วันพฤหัสบดีที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2554

เวลาแห่งความรัก

วันศุกร์ หลังวันพุธรับเถ้า
อสย 58:1-9ก
มธ 9:14-15

 เวลาแห่งความรัก

ครั้งหนึ่งมีคนถามไอน์สไตน์ว่า “ทฤษฎีสัมพัทธภาพคืออะไร” ไอน์สไตน์ อธิบายว่า “หนึ่งชั่วโมงกับสาวงาม ดูเหมือนเวลาผ่านไปเร็วเหมือนหนึ่งนาที แต่ถ้าเราถูกทำโทษให้นั่งบนเตาผิงเพียงหนึ่งนาที เรามีความรู้สึกว่ามันนานเป็นชั่วโมง นี่แหละคือ สัมพัทธภาพของโลกและจักรวาล”

การจำศีลอดอาหาร เป็นเสาหลักหนึ่งในสามเสา (การภาวนา การจำศีลอดอาหาร และการให้ทาน)ที่พระศาสนจักรเรียกร้องเป็นพิเศษในเทศกาลมหาพรต การอดอาหารในที่นี้ไม่ใช่เพียงการไม่รับประทานอาหารที่เคยรับตามปกติเท่านั้น แต่ยังหมายถึงกิจการดีทุกอย่างที่ออกมาจากจิตใจที่สำนึกผิด เพื่อเป็นการชดเชยความผิดที่ตนเองได้กระทำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการให้ความยุติธรรมแก่ทุกคน

การจำศีลอดอาหารจะไม่มีประโยชน์อะไร หากเรายังเอารัดเอาเปรียบคนอื่น ทะเลาะเบาะแว้ง และปฏิบัติต่อกันอย่างอยุติธรรม ประกาศกอิสยาห์ ได้เตือนเราในบทอ่านแรกว่า การจำศีลอดอาหารแบบนี้จะไม่เป็นที่พอพระทัยพระเจ้า ตรงข้าม การปลดปล่อยผู้ถูกจองจำอย่างอยุติธรรม การแบ่งปันและช่วยเหลือผู้ที่กำลังเดือดร้อนและต้องการความช่วยเหลือต่างหาก คือสิ่งที่พระเจ้าทรงพอพระทัย

ชาวยิวให้ความสำคัญกับการจำศีลอดอาหารมาก เมื่อเห็นศิษย์ของพระเยซูเจ้าไม่ถือปฏิบัติตามธรรมเนียม ศิษย์ของยอห์น บัปติสต์จึงมาหาพระองค์และถามว่า “ทำไม... ศิษย์ของท่านไม่จำศีลเลย” พระเยซูเจ้าจึงกล่าวเปรียบเทียบว่า ช่วงเวลาที่พระองค์อยู่กับศิษย์เป็นความชื่นชมยินดีเหมือนการไปร่วมงานมงคลสมรส การประทับอยู่ของพระองค์ท่ามกลางศิษย์ เป็นดัง “เจ้าบ่าว” ในงานวิวาห์มงคล ซึ่งเป็นภาพพจน์ที่ชาวยิวคุ้นเคยและรู้จักดี อันแป็นเวลาแห่งความรักที่นำมาซึ่งความสุขและความยินดี

แง่คิดสำหรับเราคือ ความรักต้องมาเป็นลำดับแรก เรามีแนวโน้มที่จะทำให้เทศกาลมหาพรตเป็นช่วงเวลาแห่งความเศร้า เคียดแค้น ชิงชัง หรือเวลาแห่งความรัก สำหรับพระเยซูเจ้า เทศกาลนี้เป็น “เวลาแห่งความรัก” ที่ “เจ้าบ่าวยังอยู่กับเขา” พระเจ้าประทับอยู่ท่ามกลางเรา เทศกาลมหาพรตจึงเป็นเวลาพิสูจน์ความรักแท้ที่เรามีต่อพระเจ้าและเพื่อนพี่น้อง อีกทั้ง ทำให้ชีวิตของเราสวยงามผ่านทางกิจการดีต่างๆ ที่เรากระทำและแสดงออกต่อกันและกันในครอบครัว หมู่คณะ และสังคมของเรา

คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
danielkhuan@hotmail.com
วัดพระคริสตประจักษ์ นาบัว
10 มีนาคม 2011

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น