วันเสาร์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2566

ผู้หว่านกับดินสี่ประเภท

 


ผู้หว่านกับดินสี่ประเภท

อาทิตย์

สัปดาห์ที่ 15 เทศกาลธรรมดา

ปี A

อสย  55:9-10

รม 8:18-23

มธ 13:1-23

บทนำ

มีต้นไผ่ชนิดหนึ่งในประเทศจีนชื่อ “เมาซู” (Mao Zhu) ถือเป็นไผ่ยักษ์ลำต้นใหญ่และสูงถึง 90 ฟุต ในช่วง 5 ปีแรกไผ่ชนิดนี้ไม่มีการเจริญเติบโตใด ๆ ผู้ปลูกต้องหมั่นรดน้ำและเฝ้ารอด้วยความอดทน หลังจาก 5 ปีผ่านไปจะเริ่มแตกหน่อและเจริญเติบโตอย่างรวมเร็ว สูงเท่ากับตึก 7 ชั้นภายใน 45 วัน ตลอดเวลา 5 ปีที่ดูเหมือนไม่มีการเจริญเติบโต เป็นห้วงเวลาของการหยั่งรากและแผ่ออกไปเป็นบริเวณกว้าง สั่งสมธาตุอาหารสำหรับการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว

อุปมาเรื่อง “ผู้หว่าน” ในพระวรสารนักบุญมัทธิวถือเป็นอุปมาแรกที่งดงามของพระเยซูเจ้า ทรงสั่งสอนประชาชนจากเรื่องราวในชีวิตจริงที่พวกเขาคุ้นเคย เรื่องราวของไผ่เมาซูเชิญชวนบรรดาศิษย์และผู้แพร่ธรรม ให้มีความอดทนเมื่อพบความล้มเหลวในการประกาศพระวาจา ไม่ละความพยายามในการดำเนินชีวิตเป็นแบบอย่าง และเป็นพยานถึงพระเยซูเจ้าและพระวรสาร เพื่อรอคอยการเจริญเติบโตและเกิดผลอย่างสมบูรณ์

อุปมาเรื่องผู้หว่านได้กล่าวถึงลักษณะดิน 4 ประเภท : 1) ดินตามทางเดิน ผู้คนย่ำไปมาจนแข็งยากที่เมล็ดพืชจะงอกขึ้นได้, 2) ดินบนหิน มีดินน้อยไม่มีความชื้นและอาหารเพียงพอ, 3) ดินในกอหนาม มีกอหนาม หรือวัชพืชขึ้นปกคลุม และ 4) ดินดี มีคุณภาพทำให้เมล็ดพืชเจริญเติบโต ดิน 4 ประเภทนี้พบอยู่ทั่วไปในดินแดนปาเลสไตน์ ผู้ฟังนึกภาพออกและเข้าใจทันทีเมื่อได้ยินพระเยซูเจ้าตรัส ดินทั้งสี่ชนิดคือจิตใจของมนุษย์ที่แตกต่างกัน

1.        ผู้หว่านกับดินสี่ประเภท

พระเยซูเจ้ามิได้อธิบายอุปมาที่พระองค์เล่าทุกเรื่อง แต่อุปมาเรื่อง “ผู้หว่าน” มีคำอธิบายในตอนท้าย (มธ 13:18-23) ซึ่งนักพระคัมภีร์ถือว่า เป็นส่วนที่นำมารวมเข้าในภายหลัง เมล็ดพืชคือพระวาจา หรือพระประสงค์ของพระเจ้า และดินคือใจของมนุษย์ คำอธิบายได้เน้นถึงชนิดของใจหลายแบบที่ปฏิเสธพระวาจาของพระเจ้า ในความเป็นจริง เราแต่ละคนคือตัวแทนของดินสี่ประเภทที่แตกต่างกัน

1) ดินตามทางเดิน หมายถึง “ใจแข็งกระด้าง” แสดงถึงหัวใจปิดสนิท ความจริงไม่สามารถทะลุเข้าไปถึงจิตใจคนประเภทนี้ได้เลย บาปทำให้ใจเราแข็งกระด้างและจิตใจแข็งกระด้างย่อมทำบาปมากขึ้น จนกลายเป็นความชินชา เกียจคร้าน หวาดกลัว และหยิ่งยโส สำคัญผิดคิดว่า ตนเองรู้หมดทุกอย่าง ไม่มีความจำเป็นต้องเรียนรู้อะไรอีกต่อไป

2) ดินบนหิน หมายถึง “ใจที่มีความเชื่อตื้นเขิน” เหมือนดินคลุมพื้นหิน เมื่อเมล็ดพืชตกลงไปไม่สามารถหยั่งรากลึกได้เพราะมีเนื้อดินน้อย มันงอกขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่เนื่องจากไม่มีรากจึงเหี่ยวเฉาไปเมื่อแดดจัด คนจำนวนมากเป็นเช่นนี้ เป็นคริสตชนแต่ในทะเบียนบ้าน มาวัดเพื่อให้เหมือนคนอื่น เมื่อเผชิญปัญหา หรือความยากลำบากได้ละทิ้งไป

3) ดินในกอหนาม หมายถึง “ใจหมกมุ่นกับหลายสิ่ง” ไม่มีเวลามาวัด สวดภาวนา อ่านพระคัมภีร์ หรืออยู่เงียบ ๆ กับพระเจ้า การปล่อยตัวตามความสะดวกสบายและความโน้มเอียงไม่ดี ทำให้จิตใจถูกครอบงำด้วยความเกลียดชัง อิจฉาริษยา และความโลภ สิ่งที่พวกนี้สนใจมีเพียงอย่างเดียวคือ เงิน (เช่น ยูดาสติดตามพระเยซูเจ้า แต่ไม่สามารถเอาชนะความโลภในใจได้)

4) ดินดี หมายถึง “ใจเปิดกว้าง” คนพร้อมรับฟังพระวาจาของพระเจ้าและนำมาปฏิบัติด้วยความร้อนรน ผู้นำพระวาจามาปฏิบัติในชีวิตจริง พระวาจาย่อมก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในแบบที่เราคาดไม่ถึง เหมือนการเติบโตอย่างรวดเร็วของไผ่เมาซู

2.        บทเรียนสำหรับเรา

อุปมาเรื่องผู้หว่านได้ให้บทเรียนสำคัญสำหรับเราหลายประการ ในการนำไปปฏิบัติในชีวิตประจำวัน

ประการแรก เราต้องไม่ท้อถอยในการทำความดี ผู้หว่านไม่ปฏิเสธการหว่านเมล็ดพืชแม้รู้ว่า บางเมล็ดต้องเสียไปโดยเปล่าประโยชน์ ไม่มีโอกาสเติบโต หรือเกิดผลใด ๆ แต่เขามั่นใจว่า มีบางเมล็ดตกในเนื้อดินดีและเกิดผล ดังนั้น เราไม่ควรท้อถอยในการเป็นคริสตชน และในการประกอบคุณงามความดี เราต้องพร้อมยอมเสี่ยง ไม่รอให้ทุกอย่างพร้อมเสียก่อน เราถึงกลับใจมาหาพระเจ้า

ประการที่สอง เราต้องเปิดใจรับฟังพระวาจา สิ่งที่เราต้องถามตนเองอยู่เสมอคือ เราได้เปิดใจรับฟังพระวาจาของพระเจ้ามากน้อยแค่ไหน เรากำลังสลวนอยู่กับสิ่งใดในชีวิต เงินทอง หรือความมั่นคงในชีวิต พระวาจาของพระเจ้าต้องหยั่งรากลึกในจิตใจเรา เปลี่ยนแปลงตัวเราให้เติบโตยิ่งขึ้น และเกิดผลในความรักต่อพระเจ้าและเพื่อนมนุษย์

ประการที่สาม เราเป็นดินดี เราต้องตอบสนองพระวาจาและพระประสงค์ของพระเจ้า ไม่ปล่อยให้การประจญ หรือค่านิยมของโลกครอบงำการเจริญเติบโตของเมล็ดพันธุ์แห่งพระวาจาในตัวเรา ตอบสนองต่อเสียงเรียกของพระเจ้าในการนำพระวาจาของพระองค์ไปยังบุคคลต่าง ๆ ที่เราพบในชีวิตประจำวัน

บทสรุป

พี่น้องที่รัก ดินดีคือใจที่เปิดกว้างรับฟังพระวาจาของพระเจ้าและนำไปปฏิบัติในชีวิต เป็นการเปิดใจรับความจริงของพระองค์ และยอมให้ความจริงนั้นหยั่งรากลึกในชีวิตและเกิดผลในจิตใจ หันหลังให้บาปและความโน้มเอียงไม่ดีต่าง ๆ ที่ครอบงำจิตใจ เพื่อกลับใจมาหาพระองค์และให้พระองค์พรวนดินรดน้ำดินที่แข็งให้ร่วนซุย ขุดหินขึ้นมา และดึงหนามทิ้งไป เพื่อให้ใจเรากลายเป็นดินดีและเกิดผลร้อยเท่า

การเป็นคริสตชนไม่เพียงการมาวัดฟังพระวาจาของพระเจ้าสัปดาห์ละครั้ง แต่ต้องตอบสนองพระวาจาด้วยหัวใจทั้งครบ ให้เมล็ดพันธุ์แห่งพระวาจาหยั่งรากลึกและเกิดผลในตัวเรา ศิษย์พระคริสต์ต้องเปิดใจกว้าง เป็นดินดีที่ทำให้พระวาจาเติบโตและเกิดผลสมบูรณ์ รำพึงถึงพลังและความหมายของพระวาจา เจริญชีวิตตามพระวาจาและประกาศแก่ทุกคนผ่านทางแบบอย่างชีวิตดีงามของเรา

คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์

khuanthinwan@gmail.com

วัดนักบุญยอแซฟ ดอนทอย-หนองสนุก, สกลนคร

15 กรกฎาคม 2023

เครดิตภาพ : Adisorn Khiaopo

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น