วันเสาร์ที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2554

การกลับคืนชีพและชีวิต

วันอาทิตย์
สัปดาห์ที่ 5 เทศกาลมหาพรต ปี A
อสค 37:12-14
รม 8:8-11
ยน 11:3-7, 17, 20-27, 33ข-45

บทนำ

มีเรื่องเล่าว่า อดีตประธานาธบดีจอร์ช บุช เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดี ได้เป็นตัวแทนประเทศสหรัฐอเมริกา เข้าร่วมพิธีฝังศพของประธานาธิบดีเลโอนิด เบรซเนฟ อดีตผู้นำของสหภาพโซเวียต บุชรู้สึกทึ่งละคนแปลกใจกับการประท้วงเงียบ ของอดีตสุภาพสตรีหมายเลยหนึ่งต่อรัฐบาลคอมมิวนิสต์แห่งสหภาพโซเวียต เธอยืนสงบนิ่งข้างโลงศพของสามีจนกระทั่งวินาทีสุดท้ายที่ทหารองครักษ์ปิดฝาโลง

ภริยาม่ายของอดีตประธานาธิบดีเบรซเนฟ ได้กระทำการที่แสดงถึงความกล้าหาญและความหวังอันยิ่งใหญ่ เป็นอากับกิริยาที่บ่งบอกให้เห็นถึงการไม่เคารพเชื่อฟังของพลเมือง ที่มีต่อมหาอำนาจและผู้นำโลกคอมมิวนิสต์อย่างรัสเซีย กล่าวคือ เธอได้ทำเครื่องหมายกางเขนที่หน้าอกของสามี อดีตผู้นำสูงสุดของพรรคคอมมิวนิสต์ ที่ไม่เชื่อในพระเจ้าและมองศาสนาว่าเป็นยาเสพติด

ภริยาม่ายของอดีตผู้นำได้แสดงภาษาสัญลักษณ์ที่บอกให้ทุกคนได้รับรู้ว่า สิ่งที่สามีของเธอเชื่อและกระทำมาตลอดชีวิตนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เธอหวังอย่างเต็มเปี่ยมว่ายังมีชีวิตอีกรูปแบบหนึ่ง ซึ่งเป็นชีวิตที่ดีที่สุดที่แสดงให้เห็นในองค์พระเยซูเจ้า ผู้สิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน พระองค์ทรงเป็นผู้ที่สามารถให้ความเมตตาและช่วยสามีของเธอได้ในวันพิพากษา

พระวรสารวันนี้บอกเราว่า พระเยซูเจ้าทรงเป็นการกลับคืนชีพและเป็นชีวิต ใครที่เชื่อในพระองค์จะไม่มีวันตายแต่จะมีชีวิตนิรันดร การปลุกลาซารัสให้กลับคืนชีพ เป็นสัญลักษณ์ว่าพระองค์ทรงเป็นการกลับคืนชีพและเป็นชีวิต เพื่อนำเราให้เชื่อในการกลับคืนชีพและมีชีวิตใหม่ในพระเยซูเจ้าผ่านทางพระจิตเจ้า ศีลล้างบาปได้นำเราสู่ชีวิตในองค์พระจิต ทำให้เราเข้มแข็งและร่วมส่วนในการกลับคืนชีพของพระเยซูเจ้า

1. การกลับคืนชีพและชีวิต

เรื่องราวการปลุกลาซารัสให้กลับคืนชีพ เป็นโอกาสให้เราได้เห็นถึงเกียรติมงคลของพระเจ้า ผ่านทางพระบุตรของพระองค์ ผู้ทรงเป็นการกลับคืนชีพและเป็นชีวิต อีกทั้ง ได้แสดงให้เห็นถึงความรักที่พระเยซูเจ้ามีต่อลาซารัสและมารีย์กับมาร์ธา น้องสาว พระเยซูเจ้าได้ใช้โอกาสเดียวกันนี้ทำให้ความเชื่อของบรรดาศิษย์เข้มแข็ง เพื่อเตรียมพวกเขาให้พร้อมสำหรับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นกับพระองค์ในอนาคตอันใกล้ สำหรับยอห์นแล้ว นี่คือ เครื่องหมายที่สำคัญที่สุดที่พิสูจน์ว่า พระเยซูเจ้าทรงเป็นพระแมสิยาห์ พระผู้ไถ่ และบุตรพระเจ้า ผู้ที่เชื่อในพระองค์จะได้รับชีวิตนิรันดร

เมื่อพระเยซูเจ้าเสด็จมาถึงหมู่บ้านเบธานี ลาซารัสตายได้ 4 วันแล้ว มาร์ธาได้ออกไปต้อนรับ ในการสนทนากับมาร์ธานี้เอง พระเยซูเจ้าได้เปิดเผยความจริงให้เราทราบว่า “เราเป็นการกลับคืนชีพและเป็นชีวิต” ซึ่งเป็นหัวใจของพระวรสารวันนี้ แต่มาร์ธาเข้าใจอีกแบบหนึ่งและพระองค์ได้ขยายความว่า “ใครเชื่อในเรา แม้ตายไปแล้วก็จะมีชีวิต และทุกคนที่มีชีวิตและเชื่อในเรา จะไม่มีวันตายเลย” พระเยซูเจ้าไม่เพียงยืนยันถึงชีวิตหลังความตาย แต่ยังตรัสถึงชีวิตที่พระองค์จะทรงประทานให้ ผู้ที่เลียนแบบอย่างและเดินในหนทางของพระองค์

ที่เบธานีพระเยซูเจ้าทรงทำให้ลาซารัสกลับมีชีวิตอีกครั้ง ซึ่งเป็นภาพล่วงหน้าให้เห็นถึงการกลับคืนชีพของพระองค์ ผู้ให้ชีวิตที่แท้จริงแก่โลกที่กำลังจะมาถึงในวันปัสกา การกลับคืนชีพของลาซารัสจึงเป็นสัญลักษณ์แห่งชีวิตใหม่สำหรับเราทุกคนเมื่อเรายอมมอบตนต่อพระเยซูเจ้า พระผู้ไถ่ ผ่านทางศีลล้างบาปเราทุกคนได้ตายต่อบาปและได้รับชีวิตใหม่แห่งพระหรรษทานจากพระจิตเจ้า และร่วมส่วนในการกลับคืนชีพของพระคริสตเจ้า

2. บทเรียนสำหรับเรา

พระวรสารวันนี้ ได้ให้บทเรียนที่สำคัญกับเราสามประการ

ประการแรก จงยกแผ่นหินออก, จงออกมาเถิด มีที่มืดหลายแห่งในชีวิตที่เราล่ามตัวเราไว้ด้วยโซ่ตรวนของความอิจฉาริษยา การนินทาว่าร้าย อคติ ความเกลียดชัง และฝังตัวเราไว้ในหลุมศพแห่งความสิ้นหวัง ความเห็นแก่ตัว ความวิตกทุกข์ร้อนและความรู้สึกผิดต่างๆ พระเยซูเจ้าทรงเรียกร้องให้เราปลดโซ่ตรวน และออกมาจากหลุมศพที่เราสร้างขึ้น ให้พระองค์มาเยี่ยมที่มืดแห่งบาปและความทุกข์ในตัวเรา เพื่อนำแสงสว่างแห่งพระจิตเจ้าและปลดปล่อยตัวเราให้เป็นอิสระ มีชีวิตใหม่ในพระองค์ทางศีลอภัยบาป

ประการที่สอง เราต้องพร้อมที่จะเผชิญกับความตายทุกเวลา เราอยู่ในโลกที่เต็มไปด้วยความตาย อย่างเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ญี่ปุ่น (แผ่นดินไหว สึนามิและเตาปฏิกรณ์นิวเคลียระเบิด) และภาคใต้ของเรา (ปัญหาน้ำท่วมและความไม่สงบ) เราเห็นการฆ่าผู้อื่นด้วยการฆาตกรรม ทำแท้ง ประหารชีวิต สงคราม และการก่อการร้าย บ่อยครั้ง เราฆ่าตัวเราเองด้วยการฆ่าตัวตาย ยาเสพติด ทำงานหนัก เครียด และนิสัยที่ไม่ดีในการกินดื่ม เราทุกคนทราบดีว่า วันหนึ่งเราต้องตาย นี่คือสัจธรรมที่ไม่มีใครหลีกพ้น เราจะต้องเป็นคนฉลาดในการเตรียมตัวและพร้อมที่จะพบกับพระเจ้าทุกเมื่อ ด้วยมโนธรรมที่บริสุทธิ์

ประการที่สาม เราต้องหลีกหนีบาป การปลุกลาซารัสจากความตายให้กลับมีชีวิต คือการชี้บอกของพระเยซูเจ้าสำหรับเราในปัจจุบัน พระองค์ทรงเรียกเราให้หลีกหนีการกระทำทุกอย่างที่นำไปสู่ความตาย นั่นคือ “บาป” ความตายอันเนื่องมาจากบาปเกิดขึ้นได้ทุกขณะแห่งชีวิตของเรา ชีวิตที่ปราศจากพระคริสตเจ้าคือความตาย ชีวิตนิรันดรมิใช่เหตุการณ์ในอนาคตข้างหน้า แต่เกิดขึ้นที่นี่และเวลานี้ การดำเนินชีวิตในความรักต่อพระเจ้าและเพื่อนพีน้อง คือการลิ้มรสชีวิตนิรันดรในพระคริสตเจ้าตั้งแต่ในโลกนี้

บทสรุป

พี่น้องที่รัก พระวาจาพระเจ้าอาทิตย์นี้บอกให้เราได้ตระหนักว่า ประการแรก อาศัยการเจริญชีวิตความเชื่อในพระคริสตเจ้า ร่างกายของเราจะได้รับการยกขึ้นในวันกลับคืนชีพในวาระสุดท้าย ประการที่สอง เราถูกเรียกให้เป็นเครื่องหมายของการกลับคืนชีพจากบาป สู่สถานะพระหรรษทานผ่านทางศีลแห่งการคืนดี ซึ่งเป็นสิ่งที่เตือนเราให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างผู้มีความเชื่อ ในความหวังว่าผู้ที่เชื่อในพระคริสตเจ้าจะมีชีวิตอยู่ตลอดไป

พระเยซูเจ้าได้แสดงให้เห็นถึงอำนาจของพระบุตรและพระเจ้า ที่ทรงเป็นนายเหนือชีวิตและความตาย สามารถทำให้คนตายกลับมีชีวิตได้ นอกนั้นพระองค์ยังได้แสดงให้เราเห็นว่า แท้จริงแล้วการกลับคืนชีพและชีวิตเป็นเช่นไร ทรงต้องการให้เรามีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดแบบส่วนตัวกับพระองค์ ผู้เป็นการกลับคืนชีพและเป็นชีวิต นั่นคือ การเจริญชีวิตในความรักต่อพระเจ้า เป็นหนึ่งเดียวกับพระองค์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในความรักต่อเพื่อนพี่น้องในชีวิตประจำวัน

คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
danielkhuan@hotmail.com
วัดพระคริสตประจักษ์ นาบัว
08 เมษายน 2011

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น