บทอ่านที่หนึ่ง: วว 11:19ก; 12:1-6ก, 10ก
บทอ่านที่สอง: 1 คร 15:20-26, 27ก
พระวรสาร: ลก 1:39-56
ภาพไอคอน แม่พระนอนหลับ ล้อมรอบด้วยบรรดาอัครสาวก ในพิพิธภัณฑ์วาติกัน |
การฉลองแม่พระรับเกียรติยกขึ้นสวรรค์ มีจุดกำเนิดในพระศาสนจักรตะวันออกเช่นเดียวกับการฉลองอื่นๆ เกี่ยวกับแม่พระ ก่อนสังคายนาสากลที่เมืองเอเฟซัส ปี ค.ศ. 431 ได้เริ่มมีการฉลองเกี่ยวกับแม่พระในพระศาสนจักร การฉลองนี้กระทำในแบบเดียวกับการฉลองนักบุญมรณสักขีที่พลีชีพเพื่อเห็นแก่ความเชื่อ ซึ่งบรรดาคริสตชนในสมัยแรกให้ความเคารพนับถือเป็นอย่างมาก
ในระยะเริ่มแรก การฉลองแม่พระรับเกียรติยกขึ้นสวรรค์ เกี่ยวเนื่องกับการฉลองการบังเกิดของพระเยซูเจ้า เนื่องจากวันฉลองดังกล่าวเป็นการฉลองวันที่แม่พระเกิดใหม่ในสวรรค์ ต่อมาภายหลังพิธีกรรมของพระศาสนจักรได้พัฒนาไปเป็นวันฉลองการนอนหลับ (Dormitio) ซึ่งเชื่อกันว่าแม่พระไม่ได้ตาย เพียงแต่นอนหลับสนิท และได้รับการยกขึ้นสวรรค์สู่อ้อมพระหัตถ์ของพระเจ้าในสภาพดังกล่าว
ในศตวรรษที่ 6 จักรพรรดิเมาริซซีโอ (Maurizio: 582-620) ได้กำหนดให้ฉลองแม่พระรับเกียรติยกขึ้นสวรรค์ในวันที่ 15 สิงหาคม ทั่วอาณาจักรไบเซนทีน และไม่นานหลังจากนั้น วันที่ 15 สิงหาคมได้กลายเป็นวันที่ฉลองกันทั่วไป รวมถึงในพระศาสนจักรตะวันตก พระสันตะปาปาแซร์จิโอที่ 1 ได้บรรจุวันฉลองแม่พระนอนหลับไว้ในปฏิทินโรมัน ในศตวรรษที่ 18 พระสันตะปาปาอาดรีอาโนที่ 1 ได้เปลี่ยนการฉลองการนอนหลับของแม่พระเป็นการฉลองการรับเกียรติยกขึ้นสวรรค์ (Assumption)
ภาพวาด การรับเกียรติยกขึ้นสวรรค์ ฝีมือ นิโคลา ปิโลเต ในพิพิธภัณฑ์วาติกัน |
พระสันตะปาปาปีโอที่ 12 ได้ประกาศข้อความเชื่อว่า “พระนางมารีย์ มารดาพระเจ้าผู้ปฏิสนธินิรมลและเป็นพรหมจารีเสมอ ได้รับเกียรติยกขึ้นสวรรค์ทั้งกายและวิญญาณ หลังจากบรรลุถึงความสมบูรณ์ของชีวิตในโลกนี้” เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน ค.ศ. 1950 ซึ่งความเชื่อนี้เป็นความเชื่อที่เก่าแก่ที่สุดในพระศาสนจักร ที่บรรดาคริสตชนแสดงออกต่อแม่พระมาเป็นเวลากว่าพันปี อีกทั้ง เป็นการยืนยันว่า แม่พระได้รับเกียรติมงคลรุ่งเรืองและร่วมส่วนในชีวิตนิรันดรกับพระเยซูเจ้า บุตรของพระนาง
การรับเกียรติยกขึ้นสวรรค์ของแม่พระ จึงเป็นการมีส่วนในผลแรกแห่งการกลับคืนชีพของพระเยซูเจ้า ในฐานะที่แม่พระเป็นมารดาของพระเจ้า (Theotokos) และมีส่วนในงานไถ่กู้ของพระผู้ไถ่ตั้งแต่เริ่มแรก ในบทบาทของคนกลางแจกจ่ายพระหรรษทานของพระเจ้าและความหวังของมนุษยชาติ นักบุญอัลฟอนโซ (St. Alphonsus Liguori: 1696-1787) ยืนยันว่า พระคริสตเจ้าไม่ทรงประสงค์ให้ร่างกายของแม่พระที่ปราศจากบาปต้องเน่าเปื่อยหลังความตาย พระนางจึงได้รับเกียรติยกขึ้นสวรรค์ทั้งกายและวิญญาณ
นอกนั้น การรับเกียรติยกขึ้นสวรรค์ของแม่พระ ยังถือเป็นการให้เกียรติและยกย่องผู้หญิงเพราะพระเจ้าได้ประทานพระหรรษทานแก่แม่พระให้บรรลุถึงความศักดิ์สิทธิ์และเกียรติสูงส่ง อีกทั้งยังเป็นการยกย่องคนยากจนและคนถูกกดขี่ที่กล่าวถึงในบทเพลงสรรเสริญของแม่พระ (Magnificat) ให้ปรากฏเป็นจริง พระเจ้าทรงให้ความสำคัญกับคนยากจน คนเล็กน้อย และคนสิ้นหวังเป็นลำดับแรกเสมอ และพระสิริรุ่งโรจน์แห่งการประทับอยู่ของพระองค์ในโลกปรากฏชัดในบุคคลเหล่านี้
ภาพวาดของ ฟรันเชสโก อัลบานี ในศตวรรษที่ 17 |
2. ความหมายสำหรับชีวิตคริสตชน
การรับเกียรติยกขึ้นสวรรค์ทั้งกายและวิญญาณของแม่พระ เพื่ออยู่กับพระเจ้าในแบบที่สมบูรณ์และเป็นหนึ่งเดียวกับพระองค์อย่างใกล้ชิด เป็นภาพล่วงหน้าถึงเกียรติมงคลรุ่งเรืองที่พระศาสนจักรจะได้รับหลังการกลับคืนชีพของบรรดาผู้ตายในวาระสุดท้าย และทำให้การดำเนินชีวิตคริสตชนของเราในปัจจุบันมีความหมาย กล่าวคือ
1) การรับเกียรติยกขึ้นสวรรค์ของแม่พระ เตือนใจเราว่า ชีวิตคริสตชนเป็นชีวิตที่ได้รับการไถ่ให้รอด โดยมีเป้าหมายอยู่ที่การเป็นหนึ่งเดียวที่บริบูรณ์กับพระเจ้า ดังนั้น เราจึงไม่อาจจะปล่อยตัวหลงระเริงไปตามกระแสของโลกได้
2) การรับเกียรติยกขึ้นสวรรค์ของแม่พระ แสดงให้เห็นเช่นเดียวกันว่า ร่างกายของเราเป็นที่รักของพระเจ้าและมีเป้าหมายว่าจะได้รับเกียรติรุ่งโรจน์ กลายเป็นร่างกายใหม่ที่สดใสสวยงาม แม้ว่าขณะมีชีวิตอยู่เราจะประสบความทุกข์ระทมจากความชราภาพและความเจ็บป่วย
3) การรับเกียรติยกขึ้นสวรรค์ของแม่พระ ได้ชี้ให้เราเห็นถึงหนทางที่แท้จริงของเราคือ ความเชื่อในพระเจ้า แม่พระได้ชื่อว่าเป็นผู้มีบุญเพราะ “การรับใช้” ด้วยการน้อมรับแผนการและน้ำพระทัยของพระเจ้า สรรพพร้อมและร่วมมือกับพระหรรษทานของพระองค์ด้วยใจยินดี
4) การรับเกียรติยกขึ้นสวรรค์ของแม่พระ คือภาพล่วงหน้าที่จะเกิดขึ้นในพระศาสนจักร ประชากรของพระเจ้าที่ชนะบาปและความตาย แม่พระคือแบบอย่างของผู้ที่ทนทุกข์จากการฟังและเจริญชีวิตตามพระวาจา ซึ่งพระเจ้าได้ทรงบันดาลให้ที่รับชัยชนะในที่สุด
หน้าภาพวาด แม่พระรับเกียรติยกขึ้นสวรรค์อีกภาพ ในพิพิธภัณฑ์วาติกัน |
บทสรุป
พี่น้องที่รัก แม่พระได้รับเกียรติยกขึ้นสวรรค์ทั้งกายและวิญญาณเช่นเดียวกับพระเยซูเจ้า โดยไม่ต้องรอการกลับคืนชีพในวาระสุดท้าย เพราะแม่พระเป็นมารดาของพระคริสตเจ้าที่ทรงรับเอากายในครรภ์ของพระนาง ดังนั้น แม่พระจึงปฏิสนธินิรมลปราศจากบาปกำเนิด และไม่ต้องทนทุกข์เพราะผลที่เกิดจากบาป คือความตายและการเน่าเปื่อยเหมือนคนอื่นทั้งหลาย
พระเจ้าปรารถนาจะให้เราทุกคนไปอยู่กับพระองค์ในสวรรค์ อย่างที่แม่พระได้รับเกียรติยกขึ้นสวรรค์ที่เราสมโภชในวันนี้ ให้เราได้ไว้ใจพระเจ้าเช่นเดียวกับแม่พระ และทำทุกอย่างตามน้ำพระทัยของพระเจ้าอย่างที่แม่พระได้กระทำ บนเส้นทางแห่งการเป็น “ผู้รับใช้ที่ต่ำต้อยของพระเจ้า” ที่เป็นแบบอย่างสำหรับมนุษย์ทุกยุคสมัยให้เจริญรอยตาม
การสมโภชในวันนี้จึงเป็นวันเฉลิมฉลองความหวังของเรา โดยมีแม่พระเป็นต้นแบบแห่งความเป็นหนึ่งเดียวกับพระเจ้า และเป็นแบบอย่างของชีวิตที่เปี่ยมด้วยพระหรรษทาน ขอให้เราวอนขอพระเจ้าในพิธีมิสซานี้ เพื่อให้เราทุกคน ทุกครอบครัว ได้มีชีวิตที่สนิทสัมพันธ์กับพระเจ้าดังเช่นแม่พระ แม่ของเรา และขอแม่พระได้เสนอวิงวอนต่อพระเจ้าเพื่อเราทุกคน ให้มีความเชื่อ ความหวัง และความวางใจในพระเจ้าเสมอ
คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
วัดพระคริสตประจักษ์ นาบัว14 สิงหาคม 2010
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น