วันเสาร์ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2566

คุณค่าของอาณาจักรสวรรค์

 

คุณค่าของอาณาจักรสวรรค์

อาทิตย์

สัปดาห์ที่ 17 เทศกาลธรรมดา

ปี A

1 พกษ 3:5, 7-12

รม 8:28-30

มธ 13:44-52

บทนำ

5 กรกฎาคม 2011 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า มีการค้นพบกรุสมบัติซึ่งเต็มไปด้วยทองคำ เพชร และอัญมณีจำนวนมาก ซุกซ่อนอยู่ในห้องลับใต้ดินภายในวัดศรีปัทมนาภะสวามี วัดฮินดูเก่าแก่แห่งหนึ่งสมัยศตวรรษที่ 16 ในเมืองตริวันดรัม รัฐแคราล่า ทางตอนใต้ของประเทศอินเดีย เบื้องต้นคาดว่า ทรัพย์สมบัติที่ค้นพบมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 14,000 ล้านปอนด์ หรือราว 687,080 ล้านบาท

ไม่ทราบว่าทรัพย์สมบัติเหล่านี้เป็นกรรมสิทธิ์ของใคร แม้พบเหรียญกษาปณ์ของ “บริษัทอินเดียตะวันออก” (East India Company) ของอังกฤษซึ่งเคยผูกขาดการค้าในดินแดนแถบนี้รวมอยู่ด้วย ผู้เชี่ยวชาญด้านโบราณคดีคาดว่า ทรัพย์สมบัติที่ค้นพบอาจเป็นของ “มหาราชา” พระองค์หนึ่งซึ่งเคยมีอำนาจเหนือดินแดนนี้ในอดีต

พระวรสารวันนี้พระเยซูเจ้าตรัสถึง “ขุมทรัพย์ที่ซ่อนอยู่ในทุ่งนา” และ “ไข่มุกเม็ดงาม” ปาเลสไตน์เป็นดินแดนซึ่งอยู่ในภาวะสงคราม การซ่อนของมีค่าไว้ใต้ดินจึงเป็นเรื่องธรรมดา กล่าวกันว่า “พื้นดินเป็นที่เก็บเงินซึ่งปลอดภัยที่สุดเพียงแห่งเดียว” อีกทั้ง “ไข่มุก” เป็นสิ่งที่คนทั่วไปหลงใหลเพราะเป็นสิ่งสวยงามและหายาก เมื่อได้เป็นเจ้าของย่อมรู้สึกปีติยินดี กฎหมายทัลมุด (Talmud) ของยิวกล่าวถึงไข่มุกว่า มีราคายิ่งกว่าสิ่งใด

1.     คุณค่าของอาณาจักรสวรรค์

พระเยซูเจ้าทรงเล่าอุปมา เพื่อบอกให้เราทราบถึงคุณค่าของอาณาจักรสวรรค์ และความชื่นชมยินดีเมื่อใครคนหนึ่งได้ครอบครองเป็นเจ้าของ ขุมทรัพย์ที่ซ่อนอยู่ในทุ่งนาและไข่มุกเม็ดงาม มีความแตกต่างและความสอดคล้องกัน คนพบขุมทรัพย์ถือเป็นเรื่องบังเอิญ ส่วนพ่อค้าผู้พบไข่มุกต้องใช้เวลาแสวงหาตลอดชีวิต การค้นพบอาณาจักรสวรรค์จึงเป็นทั้งเรื่องบังเอิญ หรือต้องแสวงหาตลอดชีวิต

พระเยซูเจ้าเสด็จมาเพื่อประกาศพระอาณาจักรของพระเจ้าในโลก “เวลาที่กำหนดไว้มาถึงแล้ว พระอาณาจักรของพระเจ้าอยู่ใกล้แล้ว จงกลับใจและเชื่อข่าวดีเถิด” (มก 1:15) พระองค์เสด็จไปทั่วแคว้นกาลิลีเพื่อประกาศข่าวดีเรื่องพระอาณาจักร (มธ 4:23) ซึ่งแตกต่างจากอาณาจักรของโลกนี้ พระอาณาจักรของพระเจ้าเป็นธรรมล้ำลึกแสดงถึงการปกครองของพระเจ้าในโลก และการประทับอยู่ของพระองค์ในหัวใจ ในชีวิต ในสังคม และในโลก

อาณาจักรสวรรค์มีคุณค่าเหนือสิ่งอื่นใด เพื่อครอบครองอาณาจักรนี้ต้องละทิ้งทุกสิ่ง ชายผู้พบขุมทรัพย์ในทุ่งนาและพ่อค้าผู้พบไข่มุกเม็ดงาม รีบกลับไปขายทุกสิ่งที่มีเพื่อซื้อนาและไข่มุกเม็ดนั้น ใครแสวงหาและปรารถนาขุมทรัพย์แห่งอาณาจักรสวรรค์ ย่อมพบความยินดีหาที่สุดมิได้ เป็นความสุขของการได้พบและอยู่กับพระเจ้า สิ่งมีค่าที่สุดในชีวิตคือ การรู้จักพระเจ้า ได้อยู่กับพระองค์ และดำเนินชีวิตตามคำสอนของพระองค์

2.   บทเรียนสำหรับเรา

พระวาจาของพระเจ้าวันนี้ได้ให้บทเรียนสำคัญกับเราหลายประการ ในการนำไปปฏิบัติในชีวิต

ประการแรก เราต้องแสวงหาพระเยซูเจ้า เมื่อเราค้นพบพระเยซูเจ้าและพันธกิจของพระองค์ สิ่งอื่นทั้งหลายย่อมกลายเป็นเรื่องรอง นักบุญเปาโลเป็นตัวอย่างสำหรับเรา “ข้าพเจ้าคิดว่าการมีชีวิตอยู่ก็คือพระคริสตเจ้า และการตายก็เป็นกำไร” (ฟป 1:21) เพื่อกล่าวเช่นนั้นได้ เราต้องมีประสบการณ์ส่วนตัวและความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับพระองค์ ผู้เป็นขุมทรัพย์แท้สำหรับเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การอธิษฐานภาวนาและดำเนินชีวิตตามพระวาจา

ประการที่สอง เราต้องยอมสละทุกสิ่ง เพื่อได้สิ่งดีที่สุดเราต้องยอมสละสิ่งดีรองลงมา เช่น ความสะดวกสบาย เราต้องพร้อมเปลี่ยนแปลงและสละน้ำใจของตน เพื่อได้พบและอยู่ในพระอาณาจักรของพระเจ้าตลอดไป ตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ด้วยการแบ่งปันสิ่งที่มีกับคนขัดสนและต้องการความช่วยเหลือ พระเยซูเจ้ามิได้ตำหนิการมีทรัพย์สมบัติมาก แต่ทรงประณามการใช้ทรัพย์สมบัติอย่างเห็นแก่ตัว

ประการที่สาม เราต้องดำเนินชีวิตมุ่งไปยังเป้าหมายสุดท้าย เราใช้เวลาส่วนใหญ่แสวงหาขุมทรัพย์จอมปลอม เช่น เงินทอง สถานะทางสังคม หรือความพึงพอใจชั่วครู่ชั่วยาม เราต้องมุ่งแสวงหาสิ่งสูงค่ากว่าคืออาณาจักรสวรรค์ ดำเนินชีวิตตามแผนการและพระประสงค์ของพระเจ้า พระอาณาจักรของพระเจ้าเป็นอาณาจักรแห่งความรักและการให้อภัย ดังนั้น เราต้องเจริญชีวิตในความรักและการให้อภัยกัน ทำให้พระอาณาจักรของพระเจ้าเป็นจริงตั้งแต่ในโลกนี้

บทสรุป

พี่น้องที่รัก อุปมาที่พระเยซูเจ้าทรงเล่าบอกให้ทราบว่า “ไม่มีสิ่งไหนมีค่าและสำคัญมากไปกว่าอาณาจักรสวรรค์” ซึ่งเป็นอาณาจักรแห่งความจริงและชีวิต อาณาจักรแห่งความศักดิ์สิทธิ์และพระหรรษทาน อาณาจักรแห่งความเมตตากรุณาและความยุติธรรม อาณาจักรแห่งความรักและสันติสุข พระเยซูเจ้าทรงเชื้อเชิญเราให้สร้างพระอาณาจักรและแสวงหาการประทับอยู่ของพระองค์ ซึ่งเป็นสิ่งสูงค่าและไม่มีวันสูญเสียไป

พระอาณาจักรของพระเจ้าสามารถเห็นได้อย่างเด่นชัดในพระบุคคลของพระเยซูเจ้า ผู้เสด็จมาเพื่อ “รับใช้ผู้อื่นและมอบชีวิตของตนเป็นสินไถ่เพื่อมวลมนุษย์” (มก 10:45) ทรงท้าทายและมอบแบบอย่างนี้แก่เราบนไม้กางเขน ศิษย์พระคริสต์ต้องดำเนินชีวิตในความรักต่อกันและการให้อภัยความผิดของกันและกัน แสวงหาพระเยซูเจ้าผู้เป็นขุมทรัพย์แท้ พร้อมเปลี่ยนแปลงและสละน้ำใจของตน เพื่อได้พบและอยู่กับพระองค์ในพระอาณาจักรตลอดไป

คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์

khuanthinwan@gmail.com

วัดนักบุญยอแซฟ ดอนทอย-หนองสนุก, สกลนคร

28 กรกฎาคม 2023

ที่มาภาพ : https://www.churchofthe12apostles.org/sunday-july-26-2020-reading-and-reflection/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น