ฆาตกรรมเด็กทารก 2002 ศพ
“ถ้าคุณรู้จักผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งเธอกำลังตั้งครรภ์ได้ 3 เดือน มีลูกอยู่แล้ว 8 คน ลูก 3 ใน 8 คนนั้นหูหนวก อีก 2 คนตาบอด และ 1 ใน 8 คนนั้นมีอาการทางสมอง (Mentally Retard) และตัวเธอเองก็ป่วยเป็นโรคทางเพศ (Syphilis) คุณจะแนะนำให้เธอทำแท้งหรือไม่” นี่คือส่วนหนึ่งของฟอร์เวิร์ดเมลที่ได้รับ และคำตอบที่เฉลยให้ทราบคือ “หากใครคิดแนะนำให้หล่อนไปทำแท้งแล้วล่ะก็ หมายความว่าคุณเพิ่งตัดสินใจฆ่า บีโธเฟ่น (Ludwig van Beethoven: 1770-1827) คีตกวีผู้ยิ่งใหญ่ของโลกไปเสียแล้วล่ะ”
แต่ในความเป็นจริง มีเด็กเป็นจำนวนมากที่ถูกทำแท้งก่อนที่จะได้มีโอกาสลืมตามาดูโลก เด็กเหล่านี้กำลังจะเกิดมา เขาบริสุทธิ์และไม่ได้รับรู้อะไรด้วยเลย แต่ต้องมารับกรรมในสิ่งที่คนสองคนก่อขึ้น เขาถูกทำร้ายถึงแก่ชีวิตโดยไม่มีทางสู้และป้องกันตนเอง เป็นเสียงกรีดร้องที่ไม่มีใครได้ยิน ข่าวการค้นพบซากทารกที่ถูกทำแท้งเถื่อนรวม 2,002 ศพ บริเวณช่องเก็บศพวัดไผ่เงินโชตนาราม ถนนจันทน์ ซอย 43 แยก 22 แขวงบางโคล่ เขตบางคอแหลม กรุงเทพฯ เมื่อไม่นานมานี้ (16 พฤศจิกายน) คือสิ่งที่สะท้อนความเป็นจริงในสังคมและประจานความฟอนเฟะของสังคมไทยได้เป็นอย่างดี
นี่คือโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ของสังคมไทย ที่ไม่ต่างจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในหลายประเทศเท่าใดนัก ประการสำคัญ เด็กเหล่านี้คือผู้บริสุทธิ์ที่ไม่ได้มีเรื่องโกรธเคืองอะไรใครและไม่มีทางสู้ แต่ต้องมาถูกทำลายด้วยน้ำมือของคนที่เป็นแม่และพ่อที่ไม่รับผิดชอบ ซึ่งบีบบังคับให้เธอต้องทำเช่นนั้น ยิ่งได้อ่านความคิดของเด็กด้วยกันแล้วยิ่งสลดใจ ด.ช.เอ (นามสมมติ) อายุ 7 ขวบ นักเรียนชั้น ป.2 โรงเรียนวัดไผ่เงิน กล่าวว่า “รู้สึกหดหู่กับสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่รู้เหมือนกันว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำไมพวกผู้ใหญ่ถึงได้ใจร้ายขนาดนี้”
ชีวิตเป็นสิ่งที่มีค่า นับตั้งแต่มนุษย์ปฏิสนธิในครรภ์ของมารดา จนถึงเวลาที่ลืมตามาดูโลก สำหรับเราคริสตชน ชีวิตมีความหมายมากกว่านั้น เพราะเป็นของประทานจากพระเจ้า ที่ทรงสร้างเรามาตามฉายาของพระองค์ ให้มีความคิด สติปัญญา และน้ำใจอิสระที่จะดำเนินชีวิตตามที่ตนเองต้องการ ดังนั้น จึงมีแต่พระเจ้าเท่านั้นที่เป็นเจ้าของชีวิต มนุษย์ไม่มีสิทธิ์ทำลายชีวิตของตนหรือของผู้อื่น
เราจะมีส่วนชดเชยบาปของสังคมเหล่านี้ได้อย่างไร วันเสาร์ที่ 27 พฤศจิกายนนี้ ขอเชิญร่วมพิธี “ตื่นเฝ้าเพื่อชีวิตมนุษย์ทุกคนที่จะเกิดมา” (Vigil for All Nascent Human Life) ซึ่งพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ ที่ 16 จะเสด็จเป็นองค์ประธาน ณ มหาวิหารนักบุญเปโตร และร่วมสวดทำวัตรเย็น ของวันอาทิตย์สัปดาห์ที่ 1 เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า
สมเด็จพระสันตะปาปายังทรงขอร้องบรรดาพระสังฆราชทุกสังฆมณฑล และทุกวัดให้ร่วมภาวนาพร้อมกับบรรดาสัตบุรุษเพื่อจุดประสงค์นี้ในวัดของตน รวมถึงในคณะนักบวช สมาคม หรือกลุ่มต่างๆ ซึ่งทุกแห่งสามารถทำได้ ด้วยการสวดทำวัตรเย็น สายประคำ และอวยพรศีลมหาสนิท หากคริสตชนทุกคนสวดพร้อมกันทั่วโลก ลองคิดดูว่าจะมีพลังมากขนาดไหน
สามารถดาวโหลดบทภาวนาได้ที่ http://www.catholic.or.th/service/inform/bookfold_4.doc
ขอบคุณ “คุณสัม” Kakanand Srungboonmee ที่จุดประกายความคิด
คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
danielkhuan@hotmail.com
วัดพระคริสตประจักษ์ นาบัว23 พฤศจิกายน 2010
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น