วันศุกร์ที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2554

พระเยซูเจ้า: แหล่งน้ำทรงชีวิต

วันอาทิตย์
สัปดาห์ที่ 3 เทศกาลมหาพรต ปี A
อพย 17:3-7
รม 5:1-2,5-8
ยน 4:5-15, 19ข-26, 39ก, 40-42

บทนำ

ในปี ค.ศ. 1888 ชายคนหนึ่งรู้สึกตกใจที่อ่านพบข่าวการตายของตัวเองในหน้าหนังสือพิมพ์ ซึ่งเกิดจากความผิดพลาดและเข้าใจผิด อย่างไรก็ตาม เขารู้สึกตกใจมากกว่าอีกที่หนังสือพิมพ์ฉบับนั้นบรรยายว่า เขาเป็นคนค้นพบวิธีใหม่ในการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์มนุษย์ และสร้างความร่ำรวยให้กับตัวเองจากสิ่งที่ตนเองประดิษฐ์คิดค้น เขาเป็นคนประดิษฐ์ระเบิดไดนาไมต์และร่ำรวยจากสิ่งประดิษฐ์นี้ ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นในหน้าหนังสือพิมพ์ ทำให้เขาได้คิดว่าหากเขาตายไปจริงๆ ผู้คนคงจดจำเขาตามที่หนังสือพิมพ์บรรยายไว้

เช้าวันนั้น เขาได้ตัดสินใจเปลี่ยนแปลงชีวิตครั้งใหญ่และล้มเลิกงานที่กำลังทำอยู่ โดยอุทิศความรู้ความสามารถทุกอย่างในการทำงานเพื่อสันติภาพของโลก เขาได้ยกทรัพย์สินทั้งหมดของเขาเมื่อตายไป เพื่อตั้งกองทุนมอบเป็นรางวัลสำหรับคนที่ทำงานเพื่อสันติภาพ ที่เรารู้จักกันดีในชื่อ “รางวัลโนเบล” (Nobel prizes) ชายคนที่ว่านี้คือ อัลเฟร็ด โนเบล (Alfred Nobel) ที่ทิ้งความร่ำรวยจากการค้าอาวุธ และอุทิศตนเพื่อบอกผู้คนให้ทำงานเพื่อสันติภาพ

ประสบการณ์ของ อัลเฟร็ด โนเบล ที่ได้อ่านข่าวการตายของตนเองในหน้าหนังสือพิมพ์ คงเป็นเหมือนกับหญิงชาวสะมาเรียที่พบกับพระเยซูเจ้าในพระวรสารที่เราได้ยินในวันนี้ พระองค์ได้ชี้ให้หญิงชาวสะมาเรียได้ตระหนักในบาปของเธอทีละเล็กละน้อย กระทั่งเธอเชื่อและไว้ใจว่าพระองค์เป็นพระผู้ไถ่และเป็นแหล่งน้ำทรงชีวิต ที่สามารถทำให้เธอพบความสุขและได้รับชีวิตนิรันดร ทำให้เธอทิ้งถังน้ำไว้และไปบอกข่าวดีแก่คนอื่นในเมือง

1. พระเยซูเจ้า: แหล่งน้ำทรงชีวิต

ในพระวรสารวันนี้ พระเยซูเจ้าทรงสัญญากับหญิงชาวสะมาเรียว่า พระองค์จะประทาน “น้ำทรงชีวิต” ซึ่งจะเป็นเหมือนกับน้ำพุแห่งชีวิตนิรันดรและพระหรรษทานสำหรับผู้ที่ตระหนักถึงความเป็นจริงเกี่ยวกับพระองค์ โดยทั่วไปชาวยิวจะไม่คบค้าสมาคมกับชาวสะมาเรีย เพราะพวกเขาถือว่าชาวสะมาเรียเป็นยิวที่ไม่บริสุทธิ์ เนื่องจากละเมิดบทบัญญัติและแต่งงานกับคนต่างชาติ เรื่องนี้แสดงให้เห็นว่า ความรักของพระเจ้าไม่มีขอบเขตจำกัด อีกทั้ง น้ำทรงชีวิตและปังที่พระเยซูเจ้าประทานแก่เราเพื่อหล่อเลี้ยงชีวิตเรานั้น มิใช่สำหรับเราเท่านั้นแต่สำหรับทุกคน นั่นแสดงให้เห็นว่า ความรักของพระเจ้าไปสู่ทุกคน

พระวรสารวันนี้ได้แสดงให้เห็นว่า หญิงชาวสะมาเรียได้รับการเรียกให้มาแบ่งปันความรักที่เปี่ยมล้นของพระเจ้าแก่ทุกคนด้วยความเชื่อไว้ใจ พระเยซูเจ้าทรงใช้รูปหมายของน้ำ เพื่อสอนหญิงชาวสะมาเรียให้เห็นถึงพระหรรษทานและการให้อภัยของพระเจ้า พระองค์ทรงตรัสถึง “น้ำทรงชีวิต” ที่ให้ชีวิตนิรันดร ประทานพระหรรษทานอันได้แก่ชีวิตพระในวิญญาณ หญิงชาวสะมาเรียคนนั้นกระหายหา “น้ำทรงชีวิต” ที่พระองค์ตรัสถึง แม้เธอจะเข้าใจผิดในตอนแรก แต่พระเยซูเจ้าได้ทำให้เธอค่อยๆ เข้าใจว่า จำเป็นที่เธอจะต้องสำนึกผิดและเปลี่ยนแปลงชีวิตเพื่อจะได้ “น้ำทรงชีวิต” ดังกล่าว

พระเยซูเจ้าได้เปิดเผยให้หญิงชาวสะมาเรียได้เข้าใจว่า พระองค์คือพระผู้ไถ่ที่ล่วงรู้ถึงบาปทุกอย่างที่เธอได้กระทำและพร้อมจะยกบาปทั้งหมดของเธอ พระองค์ทรงเป็น “แหล่งน้ำทรงชีวิต” ที่เติมเต็มชีวิตของเธอด้วยความรักอันหาขอบเขตมิได้ของพระองค์ การได้พบและสนทนากับพระองค์ครั้งแรกและครั้งเดียวนี้ ทำให้เธอได้รับความสว่าง เต็มเปี่ยมไปด้วยพระหรรษทานและเปลี่ยนแปลงชีวิตทั้งหมดของเธอ ถึงขนาดยอมทิ้งถังน้ำไว้ที่บ่อ เข้าไปในเมืองเพื่อประกาศข่าวดีเกี่ยวกับพระองค์ มีผู้คนจำนวนมากได้ออกมาพบพระองค์และเชื่อในพระองค์ เพราะการเป็นพยานของเธอ

2. บทเรียนสำหรับเรา

พระวาจาของพระเจ้าสอนอะไรเราในวันนี้ พระวรสารได้แสดงให้เห็นว่า พระเยซูเจ้าทรงเหน็ดเหนื่อย หิว และกระหายน้ำ อันแสดงให้เห็นถึงความเป็นมนุษย์ของพระองค์ แต่ถึงกระนั้นพระองค์ได้ใช้โอกาสนี้สอนความจริงเกี่ยวกับพระองค์ให้หญิงชาวสะมาเรียได้ทราบ เพราะงานของพระองค์คือการแสวงหาและปฏิบัติตามพระประสงค์ของพระบิดาเจ้า เราแต่ละคนได้รับการเรียกจากพระเจ้าให้มาแบ่งปันความรักของพระองค์และปฏิบัติตามพระประสงค์ของพระบิดาเจ้าเช่นกัน นี่คืองานของเราในฐานะคริสตชน

เรื่องราวการสนทนาของพระเยซูเจ้ากับหญิงชาวสะมาเรีย ได้เปิดเผยให้เราทราบความจริงเกี่ยวกับพระเยซูเจ้าที่ทรงเป็น “แหล่งน้ำทรงชีวิต” สำหรับทุกคน แม้กับชาวสะมาเรียที่ชาวยิวทั่วไปมองว่าเป็นคนบาปที่ไม่ควรคบหา แต่ความรักอันยิ่งใหญ่ของพระเจ้าไปถึงทุกคน แม้คนที่ชื่อเสียงไม่ดีอย่างหญิงคนนี้ (มีสามีหลายคน) พระเจ้ายังรักเธอและทำให้เธอกลายเป็นเครื่องมือในการประกาศพระองค์ การได้สนทนาและฟังพระวาจาของพระองค์ ได้ทำให้ชีวิตของเธอมีความหมายและกลายเป็นผู้นำข่าวของพระคริสตเจ้า

เทศกาลมหาพรตเป็นช่วงเวลาของการพบกับพระคริสตเจ้า สนทนาและเปลี่ยนแปลงชีวิตใหม่ในพระองค์ เรื่องราวในพระวรสารสอนเราว่า พระเยซูเจ้าทรงคอยเราอยู่ทุกที่ ทุกเวลา พระองค์ไม่เคยเหน็ดเหนื่อยในการเฝ้าคอยเรา เพราะพระองค์ทรงรักเรามากและทรงต้องการที่จะอยู่กับเราตลอดเวลา ชีวิตคริสตชนที่ปราศจากพระคริสตเจ้า จึงเป็นชีวิตที่ว่างเปล่า ทั้งนี้เพราะ พระองค์ทรงเป็น “แหล่งน้ำทรงชีวิต” ที่ทำให้ชีวิตของเรามีชีวิตชีวา สามารถดับความกระหายคนที่มาหาพระองค์และทำให้เขาพบสันติสุข

บทสรุป

พี่น้องที่รัก น้ำในแผ่นดินที่เต็มไปด้วยทะเลทราย เป็นปัจจัยที่สำคัญอย่างยิ่ง พระวาจาในวันนี้ได้ใช้เครื่องหมายของ “น้ำ” เพื่อบรรยายถึงการประทับอยู่ของพระเจ้าที่ให้ชีวิต น้ำในที่นี้หมายถึง “พระคุณของพระเจ้า” พระวรสารได้แสดงให้เราเห็นว่า พระเยซูเจ้าทรงเป็น “แหล่งน้ำทรงชีวิต” ซึ่งจะกลับเป็นน้ำพุภายในมนุษย์ที่พุ่งขึ้นเพื่อให้ชีวิตนิรันดร พระเจ้าที่ประทับอยู่ท่ามกลางเราสามารถดับความกระหายทั้งหลายทั้งปวงของมนุษย์อย่างสิ้นเชิง

หญิงชาวสะมาเรียในพระวรสารเป็นตัวแทนของเราแต่ละคน ที่ต้องการความรักและการให้อภัย มีเพียงพระเยซูเจ้าเท่านั้นที่สามารถดับความกระหายในใจของเราได้ มีเพียงพระเยซูเจ้าเท่านั้นที่สามารถเติมเต็มความต้องการในชีวิตของเราได้ ด้วยความรักยิ่งใหญ่และการให้อภัยไม่สิ้นสุดของพระองค์ เราจึงต้องหมั่นมาหาและสนทนากับพระองค์บ่อยๆ เป็นต้นในเทศกาลมหาพรตนี้ เพื่อเราจะมีจิตใจที่สุขสงบและสามารถกล่าวได้อย่างนักบุญเอากุสตินที่ว่า “ดวงใจของข้าพเจ้าจะไม่สงบ จนกว่าจะได้พักพิงในพระเจ้า”

คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
danielkhuan@hotmail.com
วัดพระคริสตประจักษ์ นาบัว
25 มีนาคม 2010

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น