วันพุธที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

ต้องไม่ทำให้พระเยซูเจ้าเสียน้ำตา

 

ต้องไม่ทำให้พระเยซูเจ้าเสียน้ำตา

พฤหัสบดี

สัปดาห์ที่ 33 เทศกาลธรรมดา

วว 5:1-10

ลก 19:41-44

บทอ่านแรก ยอห์นพูดถึงม้วนหนังสือในพระหัตถ์ของพระเจ้า ซึ่งแสดงถึงแผนการของพระเจ้าสำหรับโลก ผู้ที่จะเปิดม้วนหนังสือนี้ได้คือ “สิงโตจากตระกูลยูดา” ซึ่งหมายถึงพระเยซูเจ้า ลูกแกะปัสกาที่สละชีวิตเพื่อช่วยประชากรของพระเจ้า วันนี้เราขอบคุณและสรรเสริญพระเมสสิยาห์ ผู้พลีพระชนม์ด้วยความรักเพื่อเรา ผู้ประทานเครื่องนำทางอันล้ำค่าแก่เราผ่านทางพระชนม์ชีพ การสิ้นพระชนม์ และการกลับคืนพระชนมชีพ และผ่านทางข่าวดี (ม้วนหนังสือ)

พระเยซูเจ้าทรงสะเทือนพระทัยและทรงกันแสงสองครั้งในพระวรสาร ซึ่งแสดงถึงความเป็นมนุษย์ของพระองค์ ครั้งแรกเมื่อทรงอยู่หน้าที่ฝังศพของลาซารัส (ยน 11:35) และอีกครั้งเมื่อทอดพระเนตรกรุงเยรูซาเล็มและชาวเยรูซาเล็มไม่ต้อนรับพระองค์ พวกเขาปฏิเสธพระประสงค์ของพระเจ้าที่ทรงต้องการให้เดินในทางแห่งสันติ “ถ้าวันนี้เจ้าเพียงแต่รู้จักทางนำไปสู่สันติ ก็จะเป็นการดี แต่ทางนั้นถูกซ่อนไว้จากดวงตาของเจ้าเสียแล้ว” (ลก 19:42) ทรงพยายามทำให้พวกเขากลับใจ แต่ส่วนใหญ่ปฏิเสธและหาช่องทางประหารพระองค์

ความจริงนครเยรูซาเล็มควรเป็นศูนย์กลางของการประกาศข่าวดี แต่เพราะชาวเยรูซาเล็มปฏิเสธพระผู้ช่วยให้รอด ทำให้นครเยรูซาเล็มเป็นศูนย์กลางของคริสตศาสนาเพียงช่วงสั้น ๆ ปี 70 นครเยรูซาเล็มได้ถูกทำลายซึ่งพระเยซูเจ้าทรงทำนายและเห็นภาพล่วงหน้า “วันนั้นจะมาถึงเจ้า เมื่อข้าศึกสร้างที่มั่นล้อมเจ้า... จะบุกทำลายและลูกหลานที่อาศัยอยู่ในเจ้าจนราบเป็นหน้ากลอง และจะไม่ปล่อยให้มีก้อนหินซ้อนกันอยู่ในเจ้าอีก” (ลก 19:43)

ชาวเยรูซาเล็มไม่เชื่อฟังพระเยซูเจ้าเป็นภาพหมายถึงมนุษย์ทุกยุคสมัย รวมถึงเราแต่ละคนที่ปฏิเสธพระเจ้าและทำสิ่งที่ขัดพระประสงค์ของพระองค์ พระหรรษทานของพระเจ้ามากมายหลั่งมายังเราผ่านทางพระศาสนจักร สอนเราให้รู้ผิดถูกชั่วดี และดำเนินชีวิตในหนทางถูกต้องชอบธรรมตามคุณค่าพระวรสาร บ่อยครั้งแค่ไหนที่พระเยซูเจ้าทรงกันแสงกับเรา เพราะการไม่เชื่อฟังและไม่ปฏิบัติตามพระวาจาของพระองค์

ทุกวันพระเยซูเจ้ายังคงเสด็จมาเยี่ยมเราในการรำพึง การอธิษฐานภาวนา และการอ่านพระคัมภีร์ เราต้องไม่ทำให้พระเยซูเจ้าเสียน้ำตาและตรัสกับเราว่า “เพราะเจ้าไม่รู้จักเวลาที่พระเจ้าเสด็จมาเยี่ยมเจ้า” (ลก 19:44) ศิษย์พระคริสต์ต้องเชื่อและวางใจพระเยซูเจ้า ฟังเสียงของพระองค์และปฏิบัติตามพระวาจาของพระองค์ ดำเนินชีวิตเป็นเครื่องหมายที่มองเห็นได้แห่งการประทับอยู่ของพระองค์ ผ่านทางความรัก ความเมตตากรุณา และการให้อภัยกันด้วยใจยินดี

คุณพ่อขวัญ  ถิ่นวัลย์

ID LINE : dondaniele

วัดนักบุญยอแซฟ ดอนทอย-หนองสนุก, สกลนคร

20 พฤศจิกายน 2024

ภาพ : คณะสงฆ์อัครสังฆมณฑลท่าแร่-หนองแสง, เข้าเงียบประจำปี, สำนักมิสซังฯ สกลนคร; 2024-11-06

วันอังคารที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

เราต้องใช้พระพรให้เกิดประโยชน์

 

เราต้องใช้พระพรให้เกิดประโยชน์

พุธ

สัปดาห์ที่ 33 เทศกาลธรรมดา

วว 4:1-11

ลก 19:11-28

บทอ่านแรก ยอห์นได้เห็นนิมิตเกี่ยวกับพระเจ้าที่ทรงปกครองจากบัลลังก์บนสวรรค์ โดยใช้สัญลักษณ์ “ผู้อาวุโสยี่สิบสี่คน” มีบทบาทในการสรรเสริญและนมัสการพระเจ้า การนั่งบนบัลลังก์บ่งบอกถึงบทบาทในฐานะผู้พิพากษาของอิสราเอลใหม่ และมงกุฎบ่งบอกถึงการมีส่วนร่วมในอำนาจของพระเจ้า เสื้อคลุมสีขาวบ่งบอกถึงความบริสุทธิ์ “ฟ้าแลบและฟ้าร้อง” เป็นสัญลักษณ์แห่งการประทับอยู่ของพระเจ้า “ผู้มีชีวิตสี่ตน” โดยมี สิงโต วัว มนุษย์ และนกอินทรี บ่งบอกถึงทุกสิ่งสูงส่ง แข็งแกร่ง ฉลาด และรวดเร็วที่สุดในการสร้าง

อุปมาเรื่องผู้รับใช้สิบคนได้รับเงินไปทำทุน คล้ายอุปมาเรื่องเงินตะลันต์ของนักบุญมัทธิว (มธ 25:14-30) คนแรกทำกำไรได้สิบเท่า คนที่สองได้ห้าเท่า ทำให้กษัตริย์พึงพอใจมากเพราะแสดงถึงความรับผิดชอบต่อเงินที่ได้รับ กษัตริย์ทรงมอบให้รับผิดชอบงานใหญ่กว่า ผู้รับใช้คนหนึ่งนำเงินห่อผ้าเก็บไว้ ไม่กล้าเสี่ยงและไม่ก่อให้เกิดประโยชน์อะไร ซ้ำร้ายกษัตริย์ได้ริบเงินและมอบให้คนที่ได้รับมากที่สุด ความสามารถที่มีและพระพรที่ได้รับ มิใช่ทรัพย์สินที่ต้องเก็บเอาไว้ แต่ต้องแบ่งปันและใช้ให้เกิดประโยชน์

พระเจ้าประทานพระพรมากมายแก่เราแต่ละคน พระองค์ไม่ได้เรียกร้องเกินความสามารถของเรา บททดสอบสำคัญคือ เราได้ใช้ความสามารถที่มีและพระพรที่ได้รับอย่างไรบ้าง หน้าที่ของเรามิใช่อิจฉาพรสวรรค์ที่คนอื่นได้รับ หรือเปรียบเทียบความสามารถของเรากับผู้อื่น แต่ต้องใช้ความสามารถและพระพรที่ได้รับอย่างรับผิดชอบและทำส่วนของตนให้ดีที่สุด ผู้รับใช้ที่ไม่ทำอะไรถูกตำหนิ เพราะไม่พยายามทำ

“ผู้ที่มีมากกลับได้รับมากขึ้น” สะท้อนความจริงของชีวิต พรสวรรค์และความสามารถที่มียิ่งใช้ยิ่งมีมากขึ้น เพราะมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องไม่หยุดนิ่ง จนเกิดทักษะและความเชี่ยวชาญ เช่นเดียวกับการให้ ยิ่งให้ยิ่งได้รับเพิ่มมากขึ้น” ในทางกลับกันคนมีความสามารถน้อยแต่ไม่พยายามพัฒนา ที่สุดย่อมสูญเสียความสามารถนั้นไป เราไม่สามารถหยุดอยู่กับที่ หากเราย่ำอยู่กับที่ขณะคนอื่นก้าวไปข้างหน้า เท่ากับเราถอยหลัง

คริสตชนหลายคนคิดเพียงแค่มาวัดวันอาทิตย์ตามหน้าที่ ไม่มีเรื่องกับใครพอแล้ว เรื่องผู้รับใช้เอาผ้าห่อเงินเก็บไว้เตือนว่า เราอยู่เฉยไม่ได้ พรสวรรค์และความสามารถที่มีหากเก็บไว้คือการทำลายตัวเอง แต่การใช้เพื่อผู้อื่นทำให้ชีวิตของเรามีความหมาย ศิษย์พระคริสต์ต้องเป็นผู้รับใช้ที่ดีและซื่อสัตย์ ใช้ความสามารถและพระพรอย่างชาญฉลาด และทำให้เกิดผลสำหรับตนเองและผู้อื่น เพราะพรสวรรค์และความสามารถ ยิ่งใช้ยิ่งมี ยิ่งให้ยิ่งได้รับ

คุณพ่อขวัญ  ถิ่นวัลย์

khuanthinwan@gmail.com

วัดนักบุญยอแซฟ ดอนทอย-หนองสนุก, สกลนคร

19 พฤศจิกายน 2024

ภาพ : เด็กคำสอน, ซ้อมรำเทวดา, ชุมชนวัดดอนทอย-หนองสนุก, สกลนคร; 2024-11-18