วันเสาร์ที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2561

พันธสัญญาแห่งรัก


พันธสัญญาแห่งรัก
อาทิตย์ สัปดาห์ที่ 27
เทศกาลธรรมดา
ปี B
ปฐก 2:18-25
ฮบ 2:9-11
มก 10:2-16
บทนำ
เพอร์ซีและฟลอเรนซ์ สองสามีภรรยาชาวอังกฤษเป็นเจ้าของสถิติโลกการแต่งงานที่ยาวนานที่สุด ทั้งคู่แต่งงานกัน 1 มิถุนายน 1925 และฉลองครบรอบ 80 ปีชีวิตสมรส 1 มิถุนายน 2005 ฟลอเรนซ์วัย 100 ปีได้ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวบีบีซีว่า “ฉันคิดว่าเราได้รับพระพรมาก เรายังคงรักกัน และนั่นคือส่วนที่สำคัญที่สุด” เมื่อถูกถามถึงความลับในการใช้ชีวิตคู่ ฟลอเรนซ์ตอบว่าต้องไม่กลัวที่จะกล่าวคำว่า “ขอโทษ” “คุณต้องไม่ไปนอนขณะที่ยังมีเรื่องโกรธเคืองกัน” ส่วนความลับของเพอร์ซี สามีวัย 105 ปีมีเพียงสองคำสั้นๆ “ใช่ ที่รัก”
ปัญหาเรื่องการหย่าร้างกำลังกลายเป็นเรื่องใหญ่ในช่วงสามปีหลังมานี้ ทุกประเทศมีอัตราการหย่าร้างเพิ่มสูงขึ้น ในประเทศสหรัฐอเมริกาอัตราการหย่าร้างเพิ่มสูงเป็น 43%, รัสเซีย 65%, สวีเดน 63%, อังกฤษและออสเตรเลีย 49% ส่วนอัตราการหย่าร้างในประเทศของเรา จากสถิติของสถาบันวิจัยประชากร กระทรวงมหาดไทยปี 2559 เพิ่มเป็น 39%  นับเป็นสถิติที่น่าตกใจและเป็นปัญหาที่น่าเป็นห่วงมากทีเดียว
พระวาจาของพระเจ้าวันนี้พูดถึงพันธสัญญาแห่งรักระหว่างชายและหญิง เป็นพันธะที่พระเจ้าทรงประสงค์ให้มั่นคงถาวร และท้าทายคู่สมรสให้แสดงออกถึงความภักดีต่อพระเจ้า ด้วยการรักษาพันธสัญญาศักดิ์สิทธิ์แห่งชีวิตสมรสเฉพาะพระพักตร์พระเจ้า ผู้ทรงประสงค์ให้ชีวิตครอบครัวเป็นชีวิตศักดิ์สิทธิ์และมั่นคงยาวนานโดยไม่ถูกแบ่งแยก สามีและภรรยาต่างเป็นหุ้นส่วนชีวิตที่เท่าเสมอกัน การล่มสลายของครอบครัว ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อสังคม
1.       พันธสัญญาแห่งรัก
พระวรสารวันนี้ชาวฟาริสีได้ถามพระเยซูเจ้าเพื่อจับผิดว่า “เป็นการถูกต้องหรือไม่ที่ชายจะหย่ากับภรรยา” (มก 10:2) โดยหวังให้พระองค์วิพากษ์วิจารณ์ธรรมเนียมปฏิบัติของโมเสส และทำให้เกิดความแตกแยกในหมู่ประชาชน แต่ทรงใช้โอกาสนี้ประกาศว่า พันธะของการแต่งงานมาจากพระเจ้า ไม่ใช่มนุษย์ เป็นพันธสัญญาที่คงอยู่ถาวรและลบล้างไม่ได้ “สิ่งที่พระเจ้าทรงรวมกันไว้ มนุษย์อย่าแยกเลย” (มก 10:9) ทรงย้อนกลับไปยังพระประสงค์แรกของพระเจ้าที่สร้างมนุษย์ให้เป็นชายและหญิง พวกเขาไม่เป็นสองอีกต่อไป แต่เป็นเนื้อเดียวกัน
สัมพันธภาพของการแต่งงานจึงเป็นพระพรของพระเจ้า ที่รวมชายหนึ่งหญิงหนึ่งให้เป็นหนึ่งเดียวกันด้วยการสมรส และมนุษย์ไม่สามารถแยกสิ่งที่พระเจ้าทรงรวมเข้าด้วยกันได้ (มธ 19:6) ซึ่งตรงข้ามอย่างสิ้นเชิงกับธรรมเนียมปฏิบัติทั่วไปของมนุษย์ที่เลิกร้างกันง่าย พระเยซูเจ้าได้แสดงให้เห็นว่าชายและหญิงมีสิทธิเท่าเทียมกัน และการแต่งงานเป็นสัมพันธภาพที่มั่นคงถาวร การที่โมเสสอนุญาตให้หย่าร้างได้เพราะใจที่แข็งกระด้างของพวกเขา
พระศาสนจักรสอนเสมอมาว่าการแต่งงานระหว่างคริสตชนเป็นศีลศักดิ์สิทธิ์ ที่ไม่แบ่งแยกและหย่าร้างไม่ได้ มีแต่ความตายเท่านั้นที่ทำให้พันธะของการแต่งงานจบสิ้นลง “การหย่าร้างเป็นความผิดหนักต่อกฎธรรมชาติ  เป็นการละเมิดพันธสัญญา ที่คู่สามีภรรยาได้มอบความสมัครใจให้แก่กัน ที่จะเจริญชีวิตเพื่อกันและกันจนวันตาย... การหย่าร้างยังเป็นสิ่งที่ผิดศีลธรรมเพราะนำความยุ่งเหยิงมาสู่ครอบครัวและสังคม” (CCC #2384)
2.       บทเรียนสำหรับเรา
พระวาจาของพระเจ้าวันนี้ ได้ให้บทเรียนสำคัญสำหรับเราหลายประการ ในการนำไปปฏิบัติในชีวิตประจำวัน
ประการแรก  สามีภรรยาต้องทำงานหนักเพื่อสร้างครอบครัวที่ดี ชีวิตครอบครัวเรียกร้องให้เราออกจากตัวเอง มีความจริงใจ ไว้ใจกัน และใส่ใจในความต้องการของกันและกัน ด้วยการมอบตนเอง แบ่งปันชีวิต และให้อภัยกันด้วยใจกว้าง มีความรักที่เสียสละปราศจากความเห็นแก่ตัว รู้จักอดทนและมองข้ามความบกพร่องของกันและกัน ผ่อนหนักผ่อนเบาและเอาใจเขามาใส่ใจเรา
ประการที่สอง เราต้องให้พระเยซูเจ้าเป็นศูนย์กลางของครอบครัว ครอบครัวคริสตชนไม่ได้มีเพียงพ่อ-แม่-ลูก แต่ต้องมีพระเยซูเจ้าประทับอยู่ท่ามกลาง เช่นเดียวกับครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ของพระนางมารีย์และนักบุญยอแซฟ ดังนั้น ครอบครัวในฐานะเป็นพระศาสนจักรระดับบ้านต้องได้รับการหล่อเลี้ยงด้วยพระวาจา การอธิษฐานภาวนา และการไปร่วมพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ พ่อ-แม่ต้องเป็นครูคนแรกที่สอนลูกให้รู้จักพระเจ้าและการอธิษฐานภาวนา
ประการที่สาม เราต้องเห็นใจผู้ที่หย่าร้างและครอบครัวมีปัญหา พระเจ้าไม่ทรงทอดทิ้งครอบครัวที่หย่าร้างและล้มเหลว คริสตชุมชนต้องยอมรับพวกเขา ให้ความเคารพ เห็นอกเห็นใจและให้กำลังใจ แสดงออกถึงความเป็นพี่น้องในความรัก การสนับสนุนและช่วยเหลือตามกำลังความสามารถของแต่ละคน ทั้งนี้เพราะการหย่าร้างหรือแต่งงานใหม่เป็นความเจ็บปวดมากพออยู่แล้ว เราต้องไม่ไปซ้ำเติมหรือตัดพวกเขาออกจากหมู่คณะหรือชุมชนคริสตชน
บทสรุป
พี่น้องที่รัก พระเจ้าทรงประสงค์ให้ชีวิตครอบครัวเป็นชีวิตศักดิ์สิทธิ์และมั่นคงยาวนานโดยไม่ถูกแบ่งแยก ทั้งนี้เพื่อความดีของคู่บ่าว-สาว ซึ่งต่างเป็นหุ้นส่วนชีวิตที่เท่าเสมอกัน การใช้ชีวิตร่วมกันช่วยส่งเสริมและเติมเต็มชีวิตของกันและกันให้สมบูรณ์ โดยมีเป้าหมายเพื่อการให้กำเนิดบุตร การล่มสลายของครอบครัวเพราะการหย่าร้าง ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อสังคม อีกทั้ง การหย่าร้าง เป็นสิ่งที่ขัดแย้งกับแผนการและพระประสงค์ของพระเจ้า 
“ครอบครัวดีเริ่มที่บ้าน” สามีภรรยาต้องทำงานหนักและร่วมมือกันในการสร้างครอบครัวของเราให้เป็นครอบครัวดี บนพื้นฐานแห่งความรักที่ไม่แบ่งแยก การให้อภัยและการลืมความผิดของกันและกัน ประการสำคัญ พระเยซูเจ้าต้องเป็นศูนย์กลางของครอบครัว ให้พระองค์ได้เข้ามามีบทบาท นำทางและทำให้ครอบครัวของเราศักดิ์สิทธิ์  แม้ในห้วงเวลาแห่งความยากลำบากและภาวะวิกฤต จำไว้ว่า “ครอบครัวที่อธิษฐานภาวนาร่วมกัน จะอยู่ด้วยกัน”
คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
khuanthinwan@gmail.com
วัดแม่พระแจกจ่ายพระหรรษทาน ดอนม่วย, พรรณานิคม
6 ตุลาคม 2018
ภาพ: พิธีสมรส, วัดแม่พระแห่งภูเขาการ์แมล ป่าพนาวัลย์, เมือง, สกลนคร; 2017-04-29

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น