วันจันทร์ที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2554

มหาพรต: 40 วันแห่งการฟื้นฟูชีวิตคริสตชน

 มหาพรต: 40 วันแห่งการฟื้นฟูชีวิตคริสตชน


เทศกาลมหาพรต คือช่วงเวลา 40 วันที่พระศาสนจักรกำหนดให้เป็นช่วงเวลาของการเตรียมฉลองปัสกา เดิมทีเดียวมีระเวลาเพียง 3 สัปดาห์ ภายหลังได้เพิ่มเข้ามาอีก 2 สัปดาห์รวมเป็น 5 สัปดาห์ โดยเริ่มต้นที่วันอาทิตย์

ต่อมาได้เพิ่มเข้ามาอีก 4 วันให้ครบ 40 วัน เพื่อเตือนใจให้ระลึกถึง 40 วันแห่งการจำศีลอดอาหารในที่เปลี่ยวของพระเยซูเจ้าก่อนจะเริ่มภารกิจของพระองค์ โดยเริ่มต้นที่วันพุธรับเถ้าอย่างในปัจจุบัน

ในระยะเริ่มแรก เทศกาลมหาพรตถือเป็นช่วงเวลาสำหรับการเตรียมผู้ที่จะรับศีลล้างบาปและการเฉลิมฉลองปัสกา ต่อมาภายหลังได้ถือเป็นช่วงเวลาของการเป็นทุกข์กลับใจและใช้โทษบาปสำหรับผู้ที่รับศีลล้างบาปแล้ว

เทศกาลมหาพรตจึงเป็นเหมือนกับฤดูใบไม้ผลิในพระศาสนจักร เป็นช่วงเวลาของการเกิดใหม่และพื้นฟูชีวิตคริสตชน เป็นเวลาพิเศษแห่งพระพรและการเปลี่ยนแปลงชีวิตของตนผ่านทางการภาวนาอย่างเพียรทน การใช้โทษบาป และการช่วยเหลือแบ่งปันคนขัดสน ซึ่งพระศาสนจักรถือว่า นี่คือหนทางที่ดีที่สุดของการมีส่วนในพระมหาทรมาน การสิ้นพระชนม์ และการกลับคืนชีพของพระเยซูเจ้า

นักบุญเคลเมนต์กล่าวว่า “การอดอาหารดีกว่าการภาวนา” การอดอาหารจึงเป็นเป็นเครื่องมือที่ดีอย่างหนึ่งของพระศาสนจักรสำหรับการใช้โทษบาป เพื่อคริสตชนจะได้รู้จักเพียงพอเรื่องการกินดื่ม รู้จักแบ่งปันและเห็นอกเห็นใจผู้ยากไร้ที่ต้องการความช่วยเหลือ จะได้มีสายตาในในแบบเดียวกับพระเยซูเจ้า “เมื่อพระเยซูเจ้าทอดพระเนตรเห็นประชาชน ก็ทรงสงสาร” (มธ. 9:36) ซึ่งเป็นหัวข้อสำคัญในสารมหาพรตประจำปี ค.ศ. 2006 ของสมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16

การอดอาหารไม่ควรถือเป็นเรื่องล้าสมัยแต่ต้องกระทำควบคู่ไปกับกิจการดี ดังสุภาษิตอิตาลีที่ว่า “ใครที่อดอาหาร แต่ไม่ประกอบการดีอื่น ช่วยประหยัดรายจ่ายของเขา แต่นำไปสู่นรก” (Who fasts, but does no other good, saves his bread but go to Hell.) ดังนั้น เพื่อจะได้รับพระเมตตาจากพระเจ้าเราต้องแสดงออกให้เห็นถึงพระทัยดีและพระพักตร์ที่ทรงเมตตาของพระเยซูเจ้าต่อผู้อื่น

อเล็กซานเดอร์ โป๊ป กล่าวว่า “ผิดพลาดคือมนุษย์ อภัยไม่สิ้นสุดคือพระเจ้า” (To err is human, forgive Divine) นี่คือธรรมชาติมนุษย์ที่เราต้องยอมรับและสำนึกเสมอว่าเราเป็นคนบาป บาปนี่เองได้ส่งผลร้ายต่อตัวเราและสังคม ทำให้ความสัมพันธ์อันดีของเรากับพระเจ้าและเพื่อนพี่น้องถูกตัดขาด แต่พระเยซูเจ้าทรงเชื้อเชิญเราให้กลับมาหาพระองค์ทางศีลแห่งการคืนดี ซึ่งเป็นท่อธารแห่งพระพรที่สะท้อนให้เห็นถึงความรักและการให้อภัยไม่สิ้นสุดของพระองค์

40 วันในเทศกาลมหาพรตจึงเป็นช่วงเวลาพิเศษแห่งการฟื้นฟูชีวิตคริสตชน กลับใจและคืนดีกับพระเจ้า เถ้าที่โรยบนศีรษะของเราในวันพุธรับเถ้า เป็นเครื่องหมายถึงความสำนึกในความต่ำต้อยของเราเอง อีกทั้งเตือนใจเราให้เอาใจใส่ในการฟังพระวาจาของพระเจ้า “จงกลับใจและเชื่อพระวรสารเถิด” (มก 1: 15) พร้อมที่จะกลับใจใหม่และคืนดีกับพระองค์

การกลับใจและเชื่อข่าวดี ย่อมพบอุปสรรคเหมือนพระเยซูเจ้าที่ถูกปีศาจทดลองในถิ่นทุรกันดาร เราคริสตชนไม่อาจหลีกพ้นการทดลองเช่นกัน เพื่อจะเอาชนะการทดลองและบรรลุถึงการกลับใจภายในที่ว่านี้ เราต้องถือมหาพรตด้วยการ

• ภาวนามากกว่าที่เคยปฏิบัติ
• พลีกรรมใช้โทษบาปด้วยการอดอาหาร อดสิ่งที่เราชอบหรือลดละเลิกสิ่งที่ไม่ดีต่างๆ
• และปฏิบัติกิจเมตตาต่อผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือ

ขอให้เราเริ่มต้นเทศกาลมหาพรตปีนี้ด้วยข้อตั้งใจที่จะเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต กลับใจและเชื่อพระวรสาร และพระเยซูเจ้าจะให้เรามีส่วนในความยินดีของพระองค์เมื่อวันสมโภชปัสกามาถึง

คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์

บทบรรณาธิการ, สารอัครสังฆมณฑลท่าแร่-หนองแสง, ปีที่ 1 ฉบับที่ 7, (มีนาคม, 2549)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น