วันเสาร์ที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2560

สิทธิพิเศษของมนุษย์และความอดทนของพระเจ้า

สิทธิพิเศษของมนุษย์และความอดทนของพระเจ้า
วันอาทิตย์
สัปดาห์ที่ 27 เทศกาลธรรมดา
ปี A
อสย 5:1-7
ฟป 4:6-9
มธ 21:33-43
บทนำ
พี่น้องสองคนทำงานเก็บไข่ในฟาร์ม คนพี่นึกสนุกพูดกับน้องชายว่า “พี่จะให้เงินห้าสิบบาท หากแกยอมให้พี่ใช้ไข่ตีหน้าผากสามฟอง” แม้รู้ว่าเจ็บปวดและเปรอะเปื้อน แต่ด้วยความอยากได้เงินน้องชายจึงยอม เมื่อพี่ชายใช้ไข่ฟองแรกตีเขารู้สึกเจ็บ ฟองที่สองรู้สึกเจ็บยิ่งกว่า แต่กัดฟันทนเพื่อเงินห้าสิบบาทและบอกให้พี่ชายตีไข่ฟองสุดท้าย แต่พี่ชายหัวเราะและเดินจากไป พร้อมกับบอกว่า “พอแค่นี้แหละ แกจะได้ไม่เจ็บตัวเพิ่มและพี่ก็ไม่ต้องเสียเงินห้าสิบบาท”
เรื่องราวพี่น้องสองคนฟังดูขบขัน แต่สะท้อนความเป็นจริงที่เกิดขึ้นในสังคมที่ไร้สัจจะ ไม่ทำตามคำสัญญา และขาดความรับผิดชอบ มีผู้คนจำนวนมากดำเนินชีวิตเหมือนพี่คนโตเอาเปรียบคนอื่น เอาเปรียบสังคมหรือแม้แต่พระเจ้า เช่นเดียวกับคำอุปมาเรื่องคนเช่าสวนชั่วร้าย ที่แสวงหาประโยชน์และเอาเปรียบเจ้าของสวน ไม่ยอมจ่ายค่าเช่าหรือผลตอบแทนที่ตกลงไว้ ซ้ำยังจับผู้รับใช้ที่เจ้าของสวนใช้มาทุบตีและฆ่าเสีย ไม่เว้นแม้บุตรชายของเจ้าของสวน
การทำสวนองุ่นเป็นวิธีดำรงชีพทั่วไปในปาเลสไตน์ แต่สถานการณ์และความยากลำบากสมัยนั้น ทำให้เจ้าของที่ดินไปหาที่อยู่ ณ ดินแดนใหม่ที่สงบสุขมากกว่า ปล่อยให้คนเช่าสวนทำประโยชน์และตนเองคอยเก็บค่าเช่า อาจกำหนดเป็นตัวเงินหรือส่วนแบ่งผลผลิตที่เก็บได้ เหตุการณ์ที่กล่าวถึงในคำอุปมา คนเช่าสวนไม่ยอมจ่ายค่าเช่า ทุบตีและฆ่าผู้แทนเจ้าของสวนด้วยวิธีรุนแรง เพื่อยึดที่ดินมาเป็นกรรมสิทธิ์ของตน
1.        สิทธิพิเศษของมนุษย์และความอดทนของพระเจ้า
คำอุปมาเรื่องคนเช่าสวนที่ชั่วร้าย เป็นการเล่าเรื่องผู้ดูแลสวนองุ่นที่ปฏิบัติไม่ดีต่อผู้รับใช้ที่เจ้าของสวนส่งมา และในต้อนท้ายได้ฆ่าลูกชายเจ้าของสวน ถือเป็นเหตุการณ์ปกติทั่วไปที่เกิดขึ้นในสมัยพระเยซูเจ้า ผู้ฟังต่างเข้าใจสาระสำคัญของเรื่องนี้อย่างชัดแจ้ง สวนองุ่นหมายถึงชนชาติอิสราแอล เจ้าของสวนคือพระเจ้า ผู้เช่าสวนคือพวกมหาสมณะและชาวฟาริสี ผู้รับใช้ที่ถูกส่งมาคือบรรดาประกาศกที่พระเจ้าทรงส่งมา ส่วนบุตรคือพระเยซูเจ้า
คำอุปมานี้บอกให้เราทราบถึง “สิทธิพิเศษของมนุษย์” มัทธิวได้ให้รายละเอียดว่าเจ้าของสวนได้ทำสิ่งที่จำเป็นทุกอย่างสำหรับสวนองุ่น ทำรั้วล้อมป้องกันสัตว์ร้าย สร้างบ่อย่ำองุ่น นอกจากนี้ยังสร้างหอเฝ้าเพื่อป้องกันโจรผู้ร้าย (มธ 21:33) นั่นหมายความว่า พระเจ้าได้ทำทุกอย่างสำหรับชนชาติอิสราแอลเพื่อเตรียมพวกเขาให้รู้จักพระบุตรที่จะเสด็จมา แต่พวกเขาได้กระทำความผิดและปฏิเสธพระองค์ สิทธิพิเศษนี้จึงถูกเพิกถอนและมอบให้กับคนต่างชาติ
ในฐานะคริสตชนเราได้รับสิทธิพิเศษของการเป็นบุตรพระเจ้า เราทุกคนเป็นลูกของพระบิดาเจ้าองค์เดียวกัน มีคุณค่าและศักดิ์ศรีเท่าเสมอกันต่อหน้าพระเจ้า การเดินทางไปแดนไกลของเจ้าของสวน หมายถึงพระเจ้าทรงมอบหมายงานและความรับผิดชอบให้แก่เราด้วยความเชื่อใจ ดังนั้น เรามีอิสรภาพจะร่วมมือกับพระองค์หรือต่อต้าน และมีอิสระในการเลือกว่าจะทำหรือไม่ทำก็ได้ นี่คือ สิทธิพิเศษที่มนุษย์ได้รับ
นอกนั้น คำอุปมายังแสดงให้เห็นถึง “ความอดทนของพระเจ้า” ที่มีต่อความผิดพลาดของมนุษย์ เจ้าของสวนองุ่นได้ให้โอกาสคนเช่าสวนครั้งแล้วครั้งเล่า ด้วยหวังว่าเขาจะปรับปรุงตัวเองใหม่ พระเจ้าได้ให้โอกาสทุกคนเท่าเทียมกัน ไม่ทรงลงโทษใครในทันที แต่ทรงให้เวลาและรอคอยด้วยหวังว่าเขาจะกลับใจเปลี่ยนแปลงชีวิต หันกลับมาหาพระองค์อีกครั้งหนึ่ง ความอดทนของพระเจ้าเป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์
2.        บทเรียนสำหรับเรา
คำอุปมาเรื่องคนเช่าสวนที่ชั่วร้าย ได้ให้บทเรียนสำคัญสำหรับเราคริสตชนหลายประการ ในการนำไปปฏิบัติในชีวิตประจำวัน
ประการแรก เราต้องรับผิดชอบต่อสิทธิพิเศษที่พระเจ้าประทาน การเป็นคริสตชนไม่ใช่เรื่องบังเอิญแต่เป็นแผนการของพระเจ้า พระอาณาจักรของพระเจ้าถูกมอบให้เราดูแลด้วยความวางใจ เราควรใช้สิทธิพิเศษแห่งการเป็นบุตรพระเจ้าด้วยความรับผิดชอบ ตระหนักในพระหรรษทานและความช่วยเหลือของพระองค์ในแต่ละวัน ด้วยความสำนึกพระคุณและใช้ให้เกิดประโยชน์เพื่อนำไปสู่ความรอดนิรันดร
ประการที่สอง เราต้องอดทนต่อความผิดของกันและกัน พระเจ้าทรงอดทนและไม่ทรงจดจำความผิดที่เรากระทำ ทรงให้โอกาสเราครั้งแล้วครั้งเล่า เราต้องอดทนต่อความผิดบกพร่องของกันและกัน ไม่พิพากษาหรือตัดสินใครโดยเบาความ แต่ปฏิบัติต่อกันด้วยความรักและให้อภัย ให้โอกาสคนที่หลงผิดได้กลับตัวกลับใจ เป็นต้นในครอบครัว สังคม และหมู่คณะของเรา
ประการที่สาม เราต้องทำให้เกิดผล เราเป็นคนงานในสวนองุ่นของพระเจ้า มิใช่เจ้าของสวน เราไม่มีอะไรต้องโอ้อวดหรือภาคภูมิใจ เราต้องใช้โอกาสและพระพรมากมายที่ได้รับจากพระเจ้าในแต่ละวันให้เกิดผล นั่นคือ การทำตามหน้าที่ของตนเองอย่างเต็มที่ ไม่เอารัดเอาเปรียบหรือแสวงหาประโยชน์ส่วนตน จนลืมนึกถึงความรักต่อเพื่อนพี่น้อง
บทสรุป
พี่น้องที่รัก เราเป็นประชากรใหม่ของพระเจ้า เป็นคนงานในสวนองุ่นของพระองค์ที่ทรงคาดหวังให้เราเกิดผลยั่งยืน ทุกอาทิตย์เราได้รับการเชื้อเชิญให้มารอบโต๊ะศักดิ์สิทธิ์ เพื่อฟังพระวาจาของพระองค์และนำไปปฏิบัติในชีวิตประจำวัน เราได้รับการเรียกให้เป็นหนึ่งเดียวกับกลุ่มคริสตชนและพระศาสนจักร ผ่านทางพระกายทิพย์ของพระคริสตเจ้าที่เราได้รับ ดังนั้น เราต้องอดทนต่อความผิดพลาดของกันและกันและให้อภัยกันด้วยใจกว้าง
เราได้รับสิทธิพิเศษผ่านทางศีลล้างบาป ให้มาทำงานในสวนองุ่นของพระเจ้า ซึ่งสิทธิพิเศษนี้มาพร้อมกับความรับผิดชอบเสมอ เราต้องรับผิดชอบต่องานและหน้าที่ต่างๆ ที่ได้รับมอบหมาย และตระหนักว่าเราไม่ได้ทำงานโดยลำพัง พระเยซูเจ้าทรงประทับอยู่ท่ามกลางและพร้อมช่วยเหลือเราให้เกิดผลสมบูรณ์ ขอเพียงเราร่วมมือกับพระหรรษทานของพระองค์ และเป็นเครื่องมือที่ดีของพระองค์ในเนื้อนาที่ทรงมอบหมายให้เราดูแล
คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
San Tomasso Ashram, วัดแม่พระแห่งภูเขาการ์แมล ป่าพนาวัลย์
7 ตุลาคม 2017
ภาพประกอบ: พระอัครสังฆราชลอเรนซ์ คายน์ แสนพลอ่อน มอบใบพรพระสันตะปาปาแด่คุณพ่อหลุยส์ จำเนียร สันติสุขนิรันดร์, ครบรอบ 25 ปีชีวิตสงฆ์, บ้านเณรฟาติมาท่าแร่ สกลนคร; 1995-10-07

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น