วันพฤหัสบดีที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2562

ดวงตาแห่งความเชื่อ


ดวงตาแห่งความเชื่อ
ศุกร์
สัปดาห์ที่ 1 เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า
อสย 29:17-24
มธ 9:27-31
เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้าเป็นเวลาแห่งการรอคอย อาจมีผู้คนไม่น้อยกำลังรอคอยอะไรสักอย่างจากเรา พวกเขาไม่ได้ร้องตะโกนเช่นชายตาบอดสองคนในพระวรสารวันนี้ แต่กำลังร้องขอความช่วยเหลือ เป็นเสียงกรีดร้องที่ไม่มีใครได้ยิน ดังเช่นเสียงของเด็กทารกที่ถูกทำแท้ง การร้องตะโกนเป็นเครื่องหมายบอกว่า ผู้ส่งเสียงร้องต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน เป็นเสียงแห่งความเจ็บปวดและทรมานที่เปล่งออกมาเพื่อให้ผู้คนได้รับรู้
ชายตาบอดสองคนติดตามพระเยซูเจ้าไปและร้องตะโกนว่า “โอรสของกษัตริย์ดาวิด โปรดเมตตาเราเถิด” (มธ 9:27) คนตาบอดมองไม่เห็นพระเยซูเจ้า แต่กลับรู้จักพระองค์ดีกว่าคนตาดีทั้งหลาย มีผู้คนจำนวนมากได้เห็นการอัศจรรย์ที่พระเยซูเจ้าทรงกระทำ แต่พวกเขาไม่รับรู้ว่า พระองค์เป็นพระเมสสิยาห์ ชายตาบอดทั้งสองเห็นพระเยซูเจ้าและรู้จักพระองค์ด้วยดวงตาแห่งความเชื่อ
ชายตาบอดทั้งสองมองไม่เห็นพระเยซูเจ้า ย่อมเป็นเรื่องยากสำหรับพวกเขาในการติดตามพระองค์ เพราะอาจทำให้สะดุดล้ม หรือหลงทาง แต่พวกเขามีความเพียรในการอธิษฐานภาวนาและติดตามพระเยซูเจ้า พระองค์ตรัสถามพวกเขาว่า “ท่านเชื่อว่าเราทำเช่นนั้นได้หรือ” (มธ 9:28) เพื่อช่วยให้ความเชื่อของพวกเขามั่นคงยิ่งขึ้น ที่สุด คำภาวนาและความเชื่อของเขาทั้งสองได้รับการตอบสนอง พระเยซูเจ้าทรงสัมผัสตาของพวกเขาและทำให้พวกเขากลับมองเห็น
เราส่วนใหญ่ได้รับพระพรในการมองเห็น บ่อยครั้งเรากลับมองไม่เห็นพระเยซูเจ้า ไม่ตระหนักถึงพระญาณเอื้ออาทรและการประทับอยู่ของพระองค์ท่ามกลางเราดยเฉพาะในคนยากจนและคนเดือดร้อนแสนสาหัสที่ต้องการความช่วยเหลือจากเรา พวกเขากำลังร้องขอความช่วยเหลือจากเราในหลายรูปแบบ แต่เราไม่ได้ยินและมองไม่เห็น ซึ่งเราต้องมองด้วยดวงตาแห่งความเชื่อเท่านั้น
คนตาบอดที่สุดคือคนตาดี แต่มองไม่เห็นความเดือดร้อนและความต้องการของเพื่อนมนุษย์ คริสตชนต้องไม่มองใครด้วยสายตาภายนอกเท่านั้น แต่ต้องมองด้วยสาตาแห่งความเชื่อ ศิษย์พระคริสต์ต้องมีความเพียรในการอธิษฐานภาวนาและติดตามพระเยซูเจ้า ตระหนักถึงพระญาณเอื้ออาทรและการประทับอยู่ของพระองค์ มองทุกสิ่งด้วยสายตาแห่งความเชื่อ เพื่อเห็นถึงพระพรและความช่วยเหลือของพระองค์
ขวัญ ถิ่นวัลย์, ของขวัญสุดประเสริญ ความชื่นชมยินดีแห่งการบังเกิด, (สกลนคร : สมศักดิ์การพิมพ์ กรุ๊ป, 2562), หน้า 23-24.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น