วันจันทร์ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2560

ทำใจให้ดี... อย่ากลัวเลย

ทำใจให้ดี... อย่ากลัวเลย
วันอังคาร
สัปดาห์ที่ 18 เทศกาลธรรมดา
กดว 12:1-13
มธ 14:22-36
พระวรสารวันนี้ กล่าวถึงอัศจรรย์สองอย่างที่พระเยซูเจ้าทรงกระทำคือ การเดินบนน้ำและการช่วยสาวกของพระองค์ให้รอดจากพายุแรงกล้า ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ต่อเนื่องจากการทำอัศจรรย์ทวีขนมปังเลี้ยงคนมากกว่าห้าพันคน พระองค์ได้สั่งให้บรรดาศิษย์ลงเรือไปยังอีกฝากหนึ่ง ขณะที่พระองค์เสด็จขึ้นไปบนภูเขาเพื่ออธิษฐานภาวนา ติดต่อสัมพันธ์กับพระบิดาเจ้าหลังจากเสร็จสิ้นภารกิจประจำวัน นี่คือสิ่งสำคัญที่ศิษย์พระคริสต์ต้องทำและขาดไม่ได้
การเดินบนน้ำของพระเยซูเจ้าแสดงให้เห็นว่าพระองค์เป็นพระเจ้า ผู้ทรงอำนาจเหนืออำนาจทางธรรมชาติและสิ่งเหนือธรรมชาติทุกอย่าง ชาวยิวมีความเชื่อว่าท้องทะเลอยู่ใต้อำนาจของปีศาจ ทะเลที่บ้าคลั่งและพายุที่พัดกระหน่ำเป็นผลงานของจิตชั่ว ดังนั้น การเดินบนน้ำทะเลและสามารถบังคับคลื่นลมให้สงบลงได้ แสดงให้เห็นว่าพระองค์ทรงอำนาจเหนือจิตชั่ว และสามารถบังคับควบคุมปีศาจให้อยู่ใต้อำนาจได้
เรือที่แล่นอยู่กลางทะเลเป็นสัญลักษณ์หมายถึง พระศาสนจักรที่กำลังเดินทางในโลก เรือของบรรดาสาวกที่ถูกคลื่นซัดเป็นรูปหมายถึงพระศาสนจักร ที่ถูกค่านิยมและกระแสของโลกถาโถมเข้าใส่ โดยเฉพาะในระยะเริ่มแรกของพระศาสนจักรที่ถูกเบียดเบียนอย่างรุนแรง ในท่ามกลางภาวะวิกฤตพระเยซูเจ้าได้เสด็จมาเพื่อสร้างสันติภาพ และนำความสงบสุขมาสู่ทุกคน
 พระเยซูเจ้าเสด็จมาในรูปแบบที่บรรดาสาวกจำพระองค์ไม่ได้ ต่างตกใจกลัวและเข้าใจว่าเป็นผี  แต่หากเราฟังอย่างตั้งใจ เราจะได้ยินเสียงแผ่วเบาของพระองค์ที่ตรัสกับเราเหมือนที่ตรัสบรรดาสาวกว่า “ทำใจให้ดี เราเอง อย่ากลัวเลย” (มธ 14:27) หากเราเชื่อพระวาจานี้และเชื้อเชิญพระองค์ให้ขึ้นมาบนเรือแห่งชีวิตของเรา พายุร้ายและคลื่นลมแห่งชีวิตจะสงบลง ปัญหาวิกฤตที่กำลังเผชิญอยู่จะได้รับการแก้ไข
พระเยซูเจ้าทรงประทับอยู่กับเรา โดยเฉพาะในห้วงเวลาที่เรากำลังเผชิญกับปัญหา ความยากลำบาก และต้องการความช่วยเหลือ แม้เราจะมองไม่เห็นหรือจำพระองค์ไม่ได้ก็ตาม แต่พระองค์ทรงประทับอยู่เคียงข้างเราเสมอ เพื่อปกป้องดูแลและเป็นแหล่งพลังแห่งชีวิตของเรา ดังนั้น เราจึงไม่ควรหวาดกลัวหรือกังวลสิ่งใด ขอพียงหันหัวใจของเรามาหาพระองค์และฟังพระดำรัสของพระองค์ที่ตรัสกับเรา
เปโตรได้ก้าวออกจากเรือไปพบพระเยซูเจ้าท่ามกลางพายุแรงกล้า นี่คือพันธกิจของเราในฐานะศิษย์พระคริสต์ที่จะต้องนำคนอื่นให้มารู้จักพระคริสตเจ้า กล้าทวนกระแสของโลกโดยไม่ละสายตาไปจากพระองค์ผู้เป็นเป้าหมายแท้จริงของชีวิต ดำเนินชีวิตเป็นพยานถึงพระองค์ด้วยความเชื่อและวางใจ ไม่วางใจในตัวเองหรือสิ่งอื่น ขอพระองค์ทรงเพิ่มพูนความเชื่อของเราให้เข้มแข็ง เมื่อเผชิญพายุร้ายแห่งชีวิต เราจะได้เพ่งมองและวางใจพระองค์แต่ผู้เดียว
คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
khuanthinwan@gmail.com
San Tomasso Ashram, วัดป่าพนาวัลย์
7 สิงหาคม 2017
ภาพประกอบ: ผืนนาริมหนองหารที่ถูกน้ำท่วม, ชุมชนเบ็ธเลเฮม, ท่าแร่ สกลนคร; 2017-08-07

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น