วันจันทร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2554

การให้อภัยไม่สิ้นสุด

วันอังคาร
สัปดาห์ที่ 3 เทศกาลมหาพรต
ดนล 3:25, 34-43
มธ 18:21-55
 การให้อภัยไม่สิ้นสุด

สมหมายกับสมชายเป็นพี่น้องกัน สมชายติดคุกเป็นเวลา 12 ปี และพ้นโทษได้รับการปล่อยตัว เขาต้องการกลับบ้านเพื่อพบกับสมหมายพี่ชาย ทั้งคู่ตกลงพบกันที่ลอบปี้ของโรงแรมใกล้บ้านเพื่อสะสางปัญหาค้างคาใจในอดีต สมชายมาถึงสถานที่นัดหมายก่อนเวลาเล็กน้อยและคอยเป็นเวลา 2 ชั่วโมง เมื่อเริ่มรอไม่ไหวจึงลุกขึ้นและเดินจากไปในความมืด ขณะที่สมหมายนั่งอยู่ในมุมมืดของโรงแรมนานแล้ว เขานึกถึงความเจ็บปวดในอดีตที่สมชายเคยทำกับตัวเขาและครอบครัวของเขา จึงไม่ได้แสดงตนจนกระทั่งสมชายจากไป นับจากวันนั้นมาเขาไม่เห็นสมชาย น้องชายของเขาอีกเลย

พระวรสารโดยนักบุญมัทธิววันนี้ เตือนเราถึงหน้าที่และพันธกิจของการเป็นคริสตชน ในการเดินตามรอยเท้าและก้าวย่างของพระเยซูเจ้า อาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ที่ได้ให้แบบอย่างแก่เราเรื่องการให้อภัย ขณะถูกตรึงบนกางเขนพระองค์ได้ร้องขอให้พระบิดาอภัยพวกเขา นี่คือ ความรักที่เปี่ยมล้นในหัวใจของพระองค์แม้ในช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุด (ถูกทำร้ายใกล้จะตาย) สำหรับเราคริสตชน การให้อภัย หมายถึง การลืม ไม่จดจำความผิด และยกโทษด้วยใจจริง การลืมคือการรักผู้ที่ทำผิดต่อเรามากกว่าเดิม ต้อนรับเขาด้วยใจกว้างและปฏิบัติต่อเขาเหมือนเขาไม่เคยทำอะไรผิดต่อเรามาก่อน

เราต้องขอบคุณเปโตรที่ยกปัญหาถามพระเยซูเจ้าว่า “ถ้าพี่น้องทำผิดต่อข้าพเจ้า ข้าพเจ้าต้องยกโทษให้เขาสักกี่ครั้ง ถึงเจ็ดครั้งพอไหม?” เปโตรหวังจะได้รับคำชมจากพระเยซูเจ้า เพราะเลขเจ็ดถือเป็นเลขที่สมบูรณ์ อีกทั้ง ตามคำสอนของอาจารย์ชาวยิว การยกโทษให้คนที่ทำผิดต่อเราสามครั้งถือว่ามากที่สุดแล้ว และพระเยซูเจ้าตอบเปโตรว่า “ต้องยกโทษให้เจ็ดคูณเจ็ดสิบครั้ง” ซึ่งหมายถึง “จำนวนที่ไม่จำกัด” ต้องยกโทษตลอดไปหรือให้อภัยไม่สิ้นสุดนั่นเอง

การให้อภัยไม่สิ้นสุด เป็นเรื่องที่ยากมากทั้งแนวคิดและวิธีปฏิบัติ เพราะความคุ้นเคยกับการแก้แค้น “ตาต่อตา ฟันต่อฟัน” ที่อยู่ในจิตใต้สำนึกของมนุษย์ แต่พระเยซูเจ้าสอนว่าเพื่อจะมีความสุขในชีวิตต้อง “ยกโทษให้ผู้อื่นเสมอ” คำอุปมาที่พระองค์เล่า ชี้ให้เห็นถึงจำนวนเงินมหาศาลที่คนรับใช้เป็นหนี้กษัตริย์ไม่อาจใช้คืนได้หมด ซึ่งแตกต่างจากเงินเพียงเล็กน้อยที่เพื่อนเป็นหนี้เขาอยู่ สิ่งนี้ทำให้เราต้องตระหนักว่า ผู้ที่ทำผิดต่อเราเทียบไม่ได้กับความผิดที่เราทำต่อพระเจ้า

ในทางจิตวิทยา การไม่ยอมให้อภัยนำมาซึ่งความทุกข์ทรมานในจิตใจ การให้อภัย ไม่เพียงส่งผลดีต่อสุขภาพจิตแต่ยังส่งผลดีต่อชีวิตจิตของเราด้วย ดังนี้ พระเยซูเจ้าจึงสอนให้เรารักผู้อื่นแม้เขาจะทำไม่ดีต่อเรา ให้อภัยเขาด้วยใจจริง หากเราไม่ทำเช่นนี้ไม่ใช่พระเจ้าที่ลงโทษเรา แต่เป็นเราที่ทำร้ายตัวเอง เราจะมีความรู้สึกทุกข์ใจไม่เป็นสุข ดังเรื่องที่เล่าในตอนต้น สมหมายต้องเสียใจไปตลอดชีวิตที่สูญเสียน้องชายไปเพราะการไม่ยอมให้อภัยของเขา แต่เวลาใดก็ตามที่เรายอมให้อภัย สันติสุขและความชื่นชมยินดีจะกลับมา

“จงให้อภัยคนอื่นบ่อยๆ แต่อย่าให้อภัยตัวท่านเอง” (Forgive another often, yourself never.) สุภาษิตลาตินประโยคนี้สอนเราให้เข้าถึงคุณค่าของการใช้ชีวิตร่วมกัน นั่นคือ การให้อภัย สุภาษิตแขกมูร์ยังสอนเราด้วยว่า “การให้อภัยจากหัวใจ ดีกว่าทองคำหนึ่งกล่อง” (Forgiveness from the heart is better than a box of gold.) ทั้งนี้ก็เพราะว่า การให้อภัยนำสันติสุขแท้มาสู่จิตใจของผู้ให้อภัยและผู้ได้รับการอภัย มหาพรตปีนี้เราได้ให้อภัยผู้ที่ทำผิดต่อเรา... หรือยัง

คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
วัดนักบุญยอแซฟ ดอนทอย
9 มีนาคม 2010

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น