วันจันทร์ที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2554

การรับใช้ผู้อื่น

วันอังคาร
สัปดาห์ที่ 2 เทศกาลมหาพรต
อสย 1:10, 16-20
มธ 23:1-12

 การรับใช้ผู้อื่น


นักพรตชราตนหนึ่งเฝ้าภาวนาเป็นเวลาหลายปีที่จะเห็นนิมิตจากพระเจ้า เพื่อเพิ่มพูนความเชื่อของตนให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น แต่เขาไม่เคยเห็นนิมิตใดเลยจนเกือบสิ้นหวัง แล้ววันหนึ่งนิมิตปรากฏมาให้เห็น เขาดีใจมาก แต่ขณะที่กำลังดื่มด่ำกับภาพนิมิตเสียงระฆังของอารามดังขึ้น บอกให้รู้ว่าถึงเวลาแจกอาหารคนจนแล้วและวันนี้เป็นหน้าที่ของเขาด้วย หากเขาไม่ไปคนเหล่านั้นคงกลับไปโดยไม่ได้กินอะไรตลอดทั้งวัน

นักพรตตนนี้เกิดลังเลที่จะเลือกระหว่างหน้าที่ของโลกกับนิมิตแห่งสวรรค์ ที่สุด เขาตัดสินใจหันหลังให้นิมิตไปแจกอาหารคนจน หนึ่งชั่วโมงให้หลังเขากลับมาที่ห้องของเขาอีกครั้ง เมื่อเปิดประตูเขาแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง นิมิตยังรอเขาอยู่ในห้อง เขาคุกเข่าลงโมทนาคุณพระเจ้าและพระองค์ตรัสกับเขาว่า “ลูกรัก หากลูกไม่ไปให้อาหารคนจน เราคงไม่อยู่แล้ว” หนทางที่ดีที่สุดในการรับใช้พระเจ้าคือ การรับใช้เพื่อนพี่น้องโดยเฉพาะคนขัดสน

พระวรสารทุกตอนเขียนขึ้นเพื่อพระศาสนจักร พวกธรรมาจารย์และชาวฟาริสีคือเราแต่ละคน ในพระวรสารของวันนี้ พระเยซูเจ้าทรงตำหนิธรรมาจารย์และฟาริสี รวมถึงเราแต่ละคน ที่ทำกิจการทุกอย่างเพื่อให้คนอื่นเห็นและเพื่อให้คนอื่นชม ไม่ได้มาจากความรักหรือความสัมพันธ์ที่แท้จริงต่อพระเจ้าและเพื่อนพี่น้อง “ถ้าเขาสั่งสอนเรื่องใด ท่านจงปฏิบัติตามเถิด แต่อย่าปฏิบัติตามพฤติกรรมของเขา เพราะเขาพูดแต่ไม่ปฏิบัติ” (มธ 23:3)

คนทุกวันนี้แสวงหาและทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้ตำแหน่งสูงและหน้าที่ใหญ่โต เพราะมันหมายถึงเกียรติยศชื่อเสียง ทรัพย์สินเงินทอง และอำนาจวาสนา อันเป็นยอดปรารถนาของทุกคนในโลก ไม่เว้นแม้ในวงการศาสนา ในสังคมไทย กล่าวกันว่าเพื่อจะบรรลุถึงตำแหน่งหน้าที่ดังกล่าว จะต้องมีอักษร 3 ตัวนี้: ด-ว-ง ที่ไม่ใช่ “โชควาสนา”

1) หมายถึง “เด็กของใคร” หรือเด็กเส้นในระบบอุปถัมภ์ ที่เขาจะดูว่าใครให้การสนับสนุน เป็นศิษย์-อาจารย์ของใคร จบการศึกษาจากสถาบันไหน นามสกุลอะไร

2) หมายถึง “วิ่ง” หากไม่มีอย่างแรกต้องวิ่งเข้าหาคนใหญ่โตหรือผู้มีชื่อเสียงดีเป็นที่รู้จัก เพื่อให้การรับรองหรือสนับสนุนฝากฝังให้ได้ตำแหน่งที่ต้องการ

3) หมายถึง “เงิน” หากไม่มีทั้งสองอย่าง เงินต้องถึง เข้าทำนองจ่ายไม่อั้นเพื่อให้ได้ตำแหน่งที่ต้องการ

นี่คือวิธีบรรลุถึงความสำเร็จในชีวิตและได้มาซึ่งสิ่งที่ต้องการในทางโลก แต่ในพระวรสารของวันนี้ พระเยซูเจ้าทรงให้คำตอบในลักษณะตรงข้าม “ผู้ใดเป็นใหญ่จะต้องเป็นผู้รับใช้ผู้อื่น” (มธ 23:3) พระวาจาตอนนี้คือบทสรุปชีวิตและแบบอย่างของพระเยซูเจ้าที่เสด็จมามิใช่เพื่อให้คนอื่นรับใช้ แต่เพื่อรับใช้ผู้อื่น (มธ 20:26) และทรงมอบแบบอย่างแห่งการรับใช้นี้ไว้ให้แก่เราในการล้างเท้าอัครสาวก (ดู ยน 13:1-15)

พระวาจาวันนี้สอนเราว่า ตำแหน่งหมายถึงภาระหน้าที่มิใช่เกียรติยศ ต้องรับใช้มากกว่าที่จะตั้งตนเป็นนาย สำหรับเราคริสตชนเพื่อจะบรรลุถึงชีวิตนิรันดรจะต้องถ่อมตัวเองลง รับใช้ผู้อื่น เพราะชีวิตที่มีความสุขคือชีวิตที่อุทิศตนรับใช้ผู้อื่นโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน ดังตัวอย่างของคุณแม่เทเรซาแห่งกัลกัตตาที่สอนว่า การรับใช้คือความรักในภาคปฏิบัติ และสมเด็จพระสันตะปาปายอห์น ปอลที่ 2 ที่ทรงเป็นแบบอย่างของ “ข้ารับใช้แห่งผู้รับใช้ทั้งหลาย”

คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
วัดนักบุญยอแซฟ ดอนทอย
2 มีนาคม 2010

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น