ผู้เลี้ยงแกะที่ดี
วันอาทิตย์
สัปดาห์ที่ 4 เทศกาลปัสกา
ปี B
|
กจ 4:
8-12
1 ยน 3: 1-2
ยน 10:11-18
|
บทนำ
ชีวิตของสมเด็จพระสันตะปาปายอห์น ปอลที่ 2 ที่ได้รับการประกาศแต่งตั้งเป็นบุญราศีเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม ค.ศ. 2011 ที่ผ่านมา
คือรูปแบบชีวิตที่สะท้อนการเป็นผู้เลี้ยงแกะที่ดีที่ ซึ่งบิลลี่ แกรแฮม
นักเทศน์ทางโทรทัศน์ชาวอเมริกันได้ให้คำอธิบายไว้อย่างลึกซึ้งว่า “พระองค์เจริญชีวิตเหมือนพระอาจารย์
ผู้เลี้ยงแกะที่ดี และพระองค์สิ้นพระชนม์เหมือนพระอาจารย์ ผู้เลี้ยงแกะที่ดี”
อาทิตย์นี้ เราฉลองพระเยซูเจ้าผู้เลี้ยงแกะที่ดี พระศาสนจักรเรียกเราให้ไตร่ตรองถึงความหมายแห่งการเรียกของพระเจ้าและภาวนาเพื่อกระแสเรียกเป็นพิเศษ
อีกทั้งเตือนใจเราว่า ในฐานะคริสตชนเรามีหน้าที่และความรับผิดชอบในการส่งเสริมกระแสเรียก
พระคัมภีร์ได้ใช้ภาพพจน์ของ “นายชุมพา” หรือ “ผู้เลี้ยงแกะ”
เพื่อแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างพระเจ้ากับประชากรอิสราแอล
ในพันธสัญญาเก่าได้ใช้ภาพพจน์ของผู้เลี้ยงแกะกับพระเจ้า
ในฐานะที่ทรงเป็นผู้นำและผู้ดูแลประชากรของพระองค์
ในหนังสืออพยพหลายครั้งได้เรียกพระยาเวห์เป็นผู้เลี้ยงแกะ
เช่นเดียวกับประกาศกอิสยาห์และเอเศเคียล ที่เปรียบเทียบการปกป้องดูแลของพระยาเวห์ต่อประชากรของพระองค์ดังผู้เลี้ยงแกะ
“พระองค์จะทรงเลี้ยงฝูงแพะแกะของพระองค์อย่างผู้เลี้ยงแกะ
พระองค์จะทรงรวบรวมลูกแกะไว้ในพระกรของพระองค์...” (อสย 40:11)
ตั้งแต่แรกเริ่มชาวยิวมองว่า
พระเจ้าคือผู้เลี้ยงแกะที่ทรงเลี้ยงดูพวกเขาดุจลูกแกะ “พระเจ้าทรงเลี้ยงดูข้าพเจ้าดุจเลี้ยงแกะ
ข้าพเจ้าจะไม่ขัดสน...” (สดด 23) ในเวลาต่อมาคำว่า “ผู้เลี้ยงแกะ”
ได้ใช้หมายถึงผู้นำชาวยิว ซึ่งเป็นตัวแทนของพระเจ้าพระยาเวห์ในโลก
แต่ในความเป็นจริง ผู้เลี้ยงแกะเหล่านี้ไม่ได้เป็นผู้เลี้ยงที่ดีสมกับการเป็นตัวแทนของพระองค์
1.
ผู้เลี้ยงแกะที่ดี
ในพันธสัญญาใหม่ พระเยซูเจ้าทรงเรียกผู้ติดตามและฟังพระองค์ว่า “ฝูงแกะไม่มีคนเลี้ยง”
(มก 6:34) และในพระวรสารวันนี้ได้เปิดเผยให้เราทราบว่า
พระองค์เป็น “ผู้เลี้ยงแกะที่ดี” (ยน 10:11) ซึ่งแสดงออกให้เห็นใน
4 ลักษณะ
1)
พระองค์ทรงรู้จักแกะและแกะเหล่านั้นจำเสียงของพระองค์ได้ พระองค์ทรงรู้ถึงความต้องการ ความดีและความบกพร่องของเราแต่ละคน
พระองค์ทรงรักเราอย่างที่เราเป็น ด้วยข้อจำกัดต่างๆ ที่เรามีและทรงคาดหวังให้เราตอบรับความรักของพระองค์
ด้วยการปฏิบัติตามพระวาจาของพระองค์ที่ตรัสกับเราในมิสซา ทางพระคัมภีร์และคำเทศน์ของพระสงฆ์
2)
พระองค์ทรงปกป้องฝูงแกะของพระองค์
พระองค์ทรงรวมเราให้เป็นหนึ่งเดียวในความรักของพระบิดาเจ้า
ทรงนำทางและปกป้องเราจากปีศาจและอำนาจของมัน ทรงรักษาแกะที่เจ็บป่วยให้หายด้วยพระหัตถ์ของพระองค์
ผ่านทรงศีลแห่งการคืนดีและศีลเจิมคนป่วย
3)
พระองค์ทรงเลี้ยงดูฝูงแกะของพระองค์ พระองค์ทรงนำฝูงแกะไปยังทุ่งหญ้าที่อุดมสมบูรณ์คือพระศาสนจักร
ทรงเลี้ยงดูเราด้วยพระกายและพระโลหิตของพระองค์ ทรงแสวงหาแกะที่สูญหายและออกตามหาจนพบ
เพื่อนำเรากลับสู่บ้านนิรันดร
4)
พระองค์ทรงสิ้นพระชนม์เพื่อฝูงแกะของพระองค์
พระองค์ไม่เหมือนคนรับจ้างทั่วไปที่ทิ้งฝูงแกะหนีเอาตัวรอดเมื่อมีอันตราย
ตรงข้าม ทรงยอมสละชีวิตเพื่อป้องกันฝูงแกะจากสัตว์ร้ายและขโมย ให้ได้รับความปลอดภัย
ทรงรับทนทรมานเพื่อปลดปล่อยเราให้พ้นจากบาป
2.
บทเรียนสำหรับเรา
พระวรสารวันนี้ ได้ให้บทเรียนและแนวปฏิบัติในการดำเนินชีวิตประจำวันสำหรับเราหลายประการ
ประการแรก เราต้องเป็นผู้เลี้ยงและผู้นำที่ดี เราจะกลายเป็นผู้เลี้ยงที่ดีได้ในความรักที่เรามีต่อเพื่อนพี่น้อง
ภาวนาเพื่อเขา ให้เวลาและใช้พระพรพิเศษต่างๆ ที่เรามีเพื่อผู้อื่น ในการส่งเสริมความรักและความสามัคคีเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน
ประการที่สอง เราต้องเป็นแกะที่ดีในฝูงแกะของพระเยซูเจ้า ด้วยการฟังเสียงผู้เลี้ยงของเรา อย่างบิดามารดา ครูบาอาจารย์
เจ้าอาวาสหรือพระสังฆราชของเรา ปฏิบัติตามคำแนะนำและร่วมมือกับท่านในงานหน้าที่ต่างๆ
ที่ได้รับมอบหมายด้วยความรับผิดชอบ มิใช่การหลงไปตามเสียงอื่น
เช่น เสียงเรียกร้องของความปรารถนาฝ่ายเนื้อหนัง ความมักได้เห็นแก่ตัว
หรือความสะดวกสบายฝ่ายโลก
ประการที่สาม เราต้องภาวนาเพื่อกระแสเรียกและชีวิตผู้อภิบาล
พระศาสนจักรได้ใช้อาทิตย์นี้ในการภาวนาเพื่อกระแสเรียกการเป็นพระสงฆ์
และชีวิตแห่งการอุทิศตนเพื่อพระเจ้า
คริสตชนแต่ละคนมีส่วนในการส่งเสริมและสนับสนุนกระแสเรียก “แม้เราจะเป็นนักบวชหรือพระสงฆ์ไม่ได้
แต่เราสามารถสนับสนุนใครบางคนให้เป็นนักบวชหรือพระสงฆ์ได้”
บทสรุป
พี่น้องที่รัก
พระเยซูเจ้าทรงยืนยันกับเราในวันนี้ว่า พระองค์เป็นผู้เลี้ยงแกะที่ดี
ทรงรักและรู้จักแกะทุกตัว ทรงดูแลเอาใจใส่แกะแต่ละตัวเป็นอย่างดี
และทรงปกป้องฝูงแกะจากสุนัขป่าและอันตรายต่างๆ ด้วยชีวิตของพระองค์ พระองค์ไม่ได้ทิ้งฝูงแกะแล้วหนีไป
ปล่อยให้แกะอยู่ตามยถากรรม
หรือทิ้งให้เผชิญกับอันตรายตามลำพังเหมือนผู้รับจ้างทั่วไป
แต่พระองค์ยอมทำทุกอย่างเพื่อให้แกะทุกตัวปลอดภัยและไม่กระจัดกระจายไป เพื่อว่า “จะมีแกะแต่ฝูงเดียวและนายชุมพาบาลแต่ผู้เดียว”
ใครที่มาหาพระเยซูเจ้าและฟังเสียงของพระองค์จะไม่หลงทางแต่จะได้รับชีวิตนิรันดร
ให้เราเรียนแบบความรักของผู้เลี้ยงแกะที่ดีในการปฏิบัติต่อผู้อื่น ดำรงตนในความรักของพระองค์ในชีวิตประจำวันของเรา
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในความรักต่อผู้อื่น “ถ้าท่านมีความรักต่อกัน
ทุกคนจะรู้ว่าท่านเป็นศิษย์ของเรา” (ยน 13:35) หากเราต้องการเป็นผู้เลี้ยงที่ดีเช่นเดียวกับพระองค์
เราจะต้องมีชีวิตที่สนิทสัมพันธ์กับพระบิดาเจ้าและเพื่อนพี่น้อง เป็นต้นในครอบครัว
หมู่คณะและหมู่บ้านของเรา
คุณพ่อขวัญ
ถิ่นวัลย์
danielkhuan@hotmail.com
วัดพระคริสตประจักษ์ นาบัว27 เมษายน 2012
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น