่อแบ่งปันความรักกับเพื่อนมนุษย์ ช่วยเราให้รักพระเจ้าและผู้อื่นมากยิ่งขึ้น ประการสำคัญ ทุกสิ่งในโลกไม่ทำให้พบความสุขแท้ แม้มีทุกสิ่งแต่ใจยังว่างเปล่า นักบุญเอากุสตินเป็นตัวอย่างของผู้แสวงหาความสุขทุกรูปแบบและพบความจริงว่า “จิตใจข้าพเจ้าจะไม่ได้รับการพักผ่อน จนกว่าจะได้พิงพักอยู่ในพระองค์”

แม้มีทรัพย์สมบัติมากมาย แต่ใจเรายังว่างเปล่าเหมือนคนตาบอด มองไม่เห็นทรัพย์สมบัติแท้จริง “ประทีปของร่างกายคือดวงตา ดังนั้น ถ้าดวงตาของท่านเป็นปกติดี ร่างกายของท่านก็จะสว่างไปด้วย” (มธ 6:23) ดวงตาของเราต้องไม่ละจากแสงสว่างแท้คือพระเยซูเจ้า ศิษย์พระคริสต์ต้องหันดวงใจไปหาพระเจ้าผู้เป็นขุมทรัพย์แท้ ปฏิบัติตามคำแนะนำของพระเยซูเจ้าในการสะสมทรัพย์สมบัติในสวรรค์ ผ่านทางการอธิษฐานภาวนา การรับศีลศักดิ์สิทธิ์ และกิจการดีทุกอย่างที่เราทำเพื่อผู้อื่น

คุณพ่อขวัญ  ถิ่นวัลย์

ID LINE : dondaniele

วัดนักบุญยอแซฟ ดอนทอย-หนองสนุก, สกลนคร

19 มิถุนายน 2025

ที่มาภาพ : https://mjdasma.blogspot.com/2023/06/reflection-for-june-23-friday-of.html

บทข้าแต่พระบิดา บทภาวนาของคริสตชน

 

บทข้าแต่พระบิดา บทภาวนาของคริสตชน

พฤหัสบดี สัปดาห์ที่ 11 เทศกาลธรรมดา

2 คร 11:1-11 มธ 6:7-15

บทอ่านแรก นักบุญเปาโลได้ขอร้องชาวโครินธ์ให้อดทนกับความโง่เขลาของท่าน ซึ่งท่านรู้สึกว่าไม่เหมาะสมที่จะเป็นผู้เผยแพร่ศาสนา เปาโลได้เปรียบเทียบความสัมพันธ์ระหว่างพระเจ้ากับประชาชนของพระองค์เหมือนการแต่งงาน เช่นเดียวกับชาวโครินธ์ที่ได้หมั้นหมายและเป็นคู่ชีวิตของพระคริสตเจ้า ซึ่งพวกเขาจะต้องซื่อสัตย์ต่อพระองค์ เปาโลประกาศข่าวดีของพระเจ้าโดยไม่รับค่าตอบแทนและไม่เป็นภาระแก่ผู้ใด

พระเยซูเจ้าทรงสอนบรรดาศิษย์ถึงวิธีอธิษฐานภาวนา มิใช่ด้วยคำพูดยืดยาวซ้ำซาก แต่ด้วยคำพูดซื่อ ๆ และทรงสอน “บทข้าแต่พระบิดา” แก่บรรดาศิษย์ ซึ่งเป็นบทภาวนาที่แสดงถึงความเป็นบุตรและการเป็นพี่น้องกัน มีพระบิดาเจ้าองค์เดียวกัน ผู้ทราบถึงความต้องการของเราแต่ละคน ทรงสอนเราให้รู้จักให้อภัยกัน แม้เป็นคนบาป อ่อนแอ และบกพร่อง แต่ยังสามารถเรียกพระเจ้าว่าเป็น “บิดาของเรา” ภายใต้เงื่อนไขของการให้อภัย หรือการยกโทษเพื่อนพี่น้องจากส่วนลึกของจิตใจ

บทข้าแต่พระบิดาเป็นบทภาวนาที่สำคัญและบอกให้รู้ว่า “คริสตชนเป็นใคร” ซึ่งแตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากการภาวนาของชาวฟารีสีและคนต่างศาสนา ที่เน้นการพูดยืดยาวและรูปแบบภายนอก เราเริ่มต้นด้วยคำว่า “ข้าแต่พระบิดาของข้าพเจ้าทั้งหลาย” (มธ 6:9) เพื่อเน้นการอธิษฐานภาวนาแบบหมู่คณะที่พระเจ้าทรงเผยแสดงพระองค์ให้เราทราบ ทรงชักนำทุกคนเข้าด้วยกันแบบพี่น้อง และเราตอบรับด้วยความเชื่อ ความวางใจ ความรัก  และการให้อภัย ซึ่งเป็นบทสรุปของพระวรสารทั้งหมด

บทข้าแต่พระบิดาแสดงให้เห็นว่า พระเจ้าเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการทำให้งานไถ่กู้และอาณาจักรสวรรค์ปรากฏเป็นจริงตั้งแต่ในโลกนี้ “พระอาณาจักรจงมาถึง” (มธ 6:10) โดยเฉพาะการให้อภัยความผิดของกันและกัน  “โปรดประทานอภัยแก่ข้าพเจ้า เหมือนข้าพเจ้าให้อภัยแก่ผู้อื่น” (มธ 6:12) ซึ่งเป็นเงื่อนไขสำคัญและเครื่องหมายว่า เราเป็นบุตรของพระเจ้าและเป็นพี่น้องกัน มีพระบิดาเจ้าองค์เดียวกันที่ทรงรักและให้อภัยความผิดของเราเสมอ

พระศาสนจักรให้เราอธิษฐานภาวนา “บทข้าแต่พระบิดา” ในพิธีบูชาขอบพระคุณก่อนรับศีลมหาสนิทเพื่อเตือนใจเราว่า ทุกคนเป็นบุตรของพระบิดาเจ้าองค์เดียวกัน เป็นพี่น้องกันโดยไม่แบ่งแยก และได้ให้อภัยความผิดของกันและกันได้อย่างสนิทใจ ศิษย์พระคริสต์ต้องยอมรับว่า ทุกคนเป็นบุตรของพระบิดาเจ้า เป็นพี่น้องกัน และได้ให้อภัยความผิดของกันและกันแล้ว อีกทั้ง อธิษฐานภาวนาเป็นเสียงเดียวกันกับพระศาสนจักร และร่วมส่วนในคำอธิษฐานภาวนาของพระเยซูเจ้า เพื่อทำให้พระประสงค์ของพระเจ้าสำเร็จไปในชีวิตของเรา

คุณพ่อขวัญ  ถิ่นวัลย์

ID LINE : dondaniele

วัดนักบุญยอแซฟ ดอนทอย-หนองสนุก, สกลนคร

18 มิถุนายน 2025

ภาพ : การสวดสายประคำ, วัดดอนทอย-หนองสนุก, สกลนคร; 2025-5-17

หลักพื้นฐานในการปฏิบัติศาสนกิจ

 

หลักพื้นฐานในการปฏิบัติศาสนกิจ

พุธ สัปดาห์ที่ 11 เทศกาลธรรมดา

2 คร 9:6-11 มธ 6:1-6, 16-18

บทอ่านแรก นักบุญเปาโลยังคงเตือนชาวโครินธ์ให้มีใจกว้าง โดยอุปมาดังการหว่านเมล็ดพืช ผู้หว่านเพียงเล็กน้อยก็จะเก็บเกี่ยวได้น้อย ผู้หว่านมากก็จะเก็บเกี่ยวได้มาก อีกทั้งต้องให้โดยความเต็มใจ แล้วพระเจ้าจะประทานแก่เราอย่างอุดม เมื่อเราได้รับมากขึ้นก็สามารถแบ่งปันกับผู้อื่นได้มากขึ้น ประการสำคัญพระเจ้าจะประทานและตอบแทนพวกเขาอย่างเหลือเฟือ เข้าทำนอง “ยิ่งให้มากก็จะได้รับมาก”

พระเยซูเจ้าทรงให้ความสำคัญกับธรรมบัญญัติและการทำให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ด้วยการสอนจิตตารมย์ เป้าหมาย และจุดประสงค์ของธรรมบัญญัติแต่ละข้อ พระวรสารวันนี้ พระองค์ได้ตรัสกับบรรดาศิษย์ถึงหลักปฏิบัติพื้นฐานทางศาสนา 3 ประการ ได้แก่ การให้ทาน การอธิษฐานภาวนา และการจำศีลอดอาหาร ซึ่งชาวยิวถือว่าเป็นกิจการดีทางศาสนา และเป็นเครื่องหมายสำคัญของผู้ศักดิ์สิทธิ์น่าเคารพ ซึ่งต้องไม่กระทำเพื่ออวดตนเอง แต่เพื่อสรรเสริญพระเจ้า

การให้ทาน เกี่ยวพันกับความสัมพันธ์ของเรากับหมู่คณะ พระเยซูเจ้าทรงสอนในลักษณะตรงข้ามกับวิธีปฏิบัติของบรรดาธรรมาจารย์และชาวฟาริสี ที่ชอบเป่าแตรไปข้างหน้าในศาลาธรรมและตามถนน เพื่อหวังให้คนเห็นและได้รับคำชม “ส่วนท่าน เมื่อให้ทาน อย่าให้มือซ้ายของท่านรู้ว่ามือขวากำลังทำสิ่งใด” (มธ 6:3) การให้ทานต้องมาจากหัวใจซึ่งรักพระเจ้าและเพื่อนมนุษย์ ที่กำลังเดือดร้อนและต้องการความช่วยเหลือ เป็นกิจการแห่งความรักซึ่งเป็นหน้าที่ยิ่งใหญ่ของศิษย์พระคริสต์

การอธิษฐานภาวนา ต้องเป็นเรื่องส่วนตัวและประสบการณ์ความสัมพันธ์ระหว่างเรากับพระเจ้า เป็นสำนึกแห่งความต่ำต้อยไม่เหมาะสมของตนเมื่ออยู่ต่อหน้าพระองค์ (มธ 6:6)  ต้องไม่ทำเหมือนบรรดาธรรมาจารย์และชาวฟาริสี ที่ชอบยืนอธิษฐานภาวนาในศาลาธรรมและตามลานสาธารณะเพื่อให้คนเห็น การจำศีลอดอาหาร ต้องช่วยให้เรารู้จักบังคับตนเองและมีวินัย โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยผู้ประสบความทุกข์ยากเดือดร้อน ประการสำคัญ “การอดอาหารที่ปราศจากการเปลี่ยนแปลงตนเอง ไม่เป็นที่พอพระทัยพระเจ้า”

พระเยซูเจ้าทรงตำหนิบรรดาธรรมาจารย์และชาวฟาริสี เพราะพวกเขาปฏิบัติศาสนกิจเพื่ออวดคนอื่น พวกเขาทำความดีเพื่อหวังได้รับคำชม มิใช่มาจากความศรัทธาและหัวใจที่รักพระเจ้าและเพื่อนมนุษย์อย่างแท้จริง ศิษย์พระคริสต์ต้องปฏิบัติศาสนกิจเพื่อพระเกียรติของพระเจ้า ทั้งการให้ทาน การอธิษฐานภาวนา และการจำศีลอดอาหาร ต้องกระทำด้วยความรักที่มีต่อพระเจ้าและต่อเพื่อนมนุษย์ เพื่อสรรเสริญพระเจ้าและเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน

คุณพ่อขวัญ  ถิ่นวัลย์

ID LINE ; dondaniele

วัดนักบุญยอแซฟ ดอนทอย-หนองสนุก, สกลนคร

17 มิถุนายน 2025

ภาพ : การฉลองครบรอบ 19 ปีวิถีชุมชนวัด, อาสนวิหารอัครเทวดามีคาแอล ท่าแร่, สกลนคร; 2025-6-14

มาตรฐานความรักแบบคริสตชน

 

มาตรฐานความรักแบบคริสตชน

อังคาร สัปดาห์ที่ 11 เทศกาลธรรมดา ปีคี่

2 คร 8:1-9 มธ 5:43-48

บทอ่านแรก นักบุญเปาโลได้พูดถึงการให้ความช่วยเหลือพระศาสนจักรต่าง ๆ ว่า เป็นกิจการแห่งความรักและแสดงให้เห็นถึงความสามัคคีกัน เพื่อกระตุ้นให้ชาวโครินธ์มีความใจกว้างในการแบ่งปันสิ่งที่มีกับผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือ โดยหวังว่าชาวโครินธ์จะมีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่เช่นเดียวกับชาวมาซิโดเนีย โดยเชื่อมโยงกับพระเยซูเจ้า แม้พระองค์ทรงร่ำรวย แต่ก็ทรงเป็นคนยากจนเพราะเห็นแก่พวกเขา และทำให้พวกเขาร่ำรวยขึ้นและเป็นอิสระจากทรัพย์สมบัติใด ๆ

พระวรสารวันนี้ พระเยซูเจ้าได้วางกรอบสำหรับผู้เป็นศิษย์ของพระองค์ เพื่อการดำเนินชีวิตในความรักครบครัน โดยเฉพาะความรักต่อเพื่อนมนุษย์ ซึ่งสามารถเข้าใจได้ใน 2 ลักษณะคือ การทำดีต่อทุกคนและต้อนรับทุกคนโดยไม่แบ่งแยก แต่ความรักยิ่งใหญ่กว่าคือ การรักศัตรู มาตรฐานความรักแบบคริสตชน ซึ่งเห็นได้อย่างเด่นชัดในชีวิตของพระเยซูเจ้า ในแบบอย่างแห่งความรักของพระองค์บนไม้กางเขน

การรักศัตรูเป็นมาตรฐานของความรักแบบคริสตชน เพราะสะท้อนความรักของพระเจ้าที่ทรงรักทุกคนโดยไม่แบ่งแยก ไม่มีเงื่อนไข และไร้ขีดจำกัด แต่ธรรมชาติและความอ่อนแอตามประสามนุษย์ ทำให้เรารักศัตรูได้ยาก เรามักเลือกรักเฉพาะผู้ที่รักเราและทำดีต่อเรา พระเยซูเจ้าทรงเข้าใจและรู้ถึงความยากลำบากนี้ ทรงท้าทายเราให้ออกจากตัวเองเพื่อมุ่งสู่ความดีบริบูรณ์เยี่ยงพระบิดาเจ้าสวรรค์ “พระองค์โปรดให้ดวงอาทิตย์ของพระองค์ขึ้นเหนือคนดีและคนชั่ว โปรดให้ฝนตกเหนือคนชอบธรรมและคนอธรรม” (มธ 5:45)

การรักศัตรูที่พระเยซูเจ้าสอนส่งผลดีต่อผู้ปฏิบัติชัดเจน เพราะความเกลียดชังเป็นการทำลายตัวเองมากกว่าทำลายศัตรู ทำให้เราวุ่นวายใจอยู่ไม่เป็นสุข ความเกลียดชังไม่ได้ทำอะไรศัตรูของเราเลย “กระสุนแห่งความเกลียดชังและแค้นเคืองจะทำลายศัตรูของเราได้ เมื่อมันทะลุผ่านร่างของเราเท่านั้น” เราสามารถเลียนแบบพระบิดาเจ้าได้โดยการเลียนแบบพระเยซูเจ้า ในความนอบน้อมเชื่อฟังต่อพระบิดาจนถึงที่สุดคือ ความตายบนไม้กางเขนและทรงร้องขอพระบิดาให้อภัยผู้ตรึงพระองค์ (ลก 23:34)

เราต้องพยายามดำเนินชีวิตเยี่ยงพระบิดาเจ้าสวรรค์ผู้ทรงรักทั้งคนดีและคนชั่ว คนชอบธรรมและคนอธรรม ความรักเป็นพื้นฐานซึ่งนำไปสู่ความครบครันเหมือนพระบิดาเจ้าสวรรค์ ศิษย์พระคริสต์ต้องเป็นคนดีบริบูรณ์เยี่ยงพระบิดาเจ้าสวรรค์ ในการรักทุกคนโดยไม่แบ่งแยก ไม่มีเงื่อนไข และไร้ขีดจำกัด ทัศนคติและกิจการทุกอย่างที่เราทำต้องเลียนแบบพระเยซูเจ้าในความรักไม่มีเงื่อนไข ความใจดีมีเมตตา และให้อภัยไม่สิ้นสุด

คุณพ่อขวัญ  ถิ่นวัลย์

ID LINE : dondaniele

วัดนักบุญยอแซฟ ดอนทอย-หนองสนุก, สกลนคร

16 มิถุนายน 2025

ภาพ : วิถีชุมชนวัด, อาสนวิหารอัครเทวดามีคาแอล ท่าแร่, สกลนคร; 2025-6-14

ต้องตอบแทนความชั่วด้วยความดี

 

ต้องตอบแทนความชั่วด้วยความดี

จันทร์ สัปดาห์ที่ 11 เทศกาลธรรมดา

2 คร 6:1-10 มธ 5:38-42

บทอ่านแรก นักบุญเปาโลเรียกร้องให้ชาวโครินธ์ทำงานร่วมกัน และกระตุ้นพวกเขาให้แน่ใจในพระคุณและความรักของพระเจ้า โดยชี้ให้เห็ฯว่า เวลาที่เหมาะสมและวันแห่งความรอดสำหรับพวกเขามาถึงแล้ว พวกเขาจะได้เป็นหนึ่งเดียวกับพระเจ้า เปาโลได้พิสูจน์ให้เห็นความน่าเชื่อถือในฐานะผู้รับใช้ของพระเจ้า ท่ามกลางความทุกข์ยาก ความขัดสน ความคับแค้น การถูกโบยตี การถูกจองจำ และความยากลำบากต่าง ๆ แต่ยังคงเชื่อมั่นในความรักที่พระเยซูเจ้ามีต่อท่านอย่างเต็มเปี่ยม

กฎเกณฑ์พื้นฐานของสังคมยุคโบราณคือ การแก้แค้น ในแบบ “ตาต่อตา ฟันต่อฟัน” ซึ่งถือเป็นความยุติธรรมของยุคสมัยที่เท่าเทียมและเสมอภาค ไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบ พระวรสารวันนี้ พระเยซูเจ้าได้ปฏิรูปหลักคำสอนและวิธีปฏิบัติของยุคสมัย ด้วยการนำเสนอ “กฎแห่งความรักและการให้อภัย” ทั้งนี้เพราะพระองค์ตระหนักว่า ความชั่วไม่สามารถเอาชนะได้ด้วยความรุนแรงและการแก้แค้น แต่ด้วย “ความดี ความรัก และการให้อภัย”

พระเยซูเจ้าทรงสอนเราให้รักเพื่อนบ้านและทำดีต่อผู้ทำไม่ดีต่อเรา ทรงสอนให้เรามองผู้อื่นในฐานะบุคคล ที่เราสามารถช่วยเหลือทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ เราต้องมีความใจกว้างกับพระเจ้าและเพื่อนมนุษย์ ทรงบอกให้เราทำมากกว่าสิ่งที่เขาร้องขอ เราต้องไม่คิดคำนวณสิ่งที่เราให้เป็นตัวเงินโดยเฉพาะกับพระเจ้า เลียนแบบอย่างพระเจ้าผู้ตอบแทนความชั่วด้วยความดี เมื่อเราเรียนรู้ที่จะให้อภัยนั่นคือจุดเริ่มต้นของสันติสุข “ผู้ที่ให้อภัยยุติความขัดแย้ง” (สุภาษิตแอฟริกา)

พระเยซูเจ้าทรงวางแนวทางสำหรับศิษย์ของพระองค์บนพื้นฐานของ “ความรักและการให้อภัย” ในการปฏิบัติต่อผู้ทำไม่ดีต่อเรา ที่ทำให้เราพบกับความลำบากเดือดร้อน หรือไม่มีความสุข พระองค์ทรงบอกเราให้รักซึ่งกันและกันและให้อภัยกันด้วยใจกว้าง ตอบแทนความชั่วด้วยความดี แม้เป็นเรื่องยากลำบากในทางปฏิบัติ แต่อย่างน้อยเราต้องไม่ถือโทษโกรธเคือง หรือผูกพยาบาท นี่คือสิ่งท้าทายเราในยุคปัจจุบัน

พระเยซูเจ้าทรงเรียกร้องเราให้รักเพื่อนมนุษย์โดยปราศจากเงื่อนไข ต้องรักแบบไร้ขีดจำกัดและไม่มียกเว้น “ถ้าท่านมีความรักต่อกัน ทุกคนจะรู้ว่าท่านเป็นศิษย์ของเรา” (ยน 13:35) มาตรฐานความรักแบบคริสตชนที่ทรงกำหนดและทำให้เห็นด้วยชีวิตของพระองค์คือ “การรักและการให้อภัยศัตรู” ศิษย์พระคริสต์ต้องรักและให้อภัยผู้ทำไม่ดีต่อเรา ตอบแทนความชั่วด้วยความดี ความรัก และการให้อภัย มีแต่สิ่งนี้เท่านั้นที่นำความผาสุกและสันติสุขแท้จริงมาสู่เรา

คุณพ่อขวัญ  ถิ่นวัลย์

ID LINE : dondaniele

วัดนักบุญยอแซฟ ดอนทอย-หนองสนุก, สกลนคร

15 มิถุนายน 2025

ภาพ : เด็กคำสอน, วัดดอนทอย-หนองสนุก, สกลนคร; 2025-6-13

สารวัดดอนทอย-หนองสนุก, ปีที่ 3 ฉบับที่ 107

สารวัดนักบุญยอแซฟ ดอนทอย-หนองสนุก

ปีที่ 3  ฉบับที่ 107  อาทิตย์ที่  15  มิถุนายน 2025 (2568) :  http.//dondaniele.blogspot.com

เลขที่ 103 หมู่ที่ 6 ตำบลสามัคคีพัฒนา อำเภออากาศอำนวย จังหวัดสกลนคร 47170È086-231-3231

สมโภชพระตรีเอกภาพ

เด็กคำสอนดอนทอย-หนองสนุกร่วมงานฉลองศาสนนามพระคุณเจ้าอันตน วีระเดช ใจเสรี และวิถีชุมชนวัดที่อาสนวิหารอัครเทวดามีคาแอล ท่าแร่ เสาร์ที่ 14 มิถุนายน 2025

พี่น้องที่รัก วันนี้เราสมโภชพระตรีเอกภาพ พระเจ้าสามพระบุคคล พระบิดา พระบุตร และพระจิตประทับอยู่ในเรา ธรรมล้ำลึกเรื่องพระตรีเอกภาพได้รับการประกาศจากสังคายนาสากลที่เมืองนิเชอาและคอนสแตนติโนเปิล ถือเป็นความเชื่อพื้นฐานและข้อความเชื่อสำคัญที่สุดในคริสตศาสนา กล่าวคือ “มีพระเจ้าองค์เดียว มีสามพระบุคคล พระบิดา พระบุตร และพระจิต แต่ละบุคคลต่างเป็นพระเจ้า แต่ยังคงมีเพียงพระเจ้าองค์เดียว” (C.C.C. #234, #253-256)

ธรรมล้ำลึกเรื่องพระตรีเอกภาพ สามารถเข้าใจได้อย่างถ่องแท้ด้วยหัวใจเมื่อเราเจริญชีวิตในความรักต่อกัน เวลาที่เรารักกันพระเจ้าประทับอยู่กับเราและเราอยู่ในพระเจ้า การตระหนักถึงการประทับอยู่ของพระเจ้าในเราและผู้อื่น ทำให้เรามีกำลังเข้มแข็งในการเผชิญปัญหาต่าง ๆ ในชีวิต และปฏิบัติต่อกันบนพื้นฐานแห่งความรัก ความเคารพ และการให้เกียรติกัน

คณะครูและนักเรียนโรงเรียนบ้านดอนทอยร่วมพิธีบูชาขอบพระคุณเปิดปีการศึกษา 2568 และรับแจกสมุด พฤหัสบดีที่ 12 มิถุนายน 2025

         บทอ่านที่หนึ่ง หนังสือสุภาษิตได้สะท้อนให้เห็นปรีชาญาณของพระเจ้าที่เป็นดังบุคคล นั่นคือพระเจ้าทรงสร้างจักรวาลด้วยพระปรีชาญาณอันไม่มีขอบเขต จักรวาลเป็นผลงานจากพระหัตถ์ของพระองค์ ซึ่งชาวยิวในสมัยโบราณได้มีประสบการณ์เกี่ยวกับปรีชาญาณของพระเจ้า “ข้าแต่พระเจ้าของข้าพเจ้า พระนามของพระองค์เลื่องลือไปทั่วทั้งธรณี”

บทอ่านที่สอง จดหมายของนักบุญเปาโลถึงชาวโรมสอนเราว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เรารู้ด้วยความเชื่อว่า เรามีสันติสุขกับพระเจ้าพระบิดาผ่านทางพระเยซูเจ้า และความรักของพระเจ้าได้หลั่งไหลมาสู่ดวงใจของเรา โดยทางพระจิตเจ้าซึ่งพระองค์ประทานให้แก่เรา

พระวรสาร พระเยซูเจ้า พระบุตรของพระเจ้าได้เน้นบทบาทของพระจิตเจ้า ในความสัมพันธ์ที่พระองค์ทรงมีกับพระเจ้าพระบิดาและพระจิตเจ้า พระองค์ทรงเปิดเผยให้เราได้ทราบถึงหน้าที่ซึ่งต่างกันของพระเจ้าสามพระบุคคล พระบิดาในฐานะพระผู้สร้าง พระบุตรในงานไถ่กู้ การคืนดีและการช่วยให้รอด และพระจิตในงานนำความจริงและการทำให้ศักดิ์สิทธิ์

พี่น้องดอนทอย-หนองสนุกร่วมเลี้ยงอาหารพระสงฆ์โอกาสเข้าเงียบ พุธที่ 11 มิถุนายน 2025

°ข่าวสารและประชาสัมพันธ์

1.          ขอขอบคุณพี่น้องที่ไปร่วมพิธีบูชาขอบพระคุณฉลอง น.อันตน ศาสนนามของพระคุณเจ้าวีระเดช ใจเสรี และฉลองครบรอบ 19 ปี วิถีชุมชนวัด (BECs) ที่อาสนวิหารอัครเทวดามีคาแอล ท่าแร่ เสาร์ที่ 14 มิถุนายน 2025

2.          เสาร์ที่ 21 มิถุนายน 2025 เชิญร่วมพิธีบวชพระสงฆ์ของสังฆานุกรยูดา ธาราดล ดงยะโสภา คณะแห่งพระเยซูเจ้า (เยสุอิต) โดยพระอัครสังฆราชอันตน วีระเดช ใจเสรี ที่วัดพระคริสตราชา ช้างมิ่ง

3.          อาทิตย์ที่ 22 มิถุนายน 2025 สมโภชพระวรกายและพระโลหิตพระคริสตเจ้า และรับศีลมหาสนิทครั้งแรก

4.          เสาร์ที่ 12 กรกฎาคม 2025 เชิญเลขาธิการและผู้แทนสภาภิบาลวัดละ 2 คน เข้าร่วมการประชุมสภาภิบาลวัดและกลุ่มคาทอลิกต่าง ๆ ในอัครสังฆมณฑลทลฯ ที่โรงเรียนเซนต์ยอแซฟสกลนคร

5.          ขอบคุณ คุ้มเจริญพรที่รับผิดชอบพิธีกรรมและทำความสะอาดวัดสัปดาห์นี้ คุ้มที่รับผิดชอบสัปดาห์ต่อไป  คุ้มตะวันสีทอง

6.          เงินทาน : เสาร์ 1,375.- บาท, อาทิตย์ 2,380.- บาท และยุวธรรมทูต 1,036.- บาท; รายจ่าย 1) ทาน Bonus Pastor 1,000.-บาท,  2) ค่าตอบแทนซิสเตอร์ 2,000.- บาท และ 3) เครื่องตัดหญ้าไฟฟ้า Onsen พร้อมอุปกรณ์ 2,450.- บาท

7.          เงินสมทบสร้างวัด  ตั้งแต่ 8-14 มิถุนายน 2025 ได้รับเงินที่พี่น้องทำบุญและเงินโอนเข้าบัญชีโครงการก่อสร้างวัด เป็นจำนวน 12,075.- บาท

† พิธีบูชาขอบพระคุณและวันฉลองในรอบสัปดาห์†

วัน	ที่	เวลา	ผู้ขอ/วันฉลอง	จุดประสงค์
อาทิตย์	15	06.30 น.	สมโภชพระตรีเอกภาพ	†สุขสำราญ พี่น้องดอนทอย-หนองสนุก
จันทร์	16	06.00 น.	สัปดาห์ที่ 11  เทศกาลธรรมดา
อังคาร	17	06.30 น.	สัปดาห์ที่ 11  เทศกาลธรรมดา
พุธ	18	06.00 น.	สัปดาห์ที่ 11  เทศกาลธรรมดา
พฤหัสบดี	19	06.00 น.	สัปดาห์ที่ 11  เทศกาลธรรมดา
ศุกร์	20	06.00 น.	สัปดาห์ที่ 11  เทศกาลธรรมดา
เสาร์	21	06.00 น.	ระลึกถึง น.หลุยส์ คอนซากา นักบวช

 

 

เด็กคำสอนดอนทอย-หนองสนุกร่วมงานฉลองศาสนนามพระคุณเจ้าอันตน วีระเดช ใจเสรี และวิถีชุมชนวัดที่อาสนวิหารอัครเทวดามีคาแอล ท่าแร่เสาร์ที่ 14 มิถุนายน 2025