วันเสาร์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2568

สารวัดดอนทอย-หนองสนุก, ปีที่ 3 ฉบับที่ 120

สารวัดนักบุญยอแซฟ ดอนทอย-หนองสนุก

ปีที่ 3  ฉบับที่ 120  อาทิตย์ที่  14  กันยายน 2025 (2568) :  http.//dondaniele.blogspot.com

เลขที่ 103 หมู่ที่ 6 ตำบลสามัคคีพัฒนา อำเภออากาศอำนวย จังหวัดสกลนคร 47170È086-231-3231

ฉลองเทิดทูนไม้กางเขน

เจ้าหน้าที่คอมีเซียมแม่พระสายจำพวกท่าแร่ เยี่ยมคูเรียแม่พระฟาติมา อาทิตย์ที่ 7 กันยายน 2025

พี่น้องที่รัก วันฉลองเทิดทูนไม้กางเขนที่เราฉลองวันที่ 14 กันยายนของทุกปี เป็นการเทิดเกียรติไม้กางเขนศักดิ์สิทธิ์ที่พระเยซูเจ้าได้สิ้นพระชนม์ด้วยความรักต่อมนุษย์ เพื่อนำความรอดพ้นมาสู่โลก ไม้กางเขนของพระเยซูเจ้าจึงเป็นเครื่องหมายแห่งความรักที่พระเจ้าทรงช่วยเราให้รอด

การฉลองเทิดทูนไม้กางเขนเกิดขึ้นในศตวรรษที่ 4 เริ่มจากการที่พระนางเฮเลนา (นักบุญเฮเลนา) ได้ค้นพบไม้กางเขนของพระเยซูเจ้าอย่างอัศจรรย์ ขณะไปแสวงบุญที่เยรูซาเลม เมื่อ 14 กันยายน 326 การฉลองนี้เป็นที่แพร่หลายในพระศาสนจักรตะวันตกในศตวรรษที่ 7 หลังจากจักรพรรดิเฮราคลิอุสแห่งคอนสแตนติโนเปิล ได้ยึดครองกางเขนของพระเยซูเจ้าคืนจากพวกเปอร์เซีย และนำกลับกรุงเยรูซาเล็มอย่างสง่า

เจ้าหน้าที่คอมีเซียมแม่พระสายจำพวกท่าแร่เยี่ยมคูเรียแม่พระฟาติมา อาทิตย์ที่ 7 กันยายน 2025
       บทอ่านแรก
หนังสือกันดารวิถีได้เล่าเหตุการณ์ชาวยิวบ่นว่าพระเจ้าและโมเสสที่พาพวกเขาออกมาตายในถิ่นทุรกันดารที่ไม่มีน้ำและอาหาร ทำให้พระเจ้าส่งงูพิษมากัดชาวอิสราเอลตายเป็นจำนวนมาก และพวกเขาได้ร้องขอโมเสสให้ทูลขอพระเจ้าให้ช่วยเหลือ และพระเจ้าทรงรักษาชาวอิสราเอลที่บ่นพึมพำผ่านทางงูทองเหลือง

บทอ่านที่สอง เปาโลได้เตือนชาวฟิลิปปีว่า พระเยซูทรงมีธรรมชาติพระเจ้าที่ “ทรงรับสภาพดุจทาส เป็นมนุษย์ดุจเรา” และทรงถ่อมพระองค์จนถึงที่สุดคือการยอมรับความตายบนไม้กางเขน พระเจ้าทรงเทิดทูนพระองค์ขึ้นสูงส่ง ที่ทุกคนในสวรรค์และบนแผ่นดินจะย่อเขาลงนมัสการพระองค์

พระวรสาร พระเยซูเจ้าทรงตอบคำถามที่นิโคเดมัสตั้งขึ้น โดยยกตัวอย่างเมื่อชาวอิสราเอลอยู่ในถิ่นทุรกันดาร งูทองเหลืองที่พระเจ้าทรงบัญชาให้โมเสสยกขึ้น ช่วยชาวอิสราเอลที่ถูกงูกัดให้พ้นจากความตายเมื่อมองดูงู (นรม. 21:4-9) จากนั้นพระเยซูเจ้าทรงอธิบายว่า พระองค์จะทรงช่วยโลกโดยการสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขนอย่างไร

กิจกรรมกลุ่มผู้สูงอายุดอนทอย-หนองสนุก สูงวัยอย่างมีคุณค่า จันทร์ที่ 8 กันยายน 2025
°
ข่าวสารและประชาสัมพันธ์

1.          ประกาศบวชพระสงฆ์ สังฆานุกรซีมอน ชาญณรงค์ ผันพลี สัตบุรุษวัดนักบุญยอแซฟ ดอนทอย-หนองสนุก กับ สังฆานุกรยูแซอาน บุ่ย วัน ฮว่า คณะนักพรตซิสเตอร์เซียน เสาร์ที่ 18 ตุลาคม 2025 ณ สักการสถานพระมารดาแห่งมรณสักขี สองคอน หากใครเห็นว่าทั้งสองไม่เหมาะสมและมีข้อขัดขวาง ให้แจ้งพระสังฆราชทราบ ประกาศครั้งที่ 1

2.          ขอบคุณพี่น้องที่มาช่วยกันขัดสีและซ่อมเกวียนสำหรับใช้แห่ วันนี้หลังมิสซาเชิญมาช่วยกันทำต่อให้เสร็จ

3.          จันทร์ที่ 30 กันยายน 2025 เวลา 19.00 น. พิธีบูชาขอบพระคุณเปิดเดือนแม่พระแห่งสายประคำที่วัด

4.          เสาร์ที่ 11 ตุลาคม 2025 เวลา 10.00 น. เชิญร่วมฉลองบ้านเณรแม่พระฟาติมาท่าแร่

5.          ขอบคุณ คุ้มตะวันสีทองที่รับผิดชอบพิธีกรรมและทำความสะอาดวัดสัปดาห์นี้ คุ้มที่รับผิดชอบสัปดาห์ต่อไปคุ้มเจริญสุก

6.          เงินทาน : เสาร์ 3,334.- บาท, อาทิตย์ 3,461.- บาท, ยุวธรรมทูต    1,001.- บาท; รายจ่าย 1) ค่าตอบแทนซิสเตอร์ 2,000.- บาท, 2) แผ่นปังและเหล้าองุ่น 1,460.- บาท,

7.          เงินสมทบสร้างวัด  ตั้งแต่ 7-13 กันยายน 2025 ได้รับเงินที่พี่น้องทำบุญและเงินโอนเข้าบัญชีโครงการก่อสร้างวัด เป็นจำนวน 10,220.- บาท

บัญชีรายรับและรายจ่ายการก่อสร้างวัด เสาร์ที่ 13 กันยายน 2025

ความคืบหน้างานก่อผนังวัดใหม่ เสาร์ที่ 13 กันยายน 2025

พิธีบูชาขอบพระคุณและวันฉลองในรอบสัปดาห์

วัน

ที่

เวลา

ผู้ขอ/วันฉลอง

จุดประสงค์

อาทิตย์

14

06.30 น.

ฉลองเทิดทูนไม้กางเขน

†สุขสำราญ พี่น้องดอนทอย-หนองสนุก

จันทร์

15

06.00 น.

ระลึกถึงแม่พระมหาทุกข์

 

อังคาร

16

06.30 น.

ระลึกถึง น.คอร์เนเลียสและ น.ชีเปรียน

 

พุธ

17

06.00 น.

สัปดาห์ที่ 24 เทศกาลธรรมดา

 

พฤหัสบดี

18

06.00 น.

สัปดาห์ที่ 24 เทศกาลธรรมดา

 

ศุกร์

19

06.00 น.

สัปดาห์ที่ 24 เทศกาลธรรมดา

 

เสาร์

20

06.00 น.

ระลึกถึง น.อันดรูว์ กิม เตก็อน พระสงฆ์

 

 

ถวายเกียรติแด่แม่พระ เสาร์ที่ 13 กันยายน 2025




ช่วยกันขัดสีและซ่อมแซมเกวียนสำหรับใช้แห่พระสงฆ์ลูกวัด เสาร์ที่ 13 กันยายน 2025




 

เครื่องหมายแห่งความรักและความรอดนิรันดร

 

เครื่องหมายแห่งความรักและความรอดนิรันดร

14 กันยายน

ฉลองเทิดทูนไม้กางเขน

ของพระเยซูเจ้า

กดว 21:4-9

ฟป 2:6-11

ยน 3:13-17

บทนำ

ปัจจุบันไม้กางเขนได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของคริสตชนทั่วโลกที่เราพบเห็นอยู่ทั่วไป เช่น บนยอดวัด หลุมฝังศพ หรือซุ้มประตูทางเข้าหมู่บ้านคริสตชน เมื่อเราเห็นใครทำเครื่องหมายกางเขน เช่น นักกีฬาทำเครื่องหมายกางเขนก่อนลงสนาม หรือเมื่อเริ่มการแข่งขัน เราทราบทันทีว่า เขาเป็นคริสตชน นอกนั้น ไม้กางเขนยังได้กลายเป็นเครื่องประดับที่แพร่หลายซึ่งผู้คนสวมใส่ตามแฟชั่น อาทิ สร้อยคอ ต่างหู ที่เราพบเห็นกันทั่วไปในหมู่ดารา นักแสดง นักร้อง แม้พวกเขาจะไม่ได้เป็นคริสตชนก็ตาม

วันฉลองเทิดทูนไม้กางเขนที่เราฉลองวันที่ 14 กันยายนของทุกปี เป็นการเทิดเกียรติไม้กางเขนศักดิ์สิทธิ์ที่พระเยซูเจ้าได้สิ้นพระชนม์ด้วยความรักต่อมนุษย์ เพื่อนำความรอดพ้นมาสู่โลก ไม้กางเขนของพระเยซูเจ้าจึงเป็นเครื่องหมายแห่งความรักที่พระเจ้าทรงช่วยเราให้รอด การฉลองเทิดทูนไม้กางเขนเกิดขึ้นในศตวรรษที่ 4 เริ่มจากการที่พระนางเฮเลนา (นักบุญเฮเลนา) พระมารดาของจักรพรรดิคอนสแตนตินได้ค้นพบไม้กางเขนของพระเยซูเจ้าอย่างอัศจรรย์ ขณะไปแสวงบุญที่เยรูซาเลม เมื่อ 14 กันยายน 326

ต่อมาภายหลังจักรพรรดิคอนสแตนตินได้สร้างวิหารขึ้น 2 หลัง บนเนินกัลวารีโอและ ณ สถานที่ฝังพระศพของพระเยซูเจ้า และโปรดให้มีการเฉลิมฉลองวันที่ 13 และ 14 กันยายน ส่วนการฉลองนี้เป็นที่แพร่หลายในพระศาสนจักรตะวันตกในศตวรรษที่ 7 หลังจากจักรพรรดิเฮราคลิอุสแห่งคอนสแตนติโนเปิล ได้ยึดครองกางเขนของพระเยซูเจ้าคืนจากพวกเปอร์เซีย และนำกลับกรุงเยรูซาเล็มอย่างสง่า ปัจจุบันชิ้นส่วนไม้กางเขนของพระเยซูเจ้าเก็บรักษาไว้ที่วิหารกางเขนศักดิ์สิทธิ์ที่กรุงโรม ประเทศอิตาลี

 

1.        เครื่องหมายแห่งความรักและความรอดนิรันดร

พระวรสารวันนี้พระเยซูเจ้าตรัสถึงการที่พระองค์จะถูกยกขึ้นบนไม้กางเขน เพื่อช่วยเราให้รอดพ้น โดยอ้างถึงเหตุการณ์ที่โมเสสได้ยกรูปงูขึ้นในถิ่นทุรกันดาร การถูกยกขึ้นบนไม้กางเขนของพระองค์แสดงให้ทุกคนเห็นถึงความรักยิ่งใหญ่ของพระเจ้าที่มีต่อมนุษย์ ดังที่นักบุญยอห์นบอกเราว่า “พระเจ้าทรงรักโลกอย่างมากจึงประทานพระบุตรเพียงพระองค์เดียวของพระองค์ เพื่อทุกคนที่มีความเชื่อในพระบุตรจะไม่พินาศแต่จะมีชีวิตนิรันดร” (ยน 3:16) ความรักนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข หรือคุณความดี แต่เป็นของขวัญที่พระเจ้าประทานให้อย่างอิสระแก่ทุกคนที่เลือกที่จะรับ

ในอดีตไม้กางเขนคือเครื่องประหารที่ชาวโรมันใช้ประหารนักโทษอุฉกรรจ์ ไม้กางเขนจึงเป็นสัญลักษณ์แห่งความทรมาน ความตาย ความพ่ายแพ้ และการดูหมิ่นเหยียดหยาม ที่ทุกคนหวาดกลัวและขยะแขยง พระเยซูเจ้าได้เปลี่ยนเครื่องหมายนี้ให้กลายเป็นเครื่องหมายแห่งความรักและความรอดนิรันดร ด้วยการรับทนทรมาน ถูกตรึงบนไม้กางเขน สิ้นพระชนม์ และกลับคืนพระชนม์ชีพ ไม้กางเขนจึงเป็นเครื่องหมายที่เตือนเราให้ระลึกถึงความรักยิ่งใหญ่ของพระเจ้า และความรอดนิรันดรที่พระเยซูเจ้านำมาสู่โลก ผ่านทางการมอบชีวิตของพระองค์เพื่อเราบนไม้กางเขน

ไม้กางเขนยังเตือนเราให้ระลึกถึงชัยชนะของพระเยซูเจ้าเหนือบาปและความตาย ผ่านทางการสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขนและการกลับคืนพระชนม์ชีพ พระเยซูเจ้าทรงชนะความตายและมอบชีวิตใหม่ให้แก่เรา ไม้กางเขนจึงเป็นเครื่องหมายแห่งชัยชนะและความรักที่ช่วยให้รอดของพระเจ้าสำหรับเรา นอกนั้น ไม้กางเขนยังเป็นเครื่องหมายแห่งการให้อภัย ซึ่งพระเยซูเจ้าทรงกระทำสิ่งนี้ในห้วงเวลาที่กำลังทรมานอย่างแสนสาหัสบนไม้กางเขน ด้วยการวอนขอพระบิดาให้อภัยผู้ที่ประหารพระองค์ “พระบิดาเจ้าข้า โปรดอภัยความผิดแก่เขาเถิด เพราะเขาไม่รู้ว่ากำลังทำอะไร” (ลก 23:34)

2.        บทเรียนสำหรับเรา

การฉลองเทิดทูนไม้กางเขนและพระวาจาของพระเจ้าวันนี้ ได้บทเรียนสำคัญสำหรับเราหลายประการในการนำไปปฏิบัติในชีวิต

ประการแรก  เราต้องเทิดทูนไม้กางเขน ด้วยการอธิษฐานภาวนาและทำสำคัญมหากางเขน เพื่อเตือนใจเราถึงความรักยิ่งใหญ่ที่พระเจ้าทรงมีต่อเรา และตระหนักถึงคุณค่าที่พระเยซูทรงจ่ายเพื่อความรอดนิรันดรของเราบนไม้กางเขน พระเยซูเจ้าได้ชนะบาปและความตายแล้ว มีเพียงพระองค์เท่านั้นที่สามารถช่วยเราให้ได้รับชัยชนะและเดินในหนทางที่ถูกต้อง อีกทั้ง เราต้องแบกไม้กางเขนของตนทุกวันติดตามพระเยซูเจ้าด้วยใจยินดี

ประการที่สอง เราต้องมีความสุภาพถ่อมตน ไม้กางเขนของพระเยซูเจ้าสะท้อนให้เห็นถึงความสุภาพถ่อมตนจนถึงที่สุดของพระองค์เพื่อช่วยเราให้รอด เราในฐานะศิษย์ของพระองค์ต้องมีใจสุภาพถ่อมตน ปฏิเสธตัวเอง ไม่ยึดตัวเองเป็นที่ตั้ง หรือสำคัญผิดว่า ตัวเองคือความถูกต้อง แต่ให้พระเจ้าเป็นศูนย์กลางของชีวิต มีแต่พระเจ้าเท่านั้นที่ยิ่งใหญ่และสำคัญที่สุด “พระองค์จะต้องทรงยิ่งใหญ่ขึ้นส่วนข้าพเจ้าจะต้องด้อยลง (ยน 3:30)

ประการที่สาม เราต้องดำเนินชีวิตบนหนทางแห่งไม้กางเขน ทุกครั้งที่เรามองดูไม้กางเขน หรือทำสำคัญมหากางเขน ต้องเตือนใจเราว่า เราเป็นคนบาปที่ได้รับการอภัยแล้ว และต้องเลียนแบบพระเยซูเจ้าผู้ถูกตรึงบนไม้กางเขน บนเส้นทางแห่งความรัก การรับใช้ และการให้อภัยไม่สิ้นสุด  พระเจ้ามิได้ส่งพระบุตรของพระองค์มาเพื่อพิพากษาโลก แต่เพื่อช่วยโลกให้รอด เราจึงไม่ควรบ่นว่า หรือตำหนิกันและกัน  แต่ต้องสนับสนุนส่งเสริมและให้กำลังใจซึ่งกันและกัน

บทสรุป

พี่น้องที่รัก การฉลองเทิดทูนไม้กางเขนของพระเยซูเจ้า เตือนใจเราให้ตระหนักถึงความรักยิ่งใหญ่ของพระเจ้าที่มีต่อเรา ผ่านทางไม้กางเขนของพระเยซูเจ้าเราได้รับการช่วยให้รอดพ้น ไม้กางเขนจึงเป็นเครื่องหมายแห่งความรอดนิรันดร บ่อเกิดแห่งชีวิต การให้อภัย และพระทัยเมตตาของพระเจ้า ที่เราต้องแบกด้วยความยินดี เพื่อช่วยโลกให้ตระหนักถึงความรักของพระเยซูเจ้าที่ถูกตรึงบนไม้กางเขนเพื่อความรอดนิรันดรของทุกคน

พระเยซูเจ้าได้ทรงไถ่เราด้วยไม้กางเขนศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ และทรงเปลี่ยนเครื่องหมายแห่งความตายในสมัยนั้นให้กลายเป็นเครื่องหมายแห่งความรักและความรอดนิรันดร ศิษย์พระคริสต์ต้องเทิดทูนไม้กางเขนและนำเครื่องหมายที่นำความรอดนี้ไปสู่ทุกคน เพื่อช่วยทุกคนให้ได้พบความรักยิ่งใหญ่ของพระเจ้าและความรอดนิรันดร ผ่านทางแบบอย่างชีวิตดีงามของเรา และตระหนักว่า เราเป็นคนบาปที่ได้รับการอภัยแล้ว ต้องไม่เดินในหนทางแห่งบาปอีกต่อไป

คุณพ่อขวัญ  ถิ่นวัลย์

ID LINE : dondaniele

วัดนักบุญยอแซฟ ดอนทอย-หนองสนุก, สกลนคร

13 กันยายน 2025

ภาพ : การนมัสการกางเขน, ศุกร์ศักดิ์สิทธิ์, วัดดอนทอย-หนองสนุก, สกลนคร; 2025-04-18

วันศุกร์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2568

เรารู้จักต้นไม้จากผลของมัน

 

เรารู้จักต้นไม้จากผลของมัน

เสาร์

สัปดาห์ที่ 23 เทศกาลธรรมดา

1 ทธ 1:15-17

ลก 6:43-49

บทอ่านแรก เปาโลสอนทิโมธีถึงความเมตตากรุณาของพระเจ้าต่อคนบาป พระเยซูเจ้าเสด็จมาเพื่อช่วยคนบาปให้รอด เปาโลตระหนักถึงความจริงนี้ดีเพราะท่านเป็นคนแรกในบรรดาคนบาปเหล่านี้ที่เคยเบียดเบียนกลุ่มคริสตชน แต่พระเยซูเจ้าทรงแสดงความเมตตากรุณาและทรงอดทนอย่างที่สุดต่อท่าน เราต้องตระหนักถึงพระทัยเมตตาของพระเจ้าที่ทรงอดทนต่อบาปและความบกพร่องของเราครั้งแล้วครั้งเล่า เราจำเป็นต้องมีความเมตตากรุณาและความอดทนเช่นเดียวกัน

พระวรสารวันนี้ พระเยซูเจ้าทรงสรุปคำเทศนาของพระองค์ด้วยการเกิดผลดี (Bear Fruit) เฉกเช่นผลไม้ชนิดต่าง ๆ ผลไม้ดีบ่งบอกถึงต้นพันธุ์ที่สมบูรณ์ จากผลที่ปรากฏทำให้เราทราบชนิดของต้นไม้ “เรารู้จักต้นไม้แต่ละต้นจากผลของต้นไม้นั้น” (ลก 4:44) คุณภาพของผลไม้ขึ้นอยู่กับคุณภาพของต้นไม้ ต้นไม้พันธุ์ดีย่อมเกิดผลดี ต้นไม้พันธุ์ดีย่อมดีไปทุกส่วนตั้งแต่ปลายยอดจนถึงราก

การเป็นคนดีต้องเป็นเหมือนต้นไม้พันธุ์ดีที่ดีทั้งจิตใจและหัวใจทั้งครบ ชีวิตของเราต้องสะท้อนให้เห็นความดีที่อยู่ภายใน ทำให้ผู้อื่นได้เห็นถึงความดีของพระเจ้าและพระพรของพระองค์ ผ่านทางกิจการดีที่เราแสดงออกต่อเพื่อนมนุษย์ สิ่งที่เราต้องให้ความสำคัญคือกิจการดี ความตั้งใจดีจะไม่มีคุณค่าใด ๆ หากไม่มีการปฏิบัติจริงในชีวิต การปฏิบัติศาสนกิจของเราต้องออกมาจากความเชื่อที่ลึกซึ้งภายใน

พระเยซูเจ้าทรงเรียกร้องศิษย์ของพระองค์ให้ถวายเกียรติแด่พระเจ้า ผ่านทางการปฏิบัติตามคำสอนของพระองค์ ไม่เรียกพระองค์ว่า “ข้าแต่พระเจ้า ข้าแต่พระเจ้า แต่ไม่ปฏิบัติตามที่เราบอก” (ลก 6:46) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผ่านทางกิจการดีที่เราทำ สิ่งที่เราต้องไตร่ตรอง เรามีความปรารถนาที่จะทำความดีบ้างไหม เราได้สรรเสริญและพูดถึงความดีหรือไม่ เราได้ขอบคุณพระเจ้าผู้เป็นองค์แห่งความดีหรือเปล่า

ชีวิตคริสตชนต้องมีรากฐานมั่นคงในพระเยซูเจ้า เราต้องทำให้ชีวิตฝ่ายจิตของเราเข้มแข็งและเติบโตในกิจการดี ด้วยการลิดกิ่งไม่ดีในชีวิตทิ้งไปเพื่อให้ชีวิตของเราเกิดผลอุดม ไม่หวั่นเกรงต่ออุปสรรคและความยากลำบากใด ๆ ศิษย์พระคริสต์ต้องมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับพระเยซูเจ้าผ่านทางการอธิษฐานภาวนา มีความเชื่อมั่นคงที่ตั้งอยู่บนศิลารากฐานอันแข็งแกร่งของพระศาสนจักร ฟังพระวาจาของพระองค์และนำมาปฏิบัติในชีวิตประจำวัน

คุณพ่อขวัญ  ถิ่นวัลย์

ID LINE : dondaniele

วัดนักบุญยอแซฟ ดอนทอย-หนองสนุก, สกลนคร

12 กันยายน 2025

ภาพ : สวนแอปเปิล, Reggio-Emilia, Emilia-Romagna, ITALY; 2008-09-10


วันพฤหัสบดีที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2568

หลักการดำเนินชีวิตคริสตชน

 

หลักการดำเนินชีวิตคริสตชน

ศุกร์

สัปดาห์ที่ 23 เทศกาลธรรมดา

1 ทธ 1:1-2, 12-14

ลก 6:39-42

บทอ่านแรก เปาโลเขียนจดหมายถึงทิโมธี “ผู้เป็นบุตรแท้จริงในความเชื่อ” เปาโลพบทิโมธีระหว่างการเยือนเมืองลิสตรา (ซึ่งปัจจุบันคือประเทศตุรกี) ระหว่างการเดินทางประกาศข่าวดีครั้งแรกของท่าน และเป็นผู้ทำให้ทิโมธีเข้ามาเป็นคริสตชน เปาโลได้กล่าวขอบคุณพระเยซูเจ้าที่ได้ทรงเรียกท่านให้มาเป็นผู้รับใช้ของพระเจ้า จากเดิมที่เคยดูหมิ่นพระเจ้าและเบียนดเบียนกลุ่มคริสตชน เปาโลตระหนึกถึงความรักของพระเจ้าในชีวิตของท่าน เราต้องมีท่าทีเช่นเดียวกันกับเปาโล

พระวรสารวันนี้ พระเยซูเจ้าทรงเล่าอุปมาเรื่องคนตาบอดนำทางคนตาบอด เพื่อนำทางคนตาบอดได้เราต้องมีสายตาดี หากเรากลายเป็นผู้นำทางตาบอดเสียเอง ย่อมเป็นเรื่องเสี่ยงอันตรายอย่างยิ่ง “คนตาบอดจะนำทางคนตาบอดได้หรือ ทั้งคู่จะตกลงไปในคูมิใช่หรือ” (ลก 6:39) เมื่อใครคนหนึ่งได้รับเลือกให้นำคนอื่นในด้านต่าง ๆ เขาต้องมีความรู้ ความชำนาญ และประสบการณ์ในการนำพาคนอื่นให้ไปถึงเป้าหมายโดยปลอดภัย

อุปมาเรื่องเศษฟางในตาของพี่น้องสะท้อนความจริงว่า เราไม่มีสิทธิ์วิพากษ์วิจารณ์ใคร ตราบใดที่เรายังมีข้อบกพร่อง การแก้ไขความผิดแบบพี่น้องสามารถทำได้เมื่อเราได้พิจารณาตนเองอย่างดีแล้ว พระเยซูเจ้าทรงประสงค์ให้เราเติบโตในชีวิตคริสตชน เลียนแบบอย่างความรัก ความเมตตากรุณา และการให้อภัยของพระองค์ ไม่ตัดสินใครเพราะหน้าที่ในการตัดสินเป็นของพระเจ้า ในฐานะคริสตชนเราต้องดำเนินชีวิตตรงไปตรงมา ซื่อสัตย์ต่อตนเอง มองดูบาปของเราก่อนเป็นลำดับแรก

พระเยซูเจ้าทรงให้หลักการดำเนินชีวิตคริสตชน บนพื้นฐานแห่งความรัก ความเมตตากรุณา และการให้อภัยกัน ไม่วิพากษ์วิจารณ์ หรือตัดสินใคร เพราะหน้าที่ในการตัดสินเป็นของพระเจ้าผู้ทรงความดีบริบูรณ์ ทรงเห็นความจริงทั้งหมด และทรงล่วงรู้ส่วนลึกแห่งจิตใจมนุษย์ โดยปราศจากอคติ ประการสำคัญ เราแต่ละคนต่างเป็นคนบาปคนหนึ่งซึ่งบ่อยครั้งอยู่ในขั้นหนักกว่าคนอื่นด้วยซ้ำ เราต้องแก้ไขความผิดของตนก่อน จากนั้นจึงไปแนะนำ หรือแก้ไขความผิดของผู้อื่น

พระเยซูเจ้าทรงเชื้อเชิญเราให้มีทัศนคติเชิงบวก มีท่าทีเปิดกว้าง มองเห็นความดีของผู้อื่น และให้กำลังใจกัน บ่อยครั้งคำพูดของเราทำลายตัวเองและผู้อื่น สิ่งที่มีประโยชน์มากที่สุดในโลกคือคำพูด (ลิ้น) สิ่งที่อันตรายที่สุดในโลกคือคำพูด (อิสบ) ศิษย์พระคริสต์ต้องดำเนินชีวิตตรงไปตรงมาตามความจริง ไม่ตัดสินใคร รู้จักระวังคำพูดของตน พูดแต่สิ่งที่ดีส่งเสริมความสำพันธ์อันดีต่อกัน เลียนแบบพระเยซูเจ้าทั้งคำพูดและการกระทำ และทำให้คำพูดปรากฏเป็นจริงในกิจการ

คุณพ่อขวัญ  ถิ่นวัลย์

ID LINE : dondaniele

วัดนักบุญยอแซฟ ดอนทอย-หนองสนุก, สกลนคร

11 กันยายน 2025

ภาพ : การประชุมพลมารีย์คูเรียแม่พระฟาติมา, วัดดอนทอย-หนองสนุก, สกลนคร; 2025-9-07