สัปดาห์ที่ 4 เทศกาลมหาพรต
ยรม 11:18-20
ยน 7:40-53
อคติและความใจแคบ
มีเรื่องเล่าว่า พ่อค้าชาวยิวที่ร่ำรวยคนหนึ่งได้แสดงกิริยาหยาบคายและดูถูกชายแก่คนหนึ่งที่เดินทางมาด้วยกันในรถไฟ เมื่อทั้งสองถึงที่หมายพ่อค้าสังเกตเห็นว่าสถานีรถไฟคลาคล่ำไปด้วยชาวยิว ที่กำลังรอต้อนรับและแสดงความยินดีกับการมาของรับบีผู้ยิ่งใหญ่และศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในยุโรป เมื่อได้รับรู้ว่าชายแก่ที่นั่งมาในตู้เดียวกันกับเขาคือรับบีผู้ยิ่งใหญ่คนนั้น พ่อค้ารู้สึกละอายในพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมที่เขาได้แสดงออก และรู้สึกเสียดายที่พลาดโอกาสทองในการพูดคุยเป็นการส่วนตัวกับผู้ทรงความรู้และศักดิสิทธิ์คนนั้น
เวลาที่พระนางมารีย์กับนักบุญยอแซฟนำพระกุมารไปถวายในพระวิหาร ได้พบกับผู้เฒ่าสิเมโอนซึ่งได้กล่าวคำทำนายถึงพระกุมารว่า “พระเจ้าทรงกำหนดให้กุมารนี้ เป็นเหตุให้คนจำนวนมากในอิสราแอลต้องล้มลงหรือลุกขึ้น และเป็นเครื่องหมายแห่งการต่อต้าน...” (ลก 2:34-35) คำทำนายนี้ปรากฏเป็นจริงในพระวรสารวันนี้ หลังจากได้ฟังพระเยซูเจ้าตรัส ประชาชนจำนวนมากเกิดความสับสน มีความเห็นแตกต่างเกี่ยวกับพระองค์ บางคนเห็นว่าพระองค์ต้องเป็นประกาศกจริงๆ หรือเป็นพระคริสตเจ้าที่พวกเขารอคอย บางคนมองว่าพระคริสตเจ้าจะมาจากแคว้นกาลิลีได้อย่างไร
ชาวบ้านที่ยากจนมองพระเยซูเจ้าในแง่ดี เพราะพวกเขาได้รับการเยียวยารักษาให้หายจากการป่วยไข้ ได้ฟังคำสอนอันทรงคุณค่าอย่างที่ไม่เคยเห็นใครตรัสเช่นนี้มาก่อน หรือได้รับความเห็นอกเห็นใจเป็นเพื่อนกับพวกเขาอย่างที่ไม่มีรับบีคนไหนเคยทำ ส่วนพวกธรรมาจารย์และชาวฟาริสีที่มีการศึกษาสูงมองพระเยซูเจ้าในทางตรงข้าม พวกเขาประณาม ใส่ร้ายต่างๆ นานาว่าพระองค์เป็นพวกไม่ปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ ไม่อยู่กับร่องกับรอยเพราะไม่ถือกฎของวันสัปบาโต และพวกเขาได้หาช่องทางที่จะกำจัดพระองค์
ในพระวรสารวันนี้เราจึงได้เห็นพวกเขาดูถูกพระเยซูเจ้าในเรื่องที่มาของพระองค์ พวกเขาไม่เชื่อว่าพระคริสตเจ้าจะมาจากแคว้นกาลิลี ซึ่งอยู่ทางภาคเหนือมีฐานะทางเศรษฐกิจและสังคมเทียบไม่ได้กับแคว้นยูเดีย พวกเขาต้องการจะบอกว่าสามสิบปีที่นาซาแร็ธพระองค์ไม่มีอะไร เป็นเพียงเด็กหนุ่มโกโลโกโสลูกของช่างไม้ที่ไม่มีใครรู้จัก นี่คือ อคติและความใจแคบของพวกเขา ทำให้พวกเขาพลาดโอกาสทองในการได้รับการเยียวยารักษาและได้รับพระเมตตาจากพระเยซูเจ้า
ในชีวิตประจำวันของเราหากตัดอคติและความใจแคบออกไป เราจะพบความรักของพระเจ้าในความดูแลเอาใจใส่และช่วยเหลือเราเสมอมา เราไม่ควรแบ่งแยกหรือมองคนอื่นเพียงเรื่องชาติกำเนิด ที่มา หรือฐานะทางสังคม มิฉะนั้นเราจะไม่สามารถมองเห็นถึงพระญาณสอดส่องและความรักของพระเจ้า เพราะความหลากหลายทำให้โลกสวยงามและทำให้ความยิ่งใหญ่ของพระเจ้าปรากฏ
พระเยซูเจ้าเสด็จมาในโลกเพื่อนำชีวิต พระหรรษทาน และปรีชาญาณมาให้เรา พันธกิจของพระองค์คือการนำพวกเราเข้าสู่อาณาจักรสวรรค์ เราต้องลดอคติและความใจแคบเพื่อจะได้เปิดใจรับความจริงและมองเห็นความดีของกันและกัน ด้วยท่าทีและทัศนคติเช่นนี้ถึงจะช่วยลดความขัดแย้งแตกต่างในสังคมปัจจุบัน นำมาซึ่งความเข้าใจอันดีและสันติสุขที่แท้จริงในครอบครัว สังคม หมู่คณะ และชาติบ้านเมือง
คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
วัดนักบุญยอแซฟ ดอนทอย
20 มีนาคม 2010
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น